"เพซ ดีเวลลอปเมนท์" เผยปีนี้ลงทุนโครงการใหม่ 2 แห่ง มูลค่ารวมกว่า 10,000 ล้าน พร้อมเปิดตัวที่พักอาศัยระดับซูเปอร์ลักชัวรี "นิมิต หลังสวน" ตารางเมตรละ 300,000 บาท เจาะกลุ่มเศรษฐีกระเป๋าหนัก ทั้งไทยและเทศ เผยยอดจองสูงถึง 70%
นายสรพจน์ เตชะไกรศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PACE เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทมีแผนจะเปิดโครงการใหม่ 2 โครงการ มูลค่าโครงการรวมประมาณกว่า 10,000 ล้านบาท โดยได้เปิดพรีเซลล์โครงการนิมิตหลังสวนไปแล้ว มูลค่าโครงการ 7,500 ล้านบาท และมียอดจองพร้อมจ่ายเงินมัดจำแล้วถึง 70% จากงาน ‘ไพรเวท วีวีไอพี พรี-เซลส์’ (Private VVIP Pre-Sales) เป็นยอดขายจากชาวไทยประมาณ 90% และต่างชาติ 10% เป็นชาวแคนาดาและฮ่องกง
โครงการ"นิมิต หลังสวน" ตั้งอยู่บนถนนหลังสวน บนที่ดินกรรมสิทธิ์ฟรีโฮลด์ พื้นที่ประมาณ 3 ไร่ เป็นอาคารสูง 53 ชั้น ประกอบด้วย ที่พักอาศัยสุดหรูระดับซูเปอร์ลักชัวรีจำนวน 187 เรสซิเดนซ์ ราคาตารางเมตรละกว่า 300,000 บาท เรสซิเดนซ์มีตั้งแต่ขนาด 2 - 4 ห้องนอน และเพนท์เฮาส์ ขนาดตั้งแต่ 78 – 617 ตารางเมตร เพดานสูง 3 เมตรขึ้นไป ราคาขายประมาณ 25 - 250 ล้านบาท จะเริ่มก่อสร้างในเดือนตุลาคม 2558 กำหนดแล้วเสร็จภายในครึ่งปีหลังของปี 2561
โครงการอีกแห่ง คือ โครงการมหาสมุทรที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ จะเปิดตัวในเดือนเมษายนนี้ เฟสแรกเป็นวิลล่าตากอากาศมูลค่าโครงการราว 3,000 ล้านบาท ขณะนี้เริ่มก่อสร้างสาธารณูปโภค ถนน และทะเลสาบแล้ว
สำหรับผลประกอบการของบริษัทตั้งแต่ปี 2558 เป็นต้นไป จะเริ่มพลิกเป็นกำไร หลังเริ่มโอนโครงการคอนโดมิเนียมมหานครตามกำหนด ตั้งเป้ายอดรับรู้รายได้ราว 2,000 ล้านบาท ขณะนี้มียอดขายสะสมรอโอน (backlog) แล้ว 10,000 ล้านบาท โดยมหานครจะทยอยโอนตั้งปีนี้ไปจนถึงปี 2560 และจะมีการมูลค่าการโอนสูงสุดในปี 2559 จากมูลค่าโครงการกว่า 21,000 ล้านบาท ขณะนี้มียอดขายแล้วกว่า 70% และมีกำหนดสร้างแล้วเสร็จภายในปี 2558
นายสรพจน์ กล่าวว่า บริษัทตั้งงบซื้อที่ดินราว 1,000-2,000 ล้านบาท เพื่อใช้ซื้อที่ดินแปลงใหม่ในกรุงเทพฯ ในย่านถนนสุขุมวิท นอกจากนี้ ยังมีงบลงทุนพัฒนาโครงการราว 3,000-4,000 ล้านบาท สำหรับ 2 โครงการ คือ มหานครและมหาสมุทร
นอกจากนี้ บริษัทมีแผนขยายการลงทุนต่างประเทศมากขึ้น จากการเพิ่มทุนแบบมอบอำนาจทั่วไปให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม (RO) จำนวน 600 ล้านหุ้น และออกหุ้นเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจง (PP) ให้กับพันธมิตรกลุ่มทุนอิสราเอล ซึ่งเป็นกลุ่มที่ร่วมกันทำโครงการมหานครอยู่แล้ว โดยบริษัทจะออกหุ้นเพิ่มทุนใหม่ เพื่อใช้แลกกับหุ้นที่พันธมิตรถืออยู่ในโครงการมหานคร ซึ่งกลุ่มทุนอิสราเอลจะเข้ามาถือหุ้นในบริษัทไม่เกิน 20% คาดว่ากระบวนการเพิ่มทุนทั้ง RO และ PP จะดำเนินการในได้ภายในไตรมาส 2/2558 โดยจะต้องขออนุมัติจากประชุมผู้ถือหุ้นอีกครั้ง
.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)
ข่าวเด่น