อสังหาริมทรัพย์
"พฤกษา"โชว์รายได้สูงสุดในรอบ 21 ปี


"พฤกษา" ทำนิวไฮ ทำรายได้สูงสุดในประวิติศาสตร์ มากถึง 42,702 ล้านบาท ตั้งเป้ารายได้ปีนี้ 47,000 ล้านบาท เล็งผุดโครงการใหม่ 70-75 โครงการ อัดงบซื้อที่ดิน 14,000 ล้านบาท

 


 
 
นายทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทพฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 47,000 ล้านบาท หลังจากสิ้นปี 2557 สามารถทำรายได้ และกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เป็นสถิติใหม่ในรอบ 21 ปี ที่มีรายได้มากถึง 42,702 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% จากปี 2556 ที่ มีรายได้38,800 ล้านบาท 

โดยรายได้หลักมาจากทาวน์เฮาส์ และบ้านเดี่ยว 32,567 ล้านบาท รายได้จากคอนโดมิเนียม และโครงการในต่างประเทศอีก 10,135 ล้านบาท ส่งผลให้มีกำไรสุทธิ 6,655 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.7% จากปี 2556 จากการบริหารต้นทุนและบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น แม้ว่าปีที่ผ่านมาภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในเขตกทม.และปริมณฑลจะลดลง 15.8% ก็ตาม แต่บริษัทก็ยังครองส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มสูงขึ้นจาก 11% เป็น 13% โดยกลุ่มทาวน์เฮาส์ยังครองส่วนแบ่งการตลาดสูงสุดที่ 32%  

 
 
 
“โดยภาพรวมแล้ว บริษัทถือเป็นอันดับ 1 ของตลาดอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะทาวน์เฮาส์ที่ครองอันดับ 1 แต่ในส่วนของบ้านเดี่ยวและคอนโดมิเนียมนั้นยังอยู่อันดับ 1 ใน 2 ทั้งนี้ คาดว่าปีนี้บริษัทจะมีส่วนแบ่งตลาดที่อยู่อาศัยในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลเพิ่มขึ้นเป็น 15% ของมูลค่าตลาดรวม 290,000 ล้านบาท ได้ตามแนวโน้มเป้าหมายรายได้ที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งปัจจุบันบริษัทมียอดขายรอโอน (แบ็คล็อค) ทั้งสิ้น 34,220 ล้านบาท คาดว่าจะรับรู้รายได้ปีนี้ 22,800 ล้านบาท หรือ 48.6% ของเป้ารายได้ทั้งปี 2558 จึงมั่นใจว่ารายได้ในปีนี้จะเติบโตได้ตามเป้าหมาย”

ขณะเดียวกัน ได้ตั้งงบซื้อที่ดินไว้อีก 14,000 ล้านบาท ซึ่งซื้อที่ดินไปแล้ว 170 ล้านบาท อีกทั้งยังมีงบลงทุนอื่นๆ อีก 650 ล้านบาทสำหรับการพัฒนาโครงการใหม่ในปีนี้ 70-75 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 55,000-61,000 ล้านบาท ปัจจุบันมีที่ดินสำหรับรองรับการเปิดโครงการปีนี้แล้วทั้งหมด 60 แปลง ส่วนที่เหลือจะทยอยซื้อเพิ่ม

 
 
 
ด้าน นายเลอศักดิ์ จุลเทศ รองประธานกรรมการบริหารและกรรมการอำนวยการ กล่าวว่า บริษัทจะดำเนินงานตาม Business Platform ที่วางไว้ โดยยังคงเน้นตลาดแนวราบ ซึ่งมีสัดส่วนรายได้จากแนวราบ 77% และแนวสูง 23% และสามารถลดระยะเวลาในการก่อสร้างบ้านแนวราบ และเร่งการส่งมอบทาวน์เฮาส์ และบ้านเดี่ยวได้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นผลจากการนำเทคโนโลยี Pruksa Precast รวมถึงระบบการก่อสร้างบ้านที่มีคุณภาพ Pruksa REM ส่งผลให้รอบธุรกิจ ระยะเวลาจากจองถึงโอน ( Business Cycle Time ) โครงการแนวราบ ลดลงเหลือเพียง 87 วัน จากในปี 2556 ที่ 146 วัน ทำให้เกิดการหมุนเวียนของทรัพย์สินที่รวดเร็ว และทำให้มีรายได้ และกำไรสุทธิเพิ่มสูงขึ้นด้วย

โดยในเดือนมกราคมที่ผ่านมา บริษัทสามารถทำยอดขายได้ถึง 3,400 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 172% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากตลาดอสังหาริมทรัพย์ช่วงต้นปีนี้ฟื้นตัวขึ้น หลังความเชื่อมั่นและกำลังซื้อของผู้บริโภคเริ่มกลับมา ประเมินว่าปีนี้ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในกทม.และปริมณฑลจะโตได้ถึง 10% ขณะเดียวกัน มองว่า หากคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ลดดอกเบี้ยนโยบายลงในการประชุมครั้งต่อไปจะยิ่งส่งผลดีต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์เพิ่มมากขึ้น

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 19 ก.พ. 2558 เวลา : 00:53:33
26-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 26, 2024, 1:45 pm