แบงก์-นอนแบงก์
"ลีสซิ่งกสิกร"ผวาหนี้ครัวเรือนไทยพุ่งสูง สั่งคุมปล่อยกู้-อนุมัติยากขึ้น กด NPL ไม่เกิน 1.5%



"ลีสซิ่งกสิกรไทย" เฝ้าระวังภาวะหนี้ครัวเรือนไทยพุ่งสูง สั่งคุมเข้มปล่อยกู้ - อนุมัติยากขึ้น คาดธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อจะผ่านจุดต่ำสุดครึ่งแรกปีนี้ หลัง NPL เริ่มทรงตัว จากนั้นสินเชื่อจะค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้นได้ ดันยอดปล่อยกู้เคลีสซิ่งโต 17% แต่ยังกด NPL ไว้ไม่ให้เกิน 1.5%
 

 
 
นายสุรัตน์ ลีลาทวีวัฒน์  กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลีสซิ่งกสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมยอดขายรถยนต์ในประเทศปี 2558  คาดว่าจะยังคงมียอดขายต่ำกว่า 1 ล้านคันต่อไปอีก 1 ปี โดยยอดขายจะมีประมาณ 900,000  -  950,000 คัน ขยายตัว  4 - 9% เนื่องจากปัญหาหนี้ครัวเรือนที่ยังคงสูงอยู่ ซึ่งอาจทำให้มีการอนุมัติสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ที่ยากขึ้น อีกทั้งราคาสินค้าเกษตรโดยเฉพาะข้าวและยางพาราที่ตกต่ำต่อเนื่อง ส่งผลให้ยอดขายรถยนต์ในบางภูมิภาคที่เป็นแหล่งเพาะปลูก อาจต้องเผชิญกับภาวะตลาดที่ซบเซาอยู่โดยเฉพาะพื้นที่ภาคใต้และภาคกลาง และสภาพเศรษฐกิจต่างประเทศที่ยังน่ากังวล

ทั้งนี้อาจทำให้การส่งออกและการท่องเที่ยวฟื้นตัวในกรอบที่ค่อนข้างจำกัด รวมถึงจำนวนรถมือสองใหม่ๆ ที่หลุดไฟแนนซ์เข้ามาแข่งขันในตลาดจำนวนมาก จะเป็นแรงกดดันสำคัญในปี 2558 เช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ยอดขายที่เพิ่มขึ้นคาดว่าจะเกิดขึ้นได้จากปัจจัยบวก ได้แก่ การเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศ จากการลงทุนทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงการเปิดเสรีการค้าภายใต้กรอบ AEC ที่จะทำให้ทิศทางการค้าและการท่องเที่ยวบริเวณชายแดน รวมถึงการลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

 
 
ขณะที่ตลาดรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ในปี 2558 นั้น ยังคงมีการตอบรับที่ดีและมีโอกาสขยายตัวได้ไม่น้อยกว่า 10% โดยจำนวนผู้ประกอบการที่เพิ่มเข้ามาในตลาด น่าจะยิ่งทำให้ตลาดมีการแข่งขันและคึกคักมากขึ้น ส่งผลดีต่อผู้บริโภคทั้งในแง่ของทางเลือกที่มีมากขึ้น  
 
สำหรับแนวโน้มธุรกิจสินเชื่อเพื่อเช่าซื้อรถยนต์ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2558 จะยังอยู่ภายใต้แรงกดดันเช่นเดียวกับปีที่ผ่านมา ทั้งจากปัจจัยด้านการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ สถาบันการเงินยังคงเน้นการพิจารณาสินเชื่ออย่างระมัดระวัง อย่างน้อยจนกว่าจะเห็นสัดส่วนเอ็นพีแอล (NPLs) ที่เริ่มทรงตัว ซึ่งทำให้มีความเป็นไปได้ที่อาจจะยังเห็นยอดคงค้างสินเชื่อเช่าซื้อในระบบธนาคารพาณิชย์อยู่ในระดับใกล้เคียงกับเมื่อสิ้นปี 2557

“ธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อ อาจจะผ่านจุดต่ำสุดในช่วงครึ่งแรกของปี  2558 และฟื้นตัวได้อย่างช้าๆ ทำให้สินเชื่อรวมในปี 2558 ยังเติบโตได้ในระดับต่ำ  โดยมีปัจจัยหลักจากยอดขายรถยนต์ใหม่ที่คงจะทยอยปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ ขณะเดียวกันการแข่งขันของผู้ให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ น่าจะยังคงหลีกเลี่ยงการแข่งขันด้านราคา เพราะส่วนต่างดอกเบี้ย (Margins) ค่อนข้างต่ำมากอยู่แล้ว ส่วนการแข่งขันด้านเทอมการชำระเงิน อาจมีผลต่อคุณภาพลูกหนี้ ซึ่งยังเป็นประเด็นที่บริษัทให้ความสำคัญในการเฝ้าระวังปัญหาหนี้อยู่ นอกจากนี้ ยังต้องติดตามประเด็นการบังคับใช้กฎหมายค้ำประกันฯ ในเดือนกุมภาพันธ์ 2558”นายสุรัตน์กล่าว
 

 
 
นายสุรัตน์กล่าวต่ออีกว่า สำหรับผลประกอบการของ ลีสซิ่งกสิกรไทย ในปี 2557 สามารถปล่อยสินเชื่อได้ประมาณ 61,027 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 18.36 % แบ่งเป็นสินเชื่อใหม่เช่าซื้อและลีสซิ่ง 33,606 ล้านบาท ลดลง 14.40% และสินเชื่อผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ (Floorplan) 27,421 ล้านบาท ลดลง 22.73% สำหรับยอดสินเชื่อคงค้าง (Outstanding Loan) มียอดรวม 89,783 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 0.63% และสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) อยู่ที่ 1.16% ส่งผลให้บริษัทมีกำไร 499 ล้านบาท

ด้านแผนการดำเนินงานในปี 2558 บริษัทยังคงเน้นสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์และลีสซิ่งรถยนต์ รวมถึงฟลีท (Fleet) โดยสินเชื่อรถช่วยได้กสิกรไทย ยังคงเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำให้ผลการดำเนินธุรกิจเติบโตอย่างต่อเนื่อง และเพิ่มโอกาสทางธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ในการวางแผนแนวทางธุรกิจสู่ตลาดอาเซียน (CLMV) โดยบริษัทตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อใหม่และลีสซิ่งรถยนต์ไว้ที่ 71,796 ล้านบาท เพิ่มจากปีที่แล้วประมาณ 17.6 % ซึ่งจะทำให้บริษัทมียอดสินเชื่อคงค้างรวมอยู่ที่ 89,923 ล้านบาท โดยตั้งเป้าสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ไม่เกิน (NPL) ไว้ไม่เกิน 1.50% และกำไรตลอดปี 2558 ประมาณ 532 ล้านบาท
 

บันทึกโดย : วันที่ : 28 ม.ค. 2558 เวลา : 11:58:55
20-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 20, 2024, 6:18 pm