อสังหาริมทรัพย์
กคช.โชว์ยอดขายแพ็กเกจ 1 ล็อตแรก ทะลุกว่า 3,000 หน่วย พร้อมลุยล็อต 2


"กคช." เผยโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยชุดที่ 1 ปี 2557 ช่วงที่ 1 มียอดขายกว่า 3,000 หน่วย เตรียมลุยขายช่วงที่ 2 ต่อทันที 17 โครงการ ระหว่างวันที่ 24 ตุลาคม - 2 พฤศจิกายนนี้ ทั่วประเทศ

 
 
 
นายสุภัคร ลดาวัลย์ ณ อยุธยา รองผู้ว่าการ การเคหะแห่งชาติ (กคช.) เปิดเผยว่า ผลการขายโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัย ชุดที่ 1 ปี 2557 ช่วงที่ 1 จำนวน 15 โครงการ 6,088 หน่วย ในระหว่างวันที่ 27 กันยายน - 6 ตุลาคมที่ผ่านมา มีประชาชนให้ความสนใจจองโครงการแล้วจำนวน 3,424 หน่วย คิดเป็นร้อยละ 56.24 ของจำนวนหน่วยทั้งหมด โดยโครงการที่ได้รับความนิยมและมียอดจองเต็มแล้ว ได้แก่ โครงการจันทบุรี, อุดรธานี (หนองสำโรง), นครราชสีมา (ปากช่อง), พะเยา, พิษณุโลก (บึงพระ), นครสวรรค์ นิวมาร์ท และบางพลี ทาวน์โฮม 

ทั้งนี้ การเคหะฯพร้อมที่จะขายโครงการในช่วงที่ 2 จำนวน 17 โครงการ รวมทั้งสิ้น 6,339 หน่วย ในระหว่างวันที่ 24 ตุลาคม - 2 พฤศจิกายน 2557 ประกอบด้วย โครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลาง ราคาขายอยู่ที่ 570,000 - 660,000 บาท จำนวน 9 โครงการ 5,297 หน่วย ได้แก่ หนองคาย (แยกเวียงจันทน์) และศรีสะเกษ (โพนข่า) ระยะที่ 1 ส่วนที่ 2 เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ชลบุรี (กุฎโง้ง), เชียงใหม่ (หนองหาร) ระยะที่ 1 และกระบี่ (กระบี่น้อย) เป็นบ้านแฝด 2 ชั้น ภูเก็ต (ถลาง) ระยะที่ 2 เป็นอาคารชุด 3 ชั้น เชียงใหม่ (ไนท์ซาฟารี) ระยะที่ 1 และเชียงใหม่ (สันผีเสื้อ) เป็นอาคารชุด 4 ชั้น และลาดกระบัง 2 ระยะ 3/1 เป็นอาคารชุด 5 ชั้น (มีลิฟท์) 

ส่วนโครงการพิเศษและบริการชุมชน ราคาขายอยู่ที่ 1,810,000 - 4,450,000 บาท จำนวน 8 โครงการ รวมทั้งสิ้น 1,042 หน่วย ได้แก่ พระนครศรีอยุธยา (โรจนะ) เป็นทาวน์โฮม 2.5 ชั้น บ้านศรีนวมินทร์ 2 เป็นทาวน์เฮาส์ 3 ชั้น และอาคารชุด 7 ชั้น ศรีสะเกษ (โพนข่า) ระยะที่ 1 ส่วนที่ 1 และเชียงใหม่ (ดอยสะเก็ด) เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น เพชรบูรณ์ ระยะ 1 และภูเก็ต 2 เป็นบ้านเดี่ยวชั้นเดียว ภูเก็ต (เทพกระษัตรี) และนครศรีธรรมราช (อ้อมค่าย) เป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น

 
 
 
 
สำหรับเงื่อนไขการจองโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัย ชุดที่ 1 ราคาขาย อัตราการผ่อนชำระ และขนาดพื้นที่แปลงมาตรฐาน เป็นไปตามที่การเคหะฯกำหนดไว้ ซึ่งปรากฏอยู่ในใบราคาขาย ส่วนคุณสมบัติผู้จอง ต้องเป็นผู้มีสัญชาติไทย บรรลุนิติภาวะแล้ว ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย มีรายได้ครอบครัวไม่เกิน 40,000 บาทต่อเดือน (กรณีโครงการพิเศษและบริการชุมชนไม่จำกัดรายได้) โดยต้องเตรียมหลักฐานประกอบการจอง ได้แก่ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน / บัตรประจำตัวข้าราชการ / บัตรประจำตัวพนักงานรัฐวิสาหกิจ จำนวน 1 ชุด สำเนาทะเบียนบ้านปัจจุบัน จำนวน 1 ชุด หนังสือรับรองรายได้ (กรณีโครงการพิเศษและบริการชุมชนไม่ต้องใช้ประกอบการจอง)

ทั้งนี้ หากจองอาคารชุดต้องวางเงินชำระการจองตามที่การเคหะฯกำหนด ถ้าจองบ้านพร้อมที่ดินต้องวางเงินมัดจำชำระในวันทำสัญญาตามที่การเคหะแห่งชาติกำหนด โดยผู้ประสงค์ขอจองสามารถยื่นแบบจองได้คนละ 1 หน่วย (กรณีโครงการพิเศษและบริการชุมชนสามารถยื่นแบบจองได้มากกว่า 1 หน่วย) ผู้มีคุณสมบัติครบถ้วนและมีความประสงค์จะจองสามารถทำสัญญาตามวัน เวลา และสถานที่ที่การเคหะแห่งชาติกำหนดไว้ ได้แก่ สำนักงานเคหะชุมชน สำนักงานขายที่ตั้งโครงการ และสำนักงานใหญ่ การเคหะแห่งชาติ (รับจองเฉพาะโครงการที่ตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล) หากพ้นกำหนดเปิดจองและยังมีอาคารว่างเหลืออยู่ การเคหะฯจะเปิดจองต่อเนื่องจนกว่าจะครบจำนวนอาคารที่ว่างอยู่ และผู้จองจะต้องไม่มีหนี้ค้างค่าเช่าและค่าเช่าซื้อกับการเคหะแห่งชาติ 
 

LastUpdate 17/10/2557 03:37:30 โดย : Admin
20-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 20, 2024, 4:21 am