อสังหาริมทรัพย์
"เอสซี แอสเสท"ลุยเปิด 5 โครงการใหม่แนวราบ-แนวสูง มูลค่า 7 พันล้าน พร้อมเปิดแบรนด์ใหม่รุกตลาดบ้านเดี่ยว 3-5 ล้านย่านรังสิต


 

"เอสซี แอสเสท" เดินหน้าสร้างอัตราเติบโตอย่างยั่งยืน รับมือถูกสังคมจับตา ชู 4 กลยุทธ์เด็ด สู่การเติบโตต่อเนื่องทุกปี ตั้งเป้ารายได้ปีนี้ทะลุ 12,000 ล้านบาท พร้อมเตรียมเปิดโครงการใหม่อีก 5 โครงการ ทั้งแนวราบและแนวสูง รวมมูลค่า 7 พันล้าน และเปิดแบรนด์ใหม่รุกตลาดบ้านเดี่ยวราคา 3-5 ล้าน ย่านรังสิตที่มีกำลังซื้อสูง 


 
 
นายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่เกิดขึ้นในข่วงที่ผ่านมา ไม่ได้ส่งผลกระทบให้ทำงานยากขึ้นแต่อย่างใด เพราะทำงานยากมาโดยตลอดอยู่แล้ว ไม่ว่าใครมาเป็นรัฐบาลก็ตาม เนื่องจากเอสซีฯ เป็นบริษัทที่ถูกสังคมจับตา เหมือนถูกสปอร์ตไลท์ฉายอยู่ตลอดเวลา ดังนั้น ในการทำงานจึงต้องระมัดระวังตัวมาก และจะทำโครงการอะไร ก็ต้องทำให้ดีที่สุด เช่นเดียวกับการเลือกซื้อที่ดินที่ต้องหาที่ดินทำเลเกรดเอเท่านั้น หรือแม้บางครั้งทราบข่าวที่มีผลต่อราคาที่ดิน หากเป็นผู้ประกอบการรายอื่นอาจรีบซื้อทันที แต่บริษัทจะไม่ซื้อเลย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดข้อครหาภายหลัง 

สำหรับนโยบายการดำเนินงานของเอสซีฯนั้น จะยึดแนวทางการดำเนินงานที่มีการเติบโตอย่างอย่างยั่งยืน “Sustainable Growth with Care"ด้วยกลยุทธ์หลัก 4 ข้อ เพื่อการดำเนินธุรกิจในครึ่งปีหลังและเพื่อรองรับการเติบโตอย่างมีคุณภาพและยั่งยืน สำหรับทศวรรษที่ 2 เป็นต้นไป คือ 1.การปรับปรุงพัฒนาภายในองค์กร (ซ่อม-เสริม-สร้าง) ตั้งแต่การพัฒนาระบบการทำงาน ฐานข้อมูลต่างๆ รวมไปถึงการพัฒนาบุคลากรให้สามารถรองรับการเติบโตทางด้านรายได้และกำไรสุทธิ ควบคู่กับการเติบโตของจำนวนโครงการ ลูกบ้าน และพนักงานที่เพิ่มขึ้นในแต่ละปี ตั้งแต่ทศวรรษที่ 2 เป็นต้นไป 2. การรักษาระดับกำไรขั้นต้นให้สูงกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม 3. การลงทุนอย่างระมัดระวังและจัดหาที่ดินใหม่ในทำเลระดับเกรด A เท่านั้น และ 4. การรักษาสมดุลอัตราส่วนหนี้สิน/ทุน ให้สอดคล้องกับการเติบโตของธุรกิจ เพื่อให้บริษัทมีความพร้อมที่จะเติบโตด้วยเสถียรภาพทางการเงินที่มั่นคง

 
 
 
ด้านแผนการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังนั้น บริษัทมีแผนที่จะเปิดโครงการใหม่ 5 โครงการ รวมมูลค่า 7,000 ล้านบาท เป็นแนวราบ 4 โครงการ มูลค่ารวม 4,000 ล้านบาท ระดับราคาหลังละ 5-10 ล้านบาท แนวสูง 1 โครงการ จะเปิดตัวในช่วงไตรมาสที่ 3 มี 3 โครงการ ได้แก่ โครงการบ้านเดี่ยวไลฟ์ บางกอก บูเลอวาร์ด แจ้งวัฒนะ จำนวน 116 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 7-10 ล้านบาท บนพื้นที่กว่า 28 ไร่ มูลค่าโครงการ 830 ล้านบาท โครงการ ไลฟ์ บางกอก บูเลอวาร์ด วงแหวน-พระราม 9 จำนวน 199 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 5-8 ล้านบาท บนพื้นที่กว่า 45 ไร่ มูลค่าโครงการ 1,200 ล้านบาท และโครงการเวิร์คเพลส ราชพฤกษ์-จรัญฯ เป็นโฮมออฟฟิศระดับพรีเมี่ยม จำนวน 93 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 8.89 ล้านบาท บนพื้นที่กว่า 11 ไร่ มูลค่าโครงการ 720 ล้านบาท และในช่วงปลายปีจะเปิดอีก 2 โครงการระดับลักซ์ชัวรี่ คือ โครงการคฤหาสน์หรู กรานาดา เพชรเกษม-ปิ่นเกล้า มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท และโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ใจกลางศาลาแดง ติดกับตึกอื้อจื่อเหลียง มูลค่า 3,000 ล้านบาท ราคาเริ่มต้นตารางเมตรละ 250,000 บาท 

 
 
 
 
 
 
ขณะเดียวกัน มีแผนที่จะหันมารุกตลาดบ้านเดี่ยวราคา 3-5 ล้านบาทในย่านรังสิต ด้วยการเปิดตัวแบรนด์ใหม่ เพราะเห็นว่าเป็นตลาดที่มีกำลังซื้อสูง เนื่องจากเชื่อมั่นว่าภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์มีแนวโน้มที่ดีขึ้นแล้ว หลังจากที่ตกต่ำที่สุดในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยในเดือนมีนาคมต่อเนื่องปัจจุบันตลาดเริ่มดีขึ้น และมีอัตราการตลาดเติบโตสูงมาก จากสถานการณ์ทางการเมืองที่นิ่ง และมีความชัดเจน ส่งผลให้ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นดีขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่ดอกเบี้ยนโยบายยังอยู่ระดับต่ำ เป็นปัจจัยทำให้การตัดสินใจซื้อเร็วขึ้น

ปัจจุบันบริษัทมีโครงการเปิดขายอยู่ทั้งหมด จำนวน 29 โครงการ มูลค่าโครงการคงเหลือเพื่อขายรวมประมาณ 25,000 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 21 โครงการ และโครงการแนวสูง 8 โครงการ และมียอดขายรอโอน (Backlog) ประมาณ 12,000 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้เข้ามาเป็นรายได้ในปีนี้ราว 40%

โดยในช่วง 6 เดือนแรกที่ผ่านมา บริษัทมียอดขายรวม 3,463 ล้านบาท มีรายได้รวม 4,328 ล้านบาท เป็นรายได้จากการดำเนินงาน 4,309 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 415 ล้านบาท และคาดว่าปีนี้จะสามารถสร้างอัตราการเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ 20% โดยมีรายได้รวม 12,000 ล้านบาท จากการเปิดโครงการใหม่ 7 โครงการ รวมมูลค่า 10,000 ล้านบาท 

 
 
 
ทั้งนี้ บริษัทจะจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายขึ้นระหว่างวันที่ 21-24 สิงหาคม นี้ คืองาน “SC ASSET HOLIDAY HOME” ณ บริเวณชั้น 1 ศูนย์การค้าสยามพารากอน ภายใต้แนวคิด “การพักผ่อน เป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จ” เพื่อแนะนำ 3 โครงการพิเศษ ที่อยู่ในทำเลคุณภาพทั้งชะอำ-หัวหิน และพัทยา โดยเป็นโครงการที่สร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่และติดชายทะเล ได้แก่ บ้านพักตากอากาศระดับพรีเมี่ยม โครงการบูเลอวาร์ด ทัสคานี ชะอำ-หัวหิน ราคาเริ่มต้น 7 ล้านบาท กับโครงการ เดอะเครสท์ ซานโตรา หัวหิน คอนโดและวิลล่าตากอากาศสุดหรู อยู่ติดหาดหัวหินกว้างกว่า 80 เมตร โดดเด่นด้วยดีไซน์เล่นระดับ และ Pool Access ราคาเริ่มต้น 5 ล้านบาท ส่วนโครงการเซ็นทริค ซี พัทยา เป็นคอนโดมิเนียมแต่งครบ ทำเลธุรกิจ ใจกลางพัทยา ราคาเริ่มต้น 2.15 ล้านบาท ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้างและคืบหน้าไปแล้วกว่า 40 % ที่สำคัญผู้สนใจจองภายในงานจะได้รับสิทธิพิเศษ โดยมีมูลค่าส่วนลดสูงสุดถึง 1 ล้านบาท เพื่อแทนคำขอบคุณลูกค้าคนสำคัญของเอสซี แอสเสท
 

LastUpdate 18/08/2557 17:08:22 โดย : Admin
19-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 19, 2024, 2:21 pm