แบงก์-นอนแบงก์
กสิกรไทยเผยประชาชนผวา "หนี้ครัวเรือนพุ่ง-ค่าครองชีพแพง-ดอกเบี้ยขึ้น" ฉุดยอดซื้อบ้านหด


"ธนาคารกสิกรไทย" ชี้ภาพรวมธุรกิจอสังหาฯปีนี้แย่ จากผลกระทบเศรษฐกิจ-การเมือง ส่งผลเงินในกระเป๋าประชาชนทั่วไปฝืดเคือง รายได้ไม่พอใช้หนี้ จากหนี้ที่มีมาก แถมค่าครองชีพยังพุ่งสูง และดอกเบี้ยเป็นขาขึ้น ส่งผลการตัดสินใจซื้อบ้านลดลง ฉุดยอดขายบ้านปีนี้โตต่ำกว่าเป้า แต่มองปีหน้าธุรกิจอสังหาฯฟื้น ดันยอดสินเชื่อบ้านทั้งระบบโต 8.5%

 
 

 
นายชาติชาย พยุหนาวีชัย รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้ไดัรับผลกระทบจากเศรษฐกิจโดยรวม ส่งผลให้ตลาดสินเชื่อบ้านของระบบธนาคารในปีนี้จะเติบโตเพียง 6-8%  คิดเป็นยอดรวมสินเชื่อบ้านอยู่ที่ 2.7 ล้านล้านบาท ส่วนในปี 2558 คาดว่าตลาดน่าจะดีขึ้น โดยจะเติบโตประมาณ 8.5% คิดเป็นมูลค่า 2.9 ล้านล้านบาท เนื่องจากการขยายโครงการรถไฟฟ้าในกรุงเทพและปริมาณฑล การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่เริ่มเป็นรูปเป็นร่าง การเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือเออีซี และการส่งออกในปีหน้าจะสูงขึ้นจากปีนี้ที่ติดลบ 0.3 % คาดว่าปีหน้าจะเติบโตไปได้ถึง 2.0-4.5% ส่งผลภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศที่ดีขึ้น

ซึ่งผลดำเนินงานของธนาคารในไตรมาสที่ 3 สามารถปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ 35,000 ล้านบาท โดยคาดว่าไตรมาสสุดท้ายจะปล่อยสินเชื่อได้ 12,000 ล้านบาท ทำให้ทั้งปี 2557 ธนาคารจะสามารถปล่อยสินเชื่อบ้านได้ที่ 47,000 ล้านบาท เติบโตจากสิ้นปีที่แล้ว 6 -7% แต่ต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 49,000 ล้านบาทเล็กน้อย โดยปัจจัยที่สร้างความกังวลต่อการซื้อที่อยู่อาศัย คือ ปัจจัยลบด้านเศรษฐกิจ การเมือง ค่าครองชีพและหนี้ครัวเรือนที่สูงขึ้น ส่งผลให้ครึ่งปีแรกการลงทุนโครงการใหม่ชะลอตัว และยอดการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ลดลง

 
 
 
 
โดยปัจจัยที่เป็นข้อกังวลต่อการซื้อที่อยู่อาศัยของประชาชน คือเรื่องอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่มีแนวโน้มสูงขึ้น ทำให้ประชาชนกังวลเพิ่มจากเดิมอยู่ที่ระดับ 16.7% เป็น 20.8% และ กังวลเรื่องค่าครองชีพที่อาจปรับตัวสูงขึ้น โดยกังวลเพิ่มขึ้นจากเดิมอยู่ที่ระดับ 18% เป็น 19.5%  รวมถึงกังวลเรื่องภาวะหนี้ครัวเรือนที่สูงขึ้นจากสถิติปี 2555 อยู่ที่ 77% ของจีดีพี  ปี 2556 เพิ่มเป็น 82% ของจีดีพี และในปี 2557 ตัวเลขยังสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนคาดว่าสิ้นปีนี้จะสูงถึง 85% ของจีดีพี ทำให้ทิศทางการอนุมัติสินเชื่อบ้านของสถาบันการเงินไปจนถึงสิ้นปีนี้ก็จะทำได้ยากขึ้น เพราะผู้บริโภคมีภาระการจ่ายเงินต้นและดอกเบี้ยของหนี้ครัวเรือนแตะระดับ 30% ของรายได้ครัวเรือน  

อย่างไรก็ตาม หลังมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ทำให้ในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคปรับตัวในทิศทางดีขึ้น ปัจจัยเรื่องความไม่แน่นอนภาวะเศรษฐกิจ จากเดิม 27.7% ลดลงเหลือ 26.9%  เรื่องความไม่แน่นอนของรายได้ในอนาคตจากเดิม 24.4% ลดลงเหลือ 23.2% และความไม่สบายใจจากภาวะการเมืองในประเทศจากเดิม 13.2% ลดเหลือเพียง 9.6% จึงมีแนวโน้มว่า ภาพรวมเศรษฐกิจในช่วงปลายปีนี้และปีหน้าจะดีขึ้น ส่งผลให้ภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปี 2558 จะฟื้นตัวดีกว่าปี 2557
 
 

บันทึกโดย : วันที่ : 29 ต.ค. 2557 เวลา : 19:10:18
16-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 16, 2024, 10:36 pm