นายสุภัค ศิวะรักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า ธนาคารได้ลงนามในสัญญาสนับสนุนทางการเงินให้แก่ บริษัท ลาว โคคา-โคลา บอทลิ่ง จำกัด ผู้จำหน่ายเครื่องดื่มบรรจุขวดในสปป.ลาว ซึ่งถือหุ้นใหญ่ 70% โดย กลุ่มไทยน้ำทิพย์ วงเงินสินเชื่อรวม 484 ล้านบาท สำหรับโครงการก่อสร้างโรงงานผลิตเครื่องดื่มในนครเวียงจันทน์ประเทศลาว และจำหน่ายเครื่องดื่มบรรจุขวดภายใต้แบรนด์ โคคา-โคลา
        
“การที่ผู้ประกอบการรายใหญ่ของไทยซึ่งมีแบรนด์ที่แข็งแกร่งอย่างไทยน้ำทิพย์เข้าไปลงทุนในลาว เราเชื่อว่าจะเป็นการช่วยส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมของประเทศและสะท้อนอัตราการเติบโตที่รวดเร็วของบริษัท เพราะผลิตภัณฑ์เป็นที่ยอมรับของผู้บริโภค นอกจากนี้ การสนับสนุนสินเชื่อเพื่อสร้างโรงงานต่างประเทศแห่งแรกของกลุ่มไทยน้ำทิพย์ครั้งนี้ ยังเป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศไทยและสปป.ลาว ซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านมีการติดต่อค้าขายกันมานาน และได้รับความสนใจจากกลุ่มธุรกิจที่ต้องการขยายฐานการผลิตมาที่นี่เพื่อผลิตและส่งออกไปยังประเทศอื่นๆในภูมิภาค ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย มีสาขาเวียงจันทน์ ที่พร้อมเชื่อมโยงธุรกรรมทางการเงินและบริการให้สะดวกและคล่องตัวยิ่งขึ้นผ่านเครือข่ายที่ครอบคลุมตลาดหลักทั่วอาเซียน” นายสุภัค กล่าว
       
 อนึ่ง ข้อมูลจากสำนักวิจัย ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ระบุว่า ปริมาณการบริโภคน้ำอัดลมโดยรวมในประเทศลาวมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศที่มีแนวโน้มอยู่ในระดับสูง จากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป แรงหนุนจากการรวมตัวเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน การขยายตัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติ การค้าและการลงทุนในประเทศลาว รวมทั้งการขยายตัวของประชากรในประเทศลาว
        
นายพรวุฒิ สารสิน ประธานกรรมการ บริษัท ไทยน้ำทิพย์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทเล็งเห็นโอกาสทางธุรกิจในสปป.ลาวรวมถึงการขยายตลาดไปทั่วภูมิภาคอาเซียน จึงเป็นที่มาของการก่อตั้ง บริษัท ลาว โคคา-โคลา บอทลิ่ง จำกัด เมื่อ พ.ย. 2555 โดยเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง บริษัท ไทยน้ำทิพย์  และ PT (Sole) Co.,Ltd. สัดส่วนการถือหุ้น 70:30 ในช่วงเริ่มต้นบริษัทนำเข้าเครื่องดื่มบรรจุขวดภายใต้แบรนด์ โคคา-โคลา เพื่อจำหน่ายในประเทศลาว ผ่านช่องทางการจัดจำหน่ายตรงของบริษัทในเมืองเวียงจันทน์และจัดจำหน่ายผ่านDistributor ในเมืองต่างๆ การที่บริษัทเข้ามาดำเนินงานเองในการจัดจำหน่ายทำให้เรามั่นใจว่าเราจะสามารถวางรากฐานการจัดจำหน่ายได้เหมือนที่ได้ทำในไทย การสร้างโรงงานบรรจุขวดในลาวช่วยทำให้การขยายตัวและการดำเนินธุรกิจของกลุ่มไทยน้ำทิพย์แข็งแกร่งขึ้น ในปลายปี 2556 ยอดขายในลาวเติบโตขึ้นถึง 3 เท่า
       
 สำหรับโรงงานนี้ จะก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2558 นับเป็นโรงงานต่างประเทศแห่งแรกของกลุ่มไทยน้ำทิพย์ ตั้งอยู่ที่นครเวียงจันทน์ ประเทศลาว บนเนื้อที่ 49-2-38.25 ไร่ มูลค่าการลงทุนรวมทั้งสิ้นประมาณ 676.5 ล้านบาท อนึ่ง PT (Sole) Co.,Ltd. เป็นผู้ดำเนินธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง สัญชาติลาว และจะเป็นผู้ดำเนินการก่อสร้างอาคารโรงงานในครั้งนี้ โรงงานแห่งนี้จะเครื่องดื่มบรรจุขวดเพื่อจำหน่ายในประเทศลาวเป็นหลัก ควบคู่ไปกับการจำหน่ายบางส่วนโดยส่งกลับมาจำหน่ายยังจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย ได้แก่ อุดรธานี สกลนคร นครพนม และเลย เนื่องจากการขนส่งจากลาวเพื่อเข้ามาจำหน่ายในบริเวณดังกล่าวมีค่าใช้จ่ายที่ต่ำกว่าการขนส่งจากโรงงานที่ขอนแก่นของ บริษัท ไทยน้ำทิพย์
        
“กลุ่มไทยน้ำทิพย์มั่นใจว่าจะนำความสุข สนุกสนาน และความสดชื่นไปมอบให้ผู้บริโภคชาวลาว โดยเราได้เปิดตลาดเครื่องดื่มโค้กผ่านจุดจำหน่ายซึ่งครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศลาวแล้ว” นายพรวุฒิ กล่าว        
       
 ปัจจุบัน ไทยน้ำทิพย์มีโรงงานบรรจุขวดรวม 5 แห่ง โดยภายในโรงงานแต่ละแห่งมีแผนกผลิตขวดพลาสติกเพื่อรอเข้ากระบวนการบรรจุน้ำอัดลมได้ทันที นอกจากนี้ยังมีคลังสินค้าตั้งกระจายอยู่ 50 แห่ง และสาขากว่า 43 สาขา พร้อมกับพนักงานจำนวนกว่า 8,000 คนทั่วประเทศ โดยมีผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมหลากหลายผลิตภัณฑ์ได้แก่ โค้ก, โค้ก ซีโร่, โค้ก ไลท์, แฟนต้า, สไปรท์, ชเวปปส์, รูทเบียร์ เอ แอนด์ ดับบลิว, น้ำส้มมินิทเมด สแปลช, มินิทเมด พัลพิ, มินิทเมด นิวทริบู๊สท์, ฮาบุและน้ำดื่มน้ำทิพย์