แบงก์-นอนแบงก์
"ทิสโก้" โชว์กำไรไตรมาสแรก 1,192 ลบ.แม้สินเชื่อรถยังซึม


ตลาดรถยนต์ยังไม่ฟื้น กดดันสินเชื่อกลุ่มทิสโก้ไตรมาสแรกลดลง 3.2% แต่ยังสามารถทำกำไรสุทธิโต 1,192 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27.6% พร้อมควบคุมต้นทุนการดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นางอรนุช อภิศักดิ์ศิริกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มทิสโก้ เปิดเผยว่า กลุ่มทิสโก้ยังคงรักษาผลประกอบการได้เป็นที่น่าพอใจในไตรมาสแรกของปี 58  ที่สามารถมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 27.6 %  เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน สะท้อนให้เห็นถึงการบริหารธุรกิจที่มีประสิทธิภาพ ท่ามกลางความท้าทายของภาวะเศรษฐกิจไทยที่ฟื้นตัวช้า แม้ว่าการเติบโตจะเป็นไปได้ช้าตามภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว

 

ทั้งนี้ในสิ้นไตรมาสที่ 1 ปี 2558 กลุ่มทิสโก้มีกำไรสุทธิจำนวน 1,192 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27.6 % เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า จากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่เพิ่มขึ้น  5.9 %  และรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยจากธุรกิจที่เพิ่มขึ้น 7.3 %  จากการปรับตัวดีขึ้นของธุรกิจตลาดทุน ประกอบกับกับค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญที่ปรับตัวลดลงตามคุณภาพหนี้ที่ปรับตัวดีขึ้น

“ในไตรมาสแรก รายได้ดอกเบี้ยสุทธิ มีจำนวน 2,399.53 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 134.62 ล้านบาท หรือ 5.9 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการบริหารต้นทุนเงินทุนที่มีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทยตั้งแต่ช่วงต้นปี 2557  ในส่วนของรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยปรับตัวสูงขึ้นส่วนใหญ่มาจากธุรกิจตลาดทุน โดยรายได้ค่านายหน้าจากการซื้อขายหลักทรัพย์เติบโต  50.6%  ตามปริมาณการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งรายได้ค่าธรรมเนียมพื้นฐานของธุรกิจจัดการกองทุนเพิ่มขึ้น  38.9 % จากการปรับตัวดีขึ้นของภาวะตลาดทุนและการออกกองทุนที่ตอบรับความต้องการของตลาดอย่างต่อเนื่อง”นางอรนุชกล่าว

นางอรนุชกล่าวด้วยว่า สำหรับเงินให้สินเชื่อรวมของกลุ่มทิสโก้ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2558 มีจำนวน 254,437 ล้านบาท ลดลง 3.2 %  จากสิ้นปี 2557 ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการลดลงของสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์และสินเชื่อเพื่อผู้แทนจำหน่ายรถยนต์  ที่เป็นตามภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่ฟื้นตัวช้าและตลาดรถยนต์ที่ยังไม่ฟื้น

อย่างไรก็ดี สินเชื่ออเนกประสงค์ปรับตัวดีขึ้นตามแผนการขยายธุรกิจ ถึงแม้ยังคงมีผลกระทบจากหนี้สินภาครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง โดยหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) เริ่มทรงตัวและมีมีอัตราส่วนอยู่ที่2.65 %  โดยมีค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญปรับตัวลดลง  17.4 %  จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า

กลุ่มทิสโก้ยังคงสามารถควบคุมต้นทุนการดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยยังคงอัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้รวมอยู่ในระดับต่ำ ที่ร้อยละ 37.9 นอกจากนี้ ธนาคารทิสโก้ยังคงรักษาระดับฐานะเงินกองทุนที่แข็งแกร่งมาโดยตลอดทั้งปี โดยมีประมาณการอัตราเงินกองทุนต่อสินทรัพย์  (BIS Ratio) เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ร้อยละ 17.1  สูงกว่าอัตราเงินกองทุนขั้นต่ำร้อยละ 8.50 ที่กำหนดโดยธนาคารแห่งประเทศไทย โดยมีอัตราเงินกองทุนชั้นที่ 1 และชั้นที่ 2 ต่อสินทรัพย์เสี่ยงอยู่ที่ร้อยละ 12.7 และร้อยละ 4.4 ตามลำดับ

“ โดยภาพรวมธุรกิจของกลุ่มทิสโก้ในปีนี้ เรามุ่งเน้นการฟื้นตัวจากปีที่ผ่านมา และการขยายฐานลูกค้าทุกกลุ่ม สำหรับไตรมาสที่ผ่านมา ด้านสินเชื่อรายย่อยเราได้เปิดตัวแบรนด์ “สมหวัง เงินสั่งได้” สินเชื่อจำนำทะเบียนรถทุกประเภท ที่มีสาขาแล้วกว่า 100 แห่งทั่วประเทศ รวมถึงธุรกิจนายหน้าประกันภัยก็ขยายตัวได้ดี ทั้งการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ และการเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่าย ด้านธุรกิจจัดการกองทุน เราประสบความสำเร็จจากการออกกองทุนต่างประเทศที่กำหนดเป้าหมายผลตอบแทน หรือทริกเกอร์ฟันด์ ของ บลจ. ทิสโก้ ที่สร้างผลตอบแทนได้ตามเป้าหมายหลายกอง สะท้อนถึงความเชี่ยวชาญและการจับจังหวะลงทุนที่แม่นยำของทิสโก้ได้อย่างดี” นางอรนุชกล่าว

 


 


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 20 เม.ย. 2558 เวลา : 12:10:29
26-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 26, 2024, 8:08 am