อสังหาริมทรัพย์
"สุขุมวิท นานา ศาลาแดง" ครองแชมป์ ราคาแพงสูงสุด แตะวาละ 2 ล้าน


 

"เซ็นจูรี่ 21" เผยราคาที่ดิน"ย่านสุขุมวิท 24" พุ่งสูงสุดตารางวาละ 2 ล้าน ตามด้วย "นานา" ตารางวาละ 1.8 ล้าน "ศาลาแดง" ตารางวาละ 1.5 ล้าน ขณะ"กรมธนารักษ์" ไล่ประเมินราคาไม่ทัน 


 
 
นายกิติศักดิ์ จำปาทิพย์พงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นจูรี่ 21 (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ราคาที่ดินในซอยสุขุมวิท 24 มีราคาสูงสุดถึงราคาตารางวาละ  2 ล้านบาท และเป็นราคาที่สูงที่สุดในประเทศไทย เนื่องจากเป็นการซื้อเพื่อเปิดทางเข้า – ออกระหว่างสุขุมวิท 24 กับ สุขุมวิท 22 ซึ่งเป็นที่ตั้งของโครงการคอนโดมิเนียมหรู พาร์ค 24 ของกลุ่มลิปตพัลลภทำให้ราคาที่ดินแปลงดังกล่าวมีราคาสูงที่สุด 

จากข้อมูลฝ่ายวิจัยตลาดและการลงทุนของบริษัท เซ็นจูรี่21 (ประเทศไทย) พบว่าที่ดิน 3 ทำเล 3 แปลง ที่มีการซื้อขายกันแพงที่สุดในปีนี้ยังคงอยู่ใจกลางเมือง ประกอบด้วย แปลงที่ 1 ที่ดินเปล่าแปลงที่ติดรถไฟฟ้าบีทีเอสสถานีนานา ริมถนนสุขุมวิทซอย 6 ที่มีการซื้อขายล่าสุดที่ราคาตารางวาละ 1.8 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าราคาขายปี 2556 ที่มีการซื้อขายกันในย่านนั้นอยู่ที่ตารางวาละ 1.6 ล้านบาท ขณะที่ราคาประเมินของทางราชการอยู่ที่ตารางวาละ 445,000 บาท

 
 
 
แปลงที่ 2 คือที่ดินแปลงย่านสุขุมวิท 36 ราคาซื้อขายอยู่ที่ตารางวาละ 1.3 ล้านบาท ขณะที่ราคาประเมินอยู่ที่ตารางวาละ 390,000 บาท ส่วนที่ดินแปลงที่ 3 คือ ที่ดินย่านศาลาแดงเนื้อที่กว่า 1 ไร่ใกล้อาคารอื้อจื่อเหลียง ราคาอยู่ที่ตารางวาละ 1.5 ล้านบาท โดยราคาประเมินอยู่ที่ตารางวาละ 650,000 - 850,000 บาท

การซื้อขายที่ดินดังกล่าว แม้จะเป็นการซื้อขายในช่วงที่การเมืองยังไม่สงบ ก็ถือว่าราคาเปลี่ยนมืออยู่ในเกณฑ์ที่สูง แต่เมื่อเทียบราคาประเมินของกรมธนารักษ์ พบว่า ราคาซื้อขายสูงกว่าราคาประเมินมาก บางแปลงมากกว่าเท่าตัว ยกเว้นบางพี้นที่ตามเส้นสุขุมวิทที่ราคาซื้อขายปรับสูงขึ้นกว่า 3 - 4 เท่า

ทั้งนี้ ราคาที่ดินที่สูงนั้นผู้ เพราะผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์มีแผนที่จะพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียมหรู ราคาขายต่อตารางเมตรละ 200,000-300,000 บาทขึ้นไป เช่น บริษัท เอสซี แอสเสทฯ ที่มีแผนจะเปิดตัวคอนโดมิเนียมใหม่ในย่านศาลาแดงปลายปีนี้ราคาเฉลี่ยที่ 250,000 บาทต่อตารางเมตร ขณะที่ควอลิตี้เฮ้าส์ เตรียมเปิดตัวคอนโดหรูย่านนานาราคาขายเริ่มที่ 250,000 บาทต่อตารางเมตร 

 
 
สำหรับห้องชุดที่เปิดใหม่ใจกลางเมืองที่เปิดขายนั้นค่อนข้างมีขนาดพื้นที่ใช้สอยใหญ่ เนื่องจากว่าห้องขนาดใหญ่ในตลาดค่อนข้างมีน้อย มีผู้ประกอบการไม่กี่รายที่ทำสินค้าที่มีพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่ออกสู่ตลาด โดยเฉพาะขนาด 2 - 3 ห้องนอน โดยเชื่อมั่นว่าจะมีเข้าสู่ตลาดมากขึ้นเพื่อเป็นทางเลือกให้กับกลุ่มลูกค้าที่เป็นเศรษฐีและต้องการซื้อสินทรัพย์ คอนโดมิเนียมในเมืองเพิ่มขึ้น และลูกค้ากลุ่มนี้ก็ไม่นิยมที่จะซื้อห้องขนาดสตูดิโอ หรือ 1 ห้องนอน แต่จะซื้อขนาด 60 ตารางเมตรขึ้นไป และเชื่อว่าตลาดผู้เช่าที่เป็นชาวต่างชาติจะปรับตัวดีขึ้น ขณะเดียวกันคอนโดมิเนียมหรูใจกลางเมืองก็ยังคงเป็นที่นิยมของชาวต่างชาติด้วยเช่นกัน

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 18 ก.ย. 2557 เวลา : 03:01:48
24-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 24, 2024, 9:28 am