เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
คาดสินเชื่อแบงก์ Q2/58 ขยายตัวไม่มาก เหตุแบงก์ระมัดระวังปล่อยกู้


ศูนย์วิจัยกสิกรไทย    ออกบทวิเคราะห์"สินเชื่อเดือน มี.ค. 58 ขยับขึ้นต่อเนื่องจากเดือนก่อน ส่งผลให้ภาพรวมการขยายตัวเป็นบวกเมื่อเทียบกับสิ้นปี 2557"

ประเด็นสำคัญ  

•    เงินให้สินเชื่อแก่ลูกหนี้สุทธิของธนาคารพาณิชย์ไทย 14 แห่ง ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2558 เพิ่มขึ้น 5.15 หมื่นล้านบาท จากเดือนก่อนหน้า เป็น 10.132 ล้านล้านบาท และเติบโตร้อยละ 3.70 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) โดยการเติบโตของสินเชื่อยังคงมาจากกลุ่มธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ และส่วนใหญ่เป็นการเติบโตในกลุ่มสินเชื่อเพื่อธุรกิจและเอสเอ็มอี
•    ด้านเงินฝาก ปรับเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 9.72 หมื่นล้านบาท เป็น 11.139 ล้านล้านบาท และเติบโตร้อยละ 6.93 YoY ส่วนหนึ่งเป็นการปรับสมดุลของธนาคาร หลังจากเงินฝากเพิ่มน้อยในช่วง 2 เดือนก่อน และรองรับการไถ่ถอนหุ้นกู้ด้อยสิทธิระยะยาวก่อนกำหนดของธนาคารบางแห่ง โดยเงินฝากที่เพิ่มขึ้นมากกว่าสินเชื่อ ส่งผลให้แนวโน้มสภาพคล่องของธนาคารพาณิชย์ไทยในเดือนมีนาคมผ่อนคลายลง โดยอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อรวมต่อเงินฝากรวมกับตราสารหนี้ที่ออกและเงินกู้ยืม (LTD+Borrowing Ratio) ขยับลงมาเล็กน้อยที่ระดับร้อยละ 85.11 จากร้อยละ 85.22 ในเดือนกุมภาพันธ์
•    สำหรับแนวโน้มในไตรมาสที่ 2/2558 ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่าสินเชื่อมีโอกาสขยายตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา (QoQ) แต่ไม่มากนัก เนื่องจากธนาคารพาณิชย์คงเพิ่มความระมัดระวังการให้สินเชื่อ หลังจากข้อมูลผลการดำเนินงานในไตรมาสแรกปีนี้ จำนวนสินเชื่อตกชั้นและภาระการกันสำรองหนี้ของธนาคารยังปรับเพิ่มขึ้น ขณะที่แนวโน้มเงินฝากในไตรมาส 2/2558 น่าจะอยู่ในระดับใกล้เคียงกับไตรมาสที่ผ่านมา ตามการปรับโครงสร้างเงินฝากเพื่อบริหารต้นทุนการเงินของธนาคารให้สอดคล้องกับสินเชื่อ ซึ่งคงส่งผลให้ทิศทางสภาพคล่องของธนาคารพาณิชย์ในไตรมาส 2/2558 คงอยู่ในระดับไม่แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญจาก ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2558



เดือนมีนาคม 2558 ...สินเชื่อและเงินฝาก ปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้า ส่งผลให้ภาพรวมเริ่มขยายตัวเป็นบวกเมื่อเทียบกับสิ้นปี 2557

?    เงินให้สินเชื่อสุทธิ ขยับขึ้นจากเดือนก่อน 5.15 หมื่นล้านบาท เป็นจำนวน 10.132 ล้านล้านบาท โดยคิดเป็นอัตราการเติบโตร้อยละ 3.70 (YoY) เร่งตัวขึ้นจากที่ขยายตัวร้อยละ 3.65 (YoY) ในเดือนกุมภาพันธ์ นำโดยการเติบโตของสินเชื่อในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่เป็นหลัก โดยเฉพาะสินเชื่อเพื่อธุรกิจทั้งลูกค้าผู้ประกอบการรายใหญ่และเอสเอ็มอี และสินเชื่อรายย่อยที่ยังเติบโตได้ดีจากสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ขณะที่สินเชื่อเพื่อเช่าซื้อยังคงหดตัวต่อเนื่อง ทั้งนี้ เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2557 สินเชื่อพลิกกลับมาทรงตัว หลังจากที่หดตัวติดต่อกันในช่วง 2 เดือนก่อนหน้า ตามการเร่งขยายสินเชื่อของธนาคารขนาดใหญ่บางแห่งเพื่อชดเชยการหดตัวในช่วงก่อนหน้า

?    เงินฝากปรับเพิ่มขึ้น 9.72 หมื่นล้านบาท จากเดือนก่อนหน้า เป็นจำนวน 11.139 ล้านล้านบาท และเติบโตร้อยละ 6.93 (YoY) ปรับตัวดีขึ้นจากที่เติบโตร้อยละ 5.28 (YoY) ในเดือนกุมภาพันธ์ จากการระดมเงินฝากของธนาคารรายใหญ่บางแห่ง เพื่อทดแทนการไถ่ถอนหุ้นกู้ด้อยสิทธิก่อนกำหนด และธนาคารขนาดเล็กบางแห่ง เพื่อปรับสมดุลสภาพคล่อง หลังจากที่เงินฝากไหลออกค่อนข้างมากในช่วง 2 เดือนก่อน ด้านตราสารหนี้ที่ออกและเงินกู้ยืม ลดลง 21,181 ล้านบาท จากเดือนก่อน และลดลง 46,094 ล้านบาท จากสิ้นปี 2557

สภาพคล่องของธนาคารพาณิชย์ประจำเดือนมีนาคม 2558

เงินฝากที่กลับมาเพิ่มขึ้นมากกว่าเงินให้สินเชื่อในเดือนมีนาคม ส่งผลให้ระดับสภาพคล่องของธนาคารพาณิชย์ไทยมีแนวโน้มผ่อนคลายลง เมื่อวัดผ่านอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อรวมต่อเงินฝากรวมกับตราสารหนี้ที่ออกและเงินกู้ยืม (LTD+Borrowing Ratio) ซึ่งขยับลงมาที่ระดับร้อยละ 85.11 จากระดับร้อยละ 85.22 ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ สอดคล้องกับอัตราส่วนสินทรัพย์สภาพคล่องต่อสินทรัพย์รวมของธนาคารพาณิชย์ ซึ่งเพิ่มขึ้นมาที่ระดับร้อยละ 21.63 จากร้อยละ 21.42 ในสิ้นเดือนก่อน

แนวโน้มไตรมาส 2/2558...สินเชื่อและเงินฝาก จะยังปรับตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป จากความเสี่ยงคุณภาพหนี้ และทิศทางดอกเบี้ยขาลง

    
สำหรับแนวโน้มในไตรมาสที่ 2/2558 ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่าสินเชื่อมีโอกาสขยายตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา (QoQ) แต่ไม่มากนัก เนื่องจากธนาคารพาณิชย์คงเพิ่มความระมัดระวังการให้สินเชื่อ หลังจากข้อมูลผลการดำเนินงานในไตรมาสแรกปีนี้ จำนวนสินเชื่อตกชั้นและภาระการกันสำรองหนี้ของธนาคารยังปรับเพิ่มขึ้น ขณะที่ด้านความต้องการสินเชื่อในไตรมาส 2/2558 คาดว่าจะยังคงเพิ่มขึ้น ทั้งจากสินเชื่อธุรกิจที่คงเติบโตขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยที่น่าจะดีขึ้นเมื่อเทียบไตรมาสต่อไตรมาส โดยคาดการณ์ถึงแรงหนุนจากการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐและการท่องเที่ยว สำหรับสินเชื่อรายย่อย คงได้รับแรงหนุนจากสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยที่ยังมีทิศทางเติบโตได้ดี ตามจำนวนที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จที่ทยอยเข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ผนวกกับการจัดแคมเปญของธนาคารต่าง ๆ นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยฤดูกาลของวันหยุดต่อเนื่องหลายช่วง และเป็นช่วงที่ผู้ปกครองต้องเตรียมค่าใช้จ่ายเพื่อรับการเปิดภาคการศึกษา  ซึ่งน่าจะทำให้สินเชื่อบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลปรับตัวดีขึ้น แม้ว่าภาพรวมสินเชื่อรายย่อยยังถูกกดดันด้วยสินเชื่อเช่าซื้อที่น่าจะหดตัวต่อเนื่องอีกอย่างน้อย 1 ไตรมาสก็ตาม    
        
สำหรับแนวโน้มเงินฝากนั้น คาดว่าธนาคารพาณิชย์จะให้ความสำคัญกับการปรับโครงสร้างเงินฝาก เพื่อบริหารต้นทุนทางการเงินให้เหมาะสมกับความต้องการสินเชื่อ เพื่อประคองรายได้ของธนาคาร ประกอบกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่คาดว่าจะทรงตัวอยู่ในระดับต่ำตลอดปีนี้ คงจะทำให้การแข่งขันด้านราคาระหว่างธนาคารต่าง ๆ มีแนวโน้มลดลง ซึ่งน่าจะทำให้ทิศทางเงินฝากในไตรมาส 2/2558 ขยับขึ้นจากสิ้นไตรมาส 1/2558 ในระดับที่ใกล้เคียงกับการเติบโตของสินเชื่อ คงส่งผลให้ทิศทางสภาพคล่องของธนาคารพาณิชย์ เมื่อวัดผ่านอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อต่อเงินฝากในไตรมาส 2/2558 คงไม่แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญจากระดับ ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2558


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 25 เม.ย. 2558 เวลา : 11:48:24
26-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 26, 2024, 3:09 am