แบงก์-นอนแบงก์
ศาลฎีกาฯ สั่งจำคุก 18 ปี "สุชาย เชาว์วิศิษฐ์" อดีตประธานบอร์ดแบงก์กรุงไทย และ "วิโรจน์ นวลแข"อด่ีตเอ็มดี ฐานทุจริตปล่อยกู้กฤษดานคร ส่วน "ทักษิณ ชินวัตร" พักคดีชั่วคราว เหตุหลบหนี


ศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาสั่งจำคุก"สุชาย เชาว์วิศิษฐ์" และ "วิโรจน์ นวลแข" 18 ปี โทษฐานทุจริตปล่อยกู้"กฤษดานคร" ส่วน "ทักษิณ ชินวัตร" พักคดีชั่วคราว เหตุอยู่รเะหว่างหลบหนีคดี เผยหลังคำพิพากษาเสร็จสิ้น สองบิ๊กพร้อมพวกที่โทษจำคุก 18 ปี ถูกคุมตัวเข้าเรือนจำกลางคลองเปรมทันที ขณะเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯรับผู้ต้องขังที่โทษจำคุก 12 ปี รวม 16 คน ผบ.เรือนจำเผย ผู้ต้องขังบางรายเกิดอาการเครียด


 

วันนี้ (26 สิงหาคม) ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาจำคุก ร.ท.สุชาย เชาว์วิศิษฐ์ จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นประธานบอร์ดบริหาร ธ.กรุงไทย ในขณะนั้น และ นายวิโรจน์ นวลแข อดีตกรรมการผู้จัดการ ธ.กรุงไทย จำเลยที่ 3 และจำเลยที่ 12 ซึ่งเป็นกรรมการอนุมัติสินเชื่อ ในความผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์กรของรัฐ พ.ศ.2502 ม.4 ซึ่งเป็นบทหนักสุด จำคุกคนละ 18 ปี

จากกรณีเมื่อปี 2546 ได้มีการอนุมัติสินเชื่อกว่า 8 พันล้านบาทให้กับบริษัทในเครือของบริษัทกฤษดานคร ซึ่งมีการอ้างว่าจะนำเงินไปรีไฟแนนซ์หนี้สินกับสถาบันการเงินอื่น และซื้อที่ดินทำโครงการเกี่ยวกับที่ดินอื่นอีก แต่ภายหล้งได้มีการนำเงินไปเพื่อประโยชน์ส่วนตัว โดยไม่ได้มีการดำเนินการตามโครงการดังกล่าวอย่างแท้จริง
            

โดยศาลได้มีคำพิพากษาให้พวกจำเลยต้องร่วมกันชดใช้เงินคืนให้กับ ธ.กรุงไทย ผู้เสียหายด้วย นอกจากนี้ ศาลยังมีคำพิพากษาให้จำคุกจำเลยที่ 5 , 8-11 และ 13-17 ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคาร ที่เป็นกรรมการอนุมัติสินเชื่อ และกลุ่มเอกชนที่ทำการขอสินเชื่ออีกคนละ 12 ปี เช่นกัน โดยศาลให้จำเลยซึ่งเป็นบริษัทเอกชนที่ทำการขออนุมัติสินเชื่อโดยทุจริตคืนเงินให้กับ ธ.กรุงไทย กว่าหมื่นล้านบาทด้วย  
             

ส่วนจำเลยที่ 23-27 ซึ่งเป็นกรรมการผู้มีอำนาจของ บ.เอกชน ที่กระทำผิดให้จำคุก คนละ 12 ปี และให้ยกฟ้องจำเลยที่ 6-7 ซึ่งเป็นกรรมการฝ่ายสินเชื่อ  ส่วน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จำเลยที่ 1 นั้น ศาลให้พักคดีไว้ชั่วคราว เนื่องจากอยู่ระหว่างการหลบหนีคดี

 


ด้าน นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ กล่าวว่า วันนี้เมื่่อเวลา 14.00 น.เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯได้รับตัวผู้ต้องขังในคดี่ทุจริตปล่อยกู้ของธนาคารกรุงไทย จำนวน 16 คน ที่ศาลลงโทษจำคุก 12 ปี มาคุมขังที่เรือนจำ ส่วนผู้ต้องขังที่ได้รับโทษจำคุก 18 ปี อาทิ นายสุชาย เชาว์วิศิษฐ์ และนายวิโรจน์ นวลแข จะถูกนำไปคุมขังที่่เรือนจำกลางคลองเปรม เนื่องจากโทษที่ได้รับสูงเกินอำนาจการคุมขังของเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ

ทั้งนี้หลังจากรับตัวผู้ต้องขังจากศาลมาคุมขังที่เรือนจำ ได้ทำประวัติผู้ต้องขังใหม่ และตรวจสุขภาพ พร้อมแนะนำการปฏิบัติตัวตามระเบียบเรือนจำ เบื้องต้นพบว่าผู้ต้องขังบางรายมีอาการเครียด
                

อย่างไรก็ตาม ในคืนแรกของการคุมขัง ผู้ต้องขังใหม่ทั้งหมดจะถูกส่งตัวไปอยู่รวมกันภายในแดนแรกรับ เช่นเดียวกับผู้ต้องขังรายอื่น จากนั้นเมื่อผู้ต้องขังสามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพในเรือนจำได้ จะพิจารณาจำแนกแยกแดนไปยังห้องคุมขังอื่นๆ ที่เหมาะสมต่อไป
              

(ขอบคุณภาพจากไทยรัฐ)

 


LastUpdate 27/08/2558 01:43:06 โดย :
19-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 19, 2024, 7:51 am