หุ้นทอง
"AMATA" มั่นใจการลงทุนไทยฟื้น พร้อมเปิดกลุ่มทุน "ยุโรป อเมริกา จีน" เตรียมช้อปที่ดินเพิ่ม


  

AMATA  มั่นใจสัญญาณนักลงทุนต่างชาติเริ่มกลับเข้ามาลงทุนในไทย หลังสถานการณ์การเมืองคลี่คลาย พร้อมเปิดกลุ่มทุนยักษ์ใหญ่ "ยุโรป อเมริกา จีน" เตรียมเจรจาซื้อที่ดิน 700-800 ไร่  ทั้งในนิคมฯอมตะนคร –ชิตี้ รอโฉมหน้ารัฐบาลใหม่ เร่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย

 

       
 
 
นายวิบูลย์ กรมดิษฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่และกรรมการบริหาร บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) หรือ AMATA เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัท เริ่มเห็นสัญญาณการลงทุนจากต่างประเทศกลับเข้ามาอย่างชัดเจนมากขึ้น ทั้งจากกลุ่มทุนยุโรป อเมริกา  จีน และ ญี่ปุ่น ซึ่งมาจากสถานการณ์การเมืองที่คลี่คลาย ประกอบกับมีการจัดตั้งคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บอร์ด บีโอไอ ชุดใหม่ ที่ได้มีการอนุมัติโครงการการลงทุนไปแล้วที่ 1.2 แสนล้านบาท และยังมีโครงการที่พิจารณาค้างอยู่อีก 5.8 แสนล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะเป็นผลดีกับทิศทางการลงทุนในช่วงต่อไป และเป็นการตอกย้ำความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนต่างชาติ ที่มั่นใจว่าหลังจากนี้จะเริ่มทยอยกลับเข้ามาติดต่อและเจรจาเพื่อซื้อที่ดินในนิคมฯอย่างต่อเนื่อง   
 
 
 
 
ทั้งนี้ ในส่วนของบริษัทอมตะ ขณะนี้มีการเจรจาเพื่อซื้อที่ดินทั้งในส่วนของนิคมฯอมตะนครและชิตี้ รวม 700-800 ไร่ โดยแบ่งเป็นกลุ่มทุนจากจีน ประมาณ 500 ไร่  และในส่วนนี้จะมีนักลงทุนรายใหญ่ของจีนที่ต้องการซื้อพื้นที่ จำนวน 120 ไร่  ส่วนที่เหลือราว 100-200 ไร่ จะเป็นของกลุ่มทุนจากยุโรป อเมริกา และ ญี่ปุ่น  โดยอุตสาหกรรมที่เข้ามาจะอยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ 60-70 % ซึ่งมองว่าไทยมีข้อได้เปรียบในเรื่องฐานการผลิตรถยนต์ที่สำคัญติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลก รวมทั้งยังมีความน่าสนใจในเรื่องของตลาดการลงทุนที่จะมีอัตราการเติบโตในอนาคต 

“เป็นที่น่าสังเกตว่า การที่ยุโรปตัดสินใจมาลงทุนในไทยครั้งนี้ เนื่องจากไทยเป็นฐานการผลิตที่สำคัญ ประกอบกับตลาดมีโอกาสเติบโตอีกมาก จากการที่ไทยจะก้าวสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ในปี 2558 ทำให้ไทยเป็นจุดยุทธศาสตร์การลงทุนที่น่าสนใจในสายตาของนักลงทุนทั่วโลก แม้ว่าช่วงที่ผ่านมาสถานการณ์ในประเทศยังมีปัญหาทางการเมืองที่ยังขาดเสถียรภาพ แต่ด้วยเหตุที่นักลงทุนในยุโรปและอเมริกามีความเข้าใจในสถานการณ์ของแต่ละประเทศดี สามารถแยกออกระหว่างปัญหาการเมืองและเศรษฐกิจได้” นายวิบูลย์ กล่าว
 
  
 
 
 
นายวิบูลย์ กล่าวอีกว่า สำหรับเป้าหมายยอดขายที่ดินในปีนี้ ยังไม่สามารถกำหนดได้ขณะนี้ เนื่องจากต้องรอข้อสรุปในทิศทางต่างๆ โดยเฉพาะการกำหนดแผนของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ในการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่และโรดแม็ปที่จะออกมาเพื่อเดินหน้าผลักดันเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งจะเป็นตัวแปรที่สำคัญในการประเมินทิศทางการลงทุน และการตัดสินใจของนักลงทุนต่างชาติที่จะเข้ามาในระยะต่อไปอีกด้วย   

“ขณะนี้ทิศทางตลาดการลงทุนของภาคอุตสาหกรรมเริ่มสดใสมากขึ้น ซึ่งคาดว่าครึ่งปีหลังจะมีจำนวนนักลงทุนต่างชาติกลับเข้ามาเจรจา และติดต่อซื้อขายที่ดินมากขึ้นทั้งรายเก่า และรายใหม่ โดยภาพรวมในปีนี้น่าจะมียอดขายที่ดินมากกว่าปีก่อนที่มียอดขายอยู่ที่ 1,008 ไร่ ซึ่งตั้งแต่ต้นปีจนถึงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา มียอดขายที่ดินแล้ว 178 ไร่ ขณะนี้มีลูกค้าอีกหลายรายที่อยู่ระหว่างรอเซ็นสัญญาซื้อขายที่ดิน” นายวิบูลย์กล่าว
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 03 ก.ค. 2557 เวลา : 09:32:51
20-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 20, 2024, 12:17 am