ผลประกอบการในไตรมาส 3 ปี2558 ของธนาคารพาณิชย์ ทั้ง 11 แห่ง ได้ประกาศออกมาอย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่งเป็นไปตามที่มีการคาดการณ์ โดยธนาคารพาณิชย์ 11 แห่ง ได้แจ้งว่า มีกำไรสุทธิ 46,593.26 ล้านบาท ปรับตัวลดลง 8,926.81 ล้านบาท หรือ 16.07% จากไตรมาส 3 ปี 57 ที่มีกำไรสุทธิ 55,520.07 ล้านบาท

ขณะที่ผลประกอบการงวด 9 เดือน ปี 58 มีกำไรสุทธิ 148,806.29 ล้านบาท ลดลง 6,161.96 ล้านบาท หรือ 3.97% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 154,968.25 ล้านบาท

โดยในช่วงไตรมาส 3 ธนาคารกรุงไทย มีกำไรสุทธิลดลงสูงสุด 42.22% รองลงมา ธนาคารไทยพาณิช ย์ลดลง 31.95% ตามด้วย บริษัททิสโก้ไฟแนนซ์เซียล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้ถือหุ้นใหญ่ธนาคารทิสโก้ ลดลง 25.63% และธนาคารกสิกรไทย ลดลง 19.16% เนื่องจากธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกรุงไทย และธนาคารทิสโก้ ได้ปล่อยเงินกู้ให้กับบริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี จำกัด (มหาชน) หรือเอสเอสไอ และบริษัทลูกในประเทศอังกฤษ ซึ่งอยู่ระหว่างการพิทักษ์ทรัพย์ คือ บริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี ประเทศอังกฤษ หรือเอสเอสไอ ยูเค ขณะเดียวกันธนาคารพาณิชย์ยังต้องกันสำรองเพิ่มขึ้น หลังจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ทำให้หนี้เสียปรับตัวเพิ่มขึ้น

ส่วนธนาคารที่มีกำไรเพิ่มขึ้นมากที่สุด คือ ธนาคารซีไอเอ็มบี มีกำไรสุทธิ 498.37 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 223.30 ล้านบาท หรือ 81.18% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไร 275.07 ล้านบาท

น.ส.อุษณีย์ ลิ่วรัตน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการแทนผู้อำนวยการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส เปิดเผยว่า สาเหตุที่กำไรสุทธิรวมปรับตัวลดลง มาจากปัญหาหนี้ของ บมจ.สหวิริยาสตีล อินดัสตรี (SSI) และหนี้ในสินเชื่อธุรกิจขนาดกลางขนาดเล็ก (เอสเอ็มอี) ทำให้หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) เพิ่มขึ้น โดยพบว่า ธนาคาร 10
แห่งที่อยู่ภายใต้การสำรวจในไตรมาส 3/2558 ธนาคารที่เอ็นพีแอลเพิ่มมากสุด คือ กรุงไทย เพิ่มขึ้น 23,000 ล้านบาท รองลงมา คือ ไทยพาณิชย์ เพิ่มขึ้น 16,200 ล้านบาท ธนาคารที่มีสัดส่วนเอ็นพีแอลต่อสินเชื่อรวม (งบเฉพาะ) มากที่สุด คือ เกียรตินาคิน มีสัดส่วน 6.39% รองลงมา คือ กรุงไทย 3.92%.