"ธนาคารธนชาต"ตั้งเป้าลด "เอ็นพีแอล"ลงต่อเนื่อง ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ยังเติบโตได้ช้า คาดปี 2558 เอ็นพีแอลจะต่ำกว่า 3% และ Coverage Ratio อยู่ที่ระดับ 100 %

นายสมเจตน์ หมู่ศิริเลิศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ของธนาคารธนชาต เปิดเผยผลประกอบการในไตรมาส 1/2558 ว่า ธนาคารสามารถรักษาผลกำไรของไตรมาสนี้ได้ใกล้เคียงกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และประสบความสำเร็จด้วยดีในการบริหารจัดการคุณภาพสินทรัพย์ซึ่งปรับตัวดีขึ้น จะเห็นได้ว่าธนาคารให้ความสำคัญกับการบริหารสินเชื่อด้อยคุณภาพอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ NPLของธนาคารในงบการเงินรวมในไตรมาส 1 ปี 2558 ปรับตัวลดลงมา 2,020 ล้านบาท หรือ 6.17% จากสิ้นปี 2557และ NPL Ratio ลดลงมาอยู่ที่ 3.95 % จากในปีที่แล้วที่เคยอยู่ประมาณ 4.55 %  ส่งผลให้สัดส่วนสำรองหนี้( Coverage Ratio )ปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ที่ 89.76 %

“หากดูงบเฉพาะของธนาคาร จะเห็นว่า NPLRatio อยู่ที่ 2.98 %  และ Coverage Ratio ก็เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 93.33% สะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งมากขึ้นของคุณภาพสินทรัพย์ของธนาคาร อีกทั้งธนาคารและบริษัทย่อยยังสามารถรักษาระดับผลกำไรใน ไตรมาสนี้ได้ใกล้เคียงกับไตรมาสเดียวกันปีก่อน โดยกำไรสุทธิในไตรมาสนี้อยู่ที่ 2,561 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาสเดียวกันปีก่อน”นายสมเจตน์กล่าว

นายสมเจตน์กล่าวด้วยว่า  จากการที่อัตราดอกเบี้ยนโยบายปรับลดลงไปก่อนหน้านี้ จะเป็นประโยชน์กับธนาคารในไตรมาสถัดๆไป อาจจะทำให้เห็นส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยกว้างขึ้น ถึงแม้ว่า ปริมาณของสินเชื่อจะหดตัวลงไปบ้าง เนื่องจากสินเชื่อเช่าซื้อยังมีปริมาณการชำระคืนที่สูงกว่าปริมาณการปล่อยสินเชื่อใหม่อยู่ แต่ธนาคารก็จะยังคงเน้นเรื่องการลด NPL ลง และเพิ่ม Coverage Ratio ให้มากขึ้น และในปีนี้ในงบเฉพาะกิจการของธนาคารคาดว่าNPL จะอยู่ต่ำกว่า 3% และ Coverage Ratio อยู่ที่ระดับ 100 % สำหรับรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย ก็จะเพิ่มขึ้นและชดเชยรายได้ดอกเบี้ยที่หายไปจากปริมาณสินเชื่อที่หดลง จากการใช้ประโยชน์จากระบบเทคโนโลยีต่างๆที่เราได้พัฒนาขึ้นมาเพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขัน ด้านค่าใช้จ่ายก็ยังควบคุมต่อไปต้นทุนทางเครดิต(Credit Cost) ให้อยู่ราวๆ 0.85 %