แบงก์-นอนแบงก์
"ทีเอ็มบี" โกยกำไรในไตรมาส 3 กว่า 2.3 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 28%


ธนาคารทหารไทย เผยผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3/2557  มีกำไรสุทธิ 2,387 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28% จากไตรมาสเดียวกันปีที่แล้ว หลังสินเชื่อเติบโตได้ดีในกลุ่ม รายได้ไม่ใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นจากธุรกิจแบงก์แอสชัวรันส์และการขายกองทุนรวม


   
 
 
นายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทย (ทีเอ็มบี)  เปิดเผยถึง ผลประกอบการงวดไตรมาสที่ 3 ปี 2557  ว่า ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิจำนวน 2,387 ล้านบาท ปรับตัวลดลง 7% จาก 2,575 ล้านบาทในไตรมาสที่แล้ว เนื่องจากในไตรมาสที่แล้วธนาคารมีการรับรู้รายการพิเศษ แต่ยังเพิ่มขึ้น 28% เมื่อเทียบกับ 1,870 ล้านบาทในไตรมาสเดียวกันปีที่แล้ว ทั้งนี้ กำไรงวด 9 เดือนของปี 2557 มีจำนวน 6,564 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 67% เมื่อเทียบกับ 3,938 ล้านบาทในงวดเดียวกันของปีที่แล้ว

ทั้งนี้ ผลกำไรของธนาคารปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากธนาคารมีรายได้จากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น ทั้งจากรายได้ดอกเบี้ยรับสุทธิซึ่งเกิดจากสินเชื่อที่ขยายตัวดีขึ้นหรือเติบโตขึ้น 3% ในไตรมาสนี้ โดยมาจากการเพิ่มขึ้นของสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และสินเชื่อลูกค้าบุคคล โดยสำหรับงวด 9 เดือนนั้น สินเชื่อเพิ่มขึ้นรวม 5%

ประกอบกับการบริหารต้นทุนทางการเงินอย่างมีประสิทธิภาพ และรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยซึ่งเติบโต 6% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่แล้ว และ 14% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 3 ของปีก่อน โดยส่วนใหญ่มาจากการขยายตัวของการขายแบงก์แอสชัวรันส์และการขายกองทุนรวม

อย่างไรก็ตาม ในไตรมาสที่ 3  เงินฝากของธนาคารลดลงเล็กน้อย โดยส่วนใหญ่เป็นการลดลงของเงินฝากประจำ และโดยรวมในงวด 9 เดือนของปีนี้ ธนาคารสามารถขยายเงินฝากได้ประมาณ 39,000 ล้านบาท หรือ 7% โดยเงินฝากที่เพิ่มขึ้นในช่วง 9 เดือน มาจาก 2 ส่วนเป็นหลัก คือ เงินฝากลูกค้ารายย่อยในผลิตภัณฑ์เงินฝากที่เป็นจุดเด่นของธนาคาร คือ เงินฝากไม่ประจำ (No Fixed) เงินฝาก ME by TMB และมาจากเงินฝากเพื่อธุรกรรมทางการเงิน

ขณะที่ธนาคารยังคงควบคุมคุณภาพสินเชื่อได้อย่างดี โดยสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL) ของธนาคารและบริษัทย่อยมีจำนวน 21,027 ล้านบาทในไตรมาสนี้ เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยประมาณ 250 ล้านบาทจากไตรมาสที่แล้ว และลดลงในงวด 9 เดือนเป็นจำนวน 1,394 ล้านบาท โดยสัดส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อสินเชื่อรวม (NPL ratio) ลดลงมาอยู่ที่ 3.43% จาก 3.87% ณ สิ้นปีที่แล้ว ขณะที่สัดส่วนสำรองต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพ (Coverage Ratio) ยังคงแข็งแกร่งที่ 139%

อย่างไรก็ตาม จากการที่ธนาคารมีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง สามารถดำรงความแข็งแกร่งทางการเงินและควบคุมคุณภาพสินทรัพย์ได้ดี สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือมูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส จึงได้เพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือของทีเอ็มบี เป็น Baa 2 จาก Baa3 ในเดือนกันยายนที่ผ่านมา
 
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 15 ต.ค. 2557 เวลา : 08:41:59
25-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 25, 2024, 2:05 pm