"ทิพยประกันภัย"ลุยปักธงอาเซียน รับเออีซี ชี้ตลาดแห่งโอกาสรุกกลุ่มประเทศ CLMV ล่าสุดเพิ่งเปิดบริษัทในลาว ไล่กวาดงานโครงการก่อสร้าง แถมครึ่งปีหลังพร้อมประเดิมตลาดประกันชีวิตต่อ แย้มเป้าหมายต่อไปเล็งตั้งบริษัทร่วมทุนในกัมพูชา-เปิดสำนักงานผู้แทนเมียนมาร์
นายสมพร สืบถวิลกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ในฐานะประธานกรรมการ บริษัท ทิพยประกันภัย (ลาว) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้เริ่มให้บริการด้านประกันภัยใน สปป.ลาว มาได้แล้วราว 1-2 สัปดาห์ โดยพร้อมรับประกันภัยทุกประเภท แต่มีงานหลักคือการรับประกันภัยงานก่อสร้างต่างๆ ใน สปป.ลาว
สำหรับการเข้าไปทำธุรกิจใน สปป.ลาว ดังกล่าวนั้น เป็นการร่วมลงทุนระหว่าง นักธุรกิจชาวลาว ถือหุ้น 20% ร่วมกับธุรกิจด้านประกันภัยอีก 3 กลุ่มคือ กลุ่มทิพยประกันภัย กลุ่มพานิชชีวะ (เจ้าของธุรกิจ กรุงไทยพานิชประกันภัย, ไทยศรีประกันภัย และสยามซิตี้ประกันภัย) และกลุ่มอาคเนย์ โดยบริษัทมีทุนจดทะเบียน 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 60 ล้านบาท)
"เราเริ่มเปิดตัวด้วยการประกันภัยโครงการก่อสร้างต่างๆ ใน สปป.ลาว ก่อน เพราะเป็นตลาดที่กำลังเติบโตตามแผนการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานจำนวนมาก ทั้งของภาครัฐและเอกชน รวมถึงมีธุรกิจจากไทยเข้าไปลงทุนโครงการเหล่านี้ในลาวด้วย ถือว่าเป็นจังหวะการเข้ามาลงทุนในช่วงที่ตลาดยังมีศักยภาพเติบโตได้สูงมาก"
นายสมพรกล่าวอีกว่า ในปีที่ผ่านมาตลาดประกันภัยของลาวมีมูลค่าทั้งส้ินประมาณ 60 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนแบ่งตลาดส่วนใหญ่เป็นของบริษัท AGL ซึ่งเป็นธุรกิจร่วมทุนระหว่างรัฐบาลลาวและรัฐบาลฝรั่งเศส แม้มูลค่าตลาดในปัจจุบันจะยังไม่ใหญ่มากนัก แต่ก็เป็นสัญญาณที่ดีว่ายังสามารถเติบโตได้อีกมาก คาดว่าในปีแรกที่บริษัทเริ่มเข้าไปทำธุรกิจน่าจะสร้างเบี้ยได้ราว 6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
นอกจากธุรกิจด้านประกันวินาศภัยแล้ว นายสมพรกล่าวอีกว่า ใบอนุญาตการจัดตั้งธุรกิจดังกล่าวนั้น ถือเป็นใบอนุญาตรวมที่สามารถทำธุรกิจได้ทั้งประกันวินาศภัย ประกันชีวิต และการประกันภัยต่อ หลังจากเริ่มทำธุรกิจประกันวินาศภัยดังกล่าวแล้ว คาดว่าในช่วงครึ่งหลังของปีนี้บริษัทก็มีแผนจะขยายไปรับประกันชีวิตเพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งตลาดประกันชีวิตในลาวยังค่อนข้างเล็กมาก มีมูลค่าตลาดในปีที่แล้วราว 2-3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
นายสมพรกล่าวอีกว่า บริษัทยังมีความสนใจจะขยายตลาดออกไปในประเทศอื่นๆ ด้วย โดยเฉพาะกลุ่ม CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมาร์ และเวียดนาม) ขณะนี้กำลังเจรจาและศึกษาความเป็นไปได้ของการเข้าไปเปิดธุรกิจประกันภัยในกัมพูชา คาดว่าน่าจะได้ข้อสรุปภายในปีนี้ รวมถึงกำลังยื่นขอจัดตั้งสำนักงานผู้แทน (Representative Office) ในเมียนมาร์ด้วย เพื่อจะเตรียมตัวสำหรับการยื่นขอใบอนุญาตประกอบกิจการในอนาคต
"การออกไปลงทุนในประเทศอื่นๆ เราก็คงจะไปลงทุนด้วยกันร่วมกันในนามกลุ่มผู้ถือหุ้นไทย 3 กลุ่มที่เป็นพันธมิตรกันเช่นเดียวกับกรณีในลาว" นายสมพรกล่าว
.jpg)
ข่าวเด่น