กสิกรไทยลดเป้าสินเชื่อรับเศรษฐกิจ พร้อมคุมเอ็นพีแอลไม่ให้เกิน 2.4 % เดินหน้าหนุนธุรกิจแฟรนไชส์ต่อเนื่อง เพราะความเสี่ยงต่ำ พร้อมจับมือทีโอทีส่งเสริมพนักงานทำธุรกิจแฟรนไชส์อย่างมืออาชีพ ให้เงินทุนดอกเบี้ยพิเศษ

นายพิภวัตว์ ภัทรนาวิก ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธนาคารปรับลดเป้าหมายการเติบโตทางสินเชื่อผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและย่อม(เอสเอ็มอี)ลงจากเดิมที่ตั้งเป้าหมายการเติบโตไว้ที่ 9 -10 % เหลือ 5 -7 %  ตามภาวะเศรษฐกิจ ทั้งนี้คาดว่าภาพรวมสินเชื่อจะเริ่มฟื้นตัวในไตรมาสที่ 2 หลังจากชะลอตัวในไตรมาสแรก อย่างไรก็ตามธนาคารยังควบคุมหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้(เอ็นพีแอล)ให้ต่ำกว่า 2.4% แม้ที่ผ่านมาจะขยับขึ้นบ้างก็ตาม

ทั้งนี้ธนาคารยังเดินหน้าสนับสนุนธุรกิจเอสเอ็มอีและแฟรนไชส์ ทั้งในรูปแบบการให้สินเชื่อ เพื่อพัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ และการให้สินเชื่อผู้ประกอบการแฟรนไชซี่ (Franchisee) โดยมีเป้าหมายที่จะสนับสนุนผู้ประกอบการที่เริ่มต้นธุรกิจ ซึ่งแฟรนไชส์เป็นการเริ่มต้นธุรกิจที่สะดวก มีความเสี่ยงต่ำ เนื่องจากมีรูปแบบการทำธุรกิจที่ชัดเจน อีกทั้งแฟรนไชส์ที่เข้าร่วมโครงการก็มีการคัดเลือกแล้วว่าเป็นธุรกิจที่มีคุณภาพ โดยปัจจุบันธนาคารกสิกรไทยมียอดสินเชื่อแฟรนไชส์อยู่ที่ 1,550 ล้านบาท และไม่มีหนี้เสีย

นายพิภวัตว์กล่าวต่ออีกว่า ทั้งนี้พนักงานเกษียณอายุก่อนกำหนดส่วนใหญ่ยังเป็นผู้มีความรู้ความสามารถมีสุขภาพแข็งแรงยังทำงานและประกอบอาชีพเพื่อสร้างรายได้ให้ครอบครัวต่อไปได้ ดังนั้นธนาคารกสิกรไทยจึงร่วมกับบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) จัดโครงการสนับสนุนทางการเงินพนักงานทีโอทีทำธุรกิจอย่างมืออาชีพขึ้นมาเพราะการเริ่มต้นทำธุรกิจเองไม่ใช่เรื่องง่าย ธุรกิจแฟรนไชส์จึงเป็นทางเลือกที่จะทำให้เป็นเจ้าของธุรกิจที่สามารถเติบโตได้อย่างมั่นคง

พนักงานที่สนใจเข้าโครงการดังกล่าว สามารถเลือกลงทุนในธุรกิจแฟรนไชส์ที่ธนาคารกสิกรไทยได้พิจารณาแล้วว่า มีความมั่นคง น่าเชื่อถือ มีการบริหารจัดการที่ดี และได้รับความนิยมในตลาด สามารถร่วมทำธุรกิจได้อย่างมั่นใจและมีโอกาสเติบโตสูง โดยแฟรนไชส์ที่เข้าร่วมโครงการประกอบด้วย ร้านสะดวกซื้อ     7-Eleven ร้านกาแฟ Billion Coffee ร้านคาร์แคร์ AutoGlym ร้านเบเกอรี่ The Waffle และ N&B Pizza Crape โรงเรียนกวดวิชา Smart English และ MU Tutor เป็นต้น

นอกจากนั้นธนาคารกสิกรไทยยังพร้อมสนับสนุนเงินทุนระยะยาวในการเริ่มต้นทำธุรกิจด้วยเงื่อนไขพิเศษโดย จะลดอัตราดอกเบี้ย 1% จากอัตราปกติตลอดอายุวงเงิน พร้อมรับสิทธิพิเศษและส่วนลดค่าธรรมเนียมจากแฟรนไชส์ที่ร่วมโครงการ การให้องค์ความรู้ในด้านการบริหารจัดการธุรกิจ รวมถึงการมีที่ปรึกษาเพื่อให้คำแนะนำในการบริหารจัดการเงินให้งอกเงย

สำหรับความร่วมมือระหว่างธนาคารกสิกรไทย และบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ในการส่งเสริมให้พนักงานทีโอทีได้เป็นเจ้าของธุรกิจจะเป็นต้นแบบที่ดีสำหรับการสร้างอาชีพใหม่ให้พนักงานเพื่อสร้างรายได้ที่ยั่งยืนให้กับครอบครัวหลังเกษียณอายุก่อนกำหนด ซึ่งในอนาคตธนาคารจะขยายความร่วมมือกับองค์กรเอกชนและรัฐวิสาหกิจอื่น ๆ เพิ่มขึ้นด้วย และปัจจุบันธุรกิจแฟรนไชส์ (Franchise) เป็นธุรกิจที่ได้รับความนิยมของผู้ประกอบการทั้งรายเก่าและรายใหม่ที่มีเงินทุนไม่มาก แต่ต้องการมีกิจการของตนเอง ธุรกิจแฟรนไชส์จึงกลายเป็นทางเลือกหนึ่งที่ได้รับความสนใจในระดับต้นๆ เพราะถือเป็นโอกาสทางธุรกิจที่ช่วยสร้างรายได้สูงแก่ ผู้ลงทุนสูงแต่ความเสี่ยงต่ำ

ด้านนายรังสรรค์ จันทร์นฤกุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทฯ เห็นว่าธนาคารกสิกรไทยนำเสนอการประชาสัมพันธ์การวางแผนและบริหารการเงิน พร้อมทั้งแนะนำธุรกิจแฟรนไชส์ให้กับพนักงานทีโอที ซึ่งพนักงานผู้เกษียณก่อนกำหนดมีความสนใจในการวางแผนการเงินเพื่อการดำรงชีพในรูปแบบต่างๆ ทั้งหากต้องการประกอบอาชีพธุรกิจส่วนตัว ทางธนาคารก็แนะนำแฟรนไชส์ธุรกิจที่น่าสนใจและมีอนาคต การเลือกธนาคารกสิกรไทยในการจัดโครงการนี้เนื่องจากมองว่ากสิกรไทยมีการสนับสนุนในเรื่องเอสเอ็มอีที่ชัดเจนและมีกลุ่มแฟรนไชส์ที่อยู่ในโครงการที่มีคุณภาพจำนวนมากและเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้พนักงานทีโอทีทำธุรกิจได้อย่างมืออาชีพจริงๆ  และหากพนักงานของบริษัทสนใจลงทุนธุรกิจเกี่ยวกับเกษตรกรรม ธนาคารก็มีทางเลือกในการลงทุนในธุรกิจปศุสัตว์ในลักษณะ Contract Farming ที่ร่วมในโครงการของธนาคารเพื่อให้สามารถทำธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย