อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ มั่นใจตลาดอสังหาริมทรัพย์แนวโน้มดี เดินหน้าเปิด 12 โครงการ ทั้งแนวสูง แนวราบ หวังโกยยอดขาย 23,000 ล้านบาท 
 

 
 
นายชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 23,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ทำยอดขายได้ 20,800 ล้านบาท โดยจะเปิดโครงการใหม่ในปีนี้ อีก 12 โครงการ มูลค่ารวม 31,500 ล้านบาท เป็นคอนโดมิเนียม 9 โครงการ โครงการแนวราบ 3 โครงการ คาดว่าจะทำให้บริษัทมีรายได้ 10,547 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% จากปี 2557 ที่มีรายได้ 9,670 ล้านบาท โดยปีนี้จะมียอดขายรอรับรู้รายได้ 6,220 ล้านบาท จากยอดขายรอโอน (แบ็คล็อค) สิ้นปี 2557 ที่ 27,100 ล้านบาท 

"เฉพาะไตรมาสแรกนี้ บริษัทจะเปิดโครงการใหม่ 7 โครงการรวมมูลค่า 17,045 ล้านบาท เป็นคอนโดมิเนียม 4 โครงการในทำเลที่อยู่ใจกลางเมือง ภายใต้แบรนด์ แอชตันและ“ไอดีโอ คิว” และเปิดตัวคอนโดมิเนียมภายใต้เซ็กเม้นท์ใหม่ "ยูนิโอ คอนโด" ( UNIO Condo ) เป็นทาวน์โฮม 3 โครงการ มูลค่า 2,940 ล้านบาท ภายใต้การเปิดตัวแบรนด์ใหม่ “อาร์เด้น (Arden) ที่เหลือจะทยอยเปิดในช่วงครึ่งปีหลัง"

 
คอนโดมิเนียมที่จะเปิดตัว ประกอบด้วย 1.โครงการแอชตัน จุฬา-สีลม high-rise คอนโดมิเนียมระดับลักซ์ชัวรี่ เป็นการร่วมทุนกันระหว่างอนันดาฯ และมิตซุย สูง 56 ชั้น จำนวน 1,182 ยูนิต มีมูลค่าโครงการกว่า 8,267 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น 5.9 ล้านบาท โดดเด่นด้วยทำเลที่ตั้งอยู่ในศูนย์กลางความเจริญของกรุงเทพฯ (CBD) ห่างจาก MRT สามย่านเพียง 180 เมตร และใกล้ Interchange station สีลม-ศาลาแดงเพียง 550 เมตร 

 
2.โครงการแอชตัน เรสซิเดนซ์ 41 บนทำเลสุขุมวิท 41 เป็นคอนโดมิเนียมระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ Low-Rise สูง 8 ชั้น จำนวน 79 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,361 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น 15 ล้านบาท ตั้งอยู่บนทำเลที่มีศักยภาพใจกลางสุขุมวิท ใกล้สถานีบีทีเอสพร้อมพงศ์เพียง 600 เมตร 

 
3.โครงการไอดีโอ คิว ชิดลม สูง 38 ชั้น จำนวนประมาณ 400 ยูนิต มูลค่าโครงการ 2,543 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น 5.9 ล้านบาท และ 4.โครงการยูนิโอ คอนโด ( UNIO Condo ) Super Value Condominium ในแบบ Low rise สูง 8 ชั้น จำนวน 1,936 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,935 ล้านบาท ราคาเดียว 999,000 บาท ตั้งอยู่ในซอยจรัญสนิทวงศ์ 3 และใกล้ MRT สถานีท่าพระ 900 เมตร ซึ่งเป็น Interchange ของสายบางซื่อ-ท่าพระ และสายหัวลำโพง-บางแค รูปแบบใหม่ของทางเลือกในการอยู่อาศัยจาก 

สำหรับโครงการแนวราบ ประกอบด้วย 1.โครงการ อาร์เด้น ลาดพร้าว 71 จำนวน 67 ยูนิต มูลค่าโครงการ 579 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น 7.5 ล้านบาท 2.โครงการ อาร์เด้น พระราม 3 จำนวน 68 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,074 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น 12.5 ล้านบาท และ 3. โครงการ อาร์เด้น พัฒนาการ 20 จำนวน 159 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,287 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น 7.5 ล้านบาท 

"ส่วนใหญ่ลูกค้ากว่า 25-35% ใช้เงินสดซื้อสินค้าของบริษัท ทำให้ไม่ค่อยประสบปัญหาลูกค้าทิ้งดาวน์หรือสถาบันการเงินปฏิเสธสินเชื่อมากนัก โดยภาพรวมแล้ว มีลูกค้าที่ถูกปฏิเสธสินเชื่อไม่เกิน 6% แม้จะอยู่ในช่วงเศรษฐกิจและการเมืองผันผวน แต่บริษัทยังสามารถสร้างสถิติใหม่ ทั้งรายได้ และกำไรให้สูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้ง อีกทั้งสร้างผลตอบแทนที่ดีให้ผู้ถือหุ้น โดยสร้างกำไรสุทธิสูงสุดเช่นกัน"

 
ปีนี้บริษัทจะรักษาอัตรากำไรสุทธิ 12% เท่ากับปีก่อน แม้ว่ากำไรขั้นต้นอาจลดลงจาก 38% เมื่อปีก่อนเหลือ 34% จากการรับรู้รายได้โครงการแนวราบเพิ่มมากขึ้น เพราะโครงการแนวราบให้อัตรากำไร (มาร์จิ้น) ต่ำกว่าคอนโดมิเนียม อีกทั้งเงินลงทุนจากการเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เมื่อปีก่อน ยังไม่ได้สร้างผลตอบแทนเต็มที่นัก
แต่เชื่อว่าตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป บริษัทจะรับรู้รายได้เติบโตอย่างก้าวกระโดด จากคอนโดมิเนียม ที่เปิดขายและเริ่มโอน

พร้อมกันนี้ ได้ตั้งงบซื้อที่ดินไว้ 4,150 ล้านบาท น้อยกว่าปีก่อนที่ใช้ไป 10,200 ล้านบาท เนื่องจากปีก่อนซื้อที่ดินไปถึงทั้งหมด 18 แปลง ทำให้มีที่ดินในมือรองรับโครงการส่วนใหญ่ที่อยู่ในแผนงานทั้งหมดแล้ว เพื่อผลักดันการให้รายได้เติบโตได้ถึง 35,000 ล้านบาทภายในปี 2562 โดยเงินที่นำมาใช้ลงทุน จะมาจากกระแสเงินสดที่มีอยู่กว่า 2,400 ล้านบาท รวมถึงการออกหุ้นกู้ และการกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงิน