แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ หั่นราคาลุมพินี ทาวน์ชิป รังสิต-คลอง 1 เฟส 2 วันเดียวเหลือ 565,000 บาท เล็งปรับขึ้นราคา 10-30% หลังผ่านอีไอเอ
นายทิฆัมพร เปล่งศรีสุข ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์
จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในวันที่ 4 เมษายนนี้ แอลพีเอ็นจะเปิดขายโครงการ "ลุมพินี ทาวน์ชิป รังสิต-คลอง 1" เฟส 2 ด้วยราคาขายเริ่มต้น 565,000 บาท เพียงวันเดียว จากปกติราคา 640,000 บาท หลังจากที่ผ่านการตรวจผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) แล้ว
พร้อมทั้งได้ร่วมลงนามกับบริษัท สยามฟิวเจอร์ ดีเวลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือเอสเอฟ ในการพัฒนาศูนย์การค้าชุมชนชื่อ "มาร์เก็ต เพลส รังสิตคลอง 1" คาดว่าจะมียอดขาย 5,000 ยูนิต หรือ 3,500 ล้านบาท จากมูลค่าโครงการ 7,000 ล้านบาท ส่วนเฟส 3 คาดว่าจะเปิดขายปลายปีนี้
มาร์เก็ต เพลส รังสิต คลอง 1 มีลักษณะเป็นศูนย์การค้าแบบเปิด สูง 3 ชั้น มีพื้นที่โครงการรวมกว่า 11,000 ตารางเมตร พื้นที่ส่วนกลางประมาณ 3,300 ตารางเมตร โดยในส่วนของพื้นที่ขาย แบ่งออกเป็น 3 ชั้น คือ ชั้น 1 ส่วนพื้นที่เช่าประมาณ 3,200 ตารางเมตร ส่วนสถานพยาบาลและเซเว่น อีเลฟเว่น 300 ตารางเมตร ชั้น 2 พื้นที่เช่าประมาณ 2,500 ตารางเมตร และส่วนชั้น 3 เป็นพื้นที่ห้องประชุมเจ้าของร่วมของ LPN ประมาณ 1,700 ตารางเมตร
ในส่วนของการจัดสรรพื้นที่เช่าชั้น 1-2 แบ่งออกเป็น 7 โซนตามประเภทธุรกิจ คือ 1.โซนอาหารและเครื่องดื่ม 2.โซนซุปเปอร์มาร์เก็ตระดับไฮเอนด์ ซึ่งดำเนินการโดยบริษัท เซ็นทรัลฟู้ด รีเทลล์ จำกัด ผู้เช่าพื้นที่ใหญ่ที่สุดในโครงการ ภายใต้แบรนด์ ท็อปส์มาร์เก็ต (Tops Market) 3.โซนการศึกษา 4.โซนสุขภาพและความงาม 5.โซนธนาคารและสถาบันการเงิน 6 โซนแฟชั่น และ 7.โซนอื่นๆ รวมกว่า 30 ร้านค้า สามารถจอดรถยนต์ได้สูงสุดทั้งหมด 150 คัน คาดว่าในแต่ละวันจะมีผู้มาใช้บริการมากกว่า 5,000 คน
นายทิฆัมพร กล่าวว่า ก่อนหน้านี้บริษัทได้เปิดขายโครงการลุมพินี ทาวน์ชิป เฟส 1 ไปตั้งแต่เดือนตุลาคม 2556 โดยมียอดขายกว่า 2,700 ยูนิต แต่เนื่องจากมีปัญหาอีไอเอยังไม่ผ่าน ลูกค้าจึงยกเลิกไปกว่า 700 ยูนิต ซึ่งขณะนี้ผ่านอีไอเอแล้ว จึงเริ่มเดินหน้าการขายใหม่อีกครั้ง ซึ่งคาดว่าลูกค้าที่ยกเลิกไปนั้นจะกลับมาซื้อถึง 500 ราย แต่หลังจากวันที่ 4 เมษายน แล้ว บริษัทจะปรับราคาขายขึ้น 10-30% หรือเฉลี่ยตั้งแต่ 500,000-900,000 บาท
ด้าน นายโอภาส ศรีพยัคฆ์ กรรมการผู้จัดการ แอลพีเอ็น กล่าวว่า ช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา บริษัทมียอดขาย 2,000
ล้านบาท แต่คาดว่าทั้งไตรมาสแรกนี้จะมียอดขายมากกว่า 3,000 ล้านบาทแน่นอน จากการเปิดโครงการใหม่ ซึ่งขณะนี้มีงานรอโอน (แบ็คล็อค) 19,000 ล้านบาท รับรู้ในปีนี้ 14,000 ล้านบาท มีโครงการรอขายอีก 5,000 ล้านบาท ทำให้มั่นใจว่าทั้งปีนี้จะมียอดขาย 20,000 ล้านบาท มีรายได้ 16,000 ล้านบาท ตามเป้าหมายแน่นอน
สำหรับหนี้ครัวเรือนนั้น ไม่ค่อยมีผลกระทบต่อบริษัทมากนัก เนื่องจากได้เน้นการบริหารจัดการที่ดี โดยร่วมกับสถาบันการเงินเข้ามาตรวจสอบคุณภาพลูกค้า อีกทั้งดาวน์ต่ำเพียง 5% ทำให้ลูกค้ามีความสามารถในการผ่อนชำระ
.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)
ข่าวเด่น