แบงก์-นอนแบงก์
ธอส.เล็งขยายวงเงิน "สินเชื่อบ้านผู้มีรายได้น้อย" เพิ่มอีก 1 หมื่นล้าน ปลื้มผลงาน 9 เดือนปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ 1.08 แสนล้าน


ธอส.เตรียมขยายวงเงินเพิ่มอีก 1 หมื่นล้านบาท เผยปัจจุบันลูกค้าเข้ามายื่นคำขอกู้แล้ว 6,900 ราย คิดเป็นจำนวนเงินขอกู้ 8,500 ล้านบาท ปลื้มผลงาน 9 เดือนปีนี้ ปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ 1.08 แสนล้านบาท พร้อมรักษา NPL อยู่ที่ 5.43% ขณะที่ผลงาน 2 ปี 6 เดือน ตั้งแต่รับตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ คนที่ 12 ดันปล่อยสินเชื่อใหม่แล้วรวมกว่า 3.5 แสนล้านบาท พร้อมลด NPL กว่าหมื่นล้านบาท

  



นางอังคณา ปิลันธน์โอวาท ไชยมนัส กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ธนาคารเตรียมพิจารณาขยายวงเงินมาตรการเพื่อส่งเสริมการให้สินเชื่อที่อยู่อาศัยแก่ผู้มีรายได้น้อยและปานกลาง อีก 10,000 ล้านบาท หลังจากกรอบวงเงินสินเชื่อเดิม 10,000 ล้านบาทใกล้หมดลงแล้ว โดยล่าสุดมีจำนวนเงินขอกู้แล้ว 8,500 ล้านบาท คิดเป็นจำนวนลูกค้าที่ยื่นคำขอกู้ 6,900 ราย (ตั้งแต่เปิดรับคำขอยื่นกู้ 19-26 ต.ค.2558)


"หลังจากนี้หากมีลูกค้าประชาชนยื่นคำขอกู้ตามกรอบวงเงินรวม 10,000 ล้านบาทแล้ว ธอส.ยังเปิดรับคำขอกู้ต่อไปได้ จนกว่าจะมีการทำนิติกรรมสัญญาเงินกู้กับ ธอส.จนครบกรอบวงเงิน และหากยังมีความต้องการสูงกว่ากรอบวงเงินของมาตรการ ธอส.ก็พร้อมพิจารณาขยายวงเงินเพิ่มเติมต่อไป โดยเบื่องต้นคาดว่าจะประมาณ 10,000 ล้านบาท ที่จะสำรองไปจนถึง 18 ต.ค.2559 แต่อย่างไรก็ตาม ต้องนำเรื่องขออนุมัติจากคณะกรรมการธนาคารก่อนทั้งนี้ ผู้ยื่นขอกู้ตามมาตรการดังกล่าว จะต้องเป็นผู้มีรายได้สุทธิต่อเดือนไม่เกิน 30,000 บาท ซึ่งจะได้รับวงเงินกู้ไม่เกิน 3 ล้านบาท ระยะเวลากู้สูงสุด 30 ปี และถ้าเตรียมเอกสารการกู้ครบ เช่น สลิปเงินเดือน สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาบัตรประชาชน จะได้รับการอนุมัติภายใน 5 วันทำการ" นางอังคณากล่าว
  

นางอังคณากล่าวต่อไปว่า การที่ภาครัฐมอบหมายให้ ธอส.เป็นผู้นำในการจัดทำมาตรการดังกล่าว เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ส่งผลให้ธุรกิจภาคอสังหาริมทรัพย์กลับมาคึกคัก สถาบันการเงินต่างเล็งเห็นความสำคัญด้านการให้บริการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยอัตราดอกเบี้ยต่ำ ซึ่ง "ประชาชน" จะเป็นผู้ที่ได้รับประโยชน์สูงสุด นับเป็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐที่สามารถคืนความสุขให้คนไทยได้มี "บ้าน"อย่างแท้จริง ในขณะเดียวกัน ธอส.มุ่งมั่นคิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อสร้างโอกาสสานฝันให้คนไทยผู้มีรายได้น้อยและปานกลางมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองต่อไปตามนโยบายรัฐบาล

 

 

กรรมการผู้จัดการ ธอส. กล่าวว่า สำหรับผลการดำเนินงานของธนาคารสิ้นสุดไตรมาส 3/58 (30 ก.ย. 58) เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ธนาคารยังคงรักษาอัตราการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดย 9 เดือนของปีนี้ปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ 108,401 ล้านบาท เพิ่มจากช่วงเดียวกันปีก่อน 5,002 ล้านบาท หรือคิดเป็น 4.84% ส่งผลให้ ณ สิ้นไตรมาส 3/58 เมื่อเทียบกับสิ้นปี 57 ธนาคารมียอดสินเชื่อคงค้างรวมทั้งสิ้น 837,795 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.48% สินทรัพย์รวม 887,640 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.59% เงินฝากรวม 713,585 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.38%
  

นอกจากนี้ ธนาคารยังสามารถบริหารจัดการหนี้ที่มิก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ลดลงเหลือ 45,469 ล้านบาท หรือคิดเป็น 5.43% ของยอดสินเชื่อรวม ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มี NPL อยู่ที่ 5.99% มีกำไรสุทธิ 6,979 ล้านบาท ขณะที่อัตราส่วนกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS Ratio) อยู่ในระดับ 16.06% ซึ่งสูงกว่าอัตราเงินกองทุนขั้นต่ำ 8.50% ที่กำหนดโดยธนาคารแห่งประเทศไทย
  

"กำไรปีนี้ถึงเป้าที่ตั้งไว้ 8,800 ล้านบาทแน่นอน จากปัจจุบันมีกำไรแล้ว 6,979 ล้านบาท เพราะปลายปีสินเชื่อจะเข้ามามาก เนื่องจากเป็นฤดูกาลซื้อบ้าน โดยเฉพาะรัฐบาลมีมาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนต่างๆ ออกมา ยิ่งช่วยหนุนให้ธุรกิจภาคอสังหากลับมาคึกคักขึ้น"กรรมการผู้จัดการ ธอส. กล่าว
   

นางอังคณากล่าวว่า สำหรับผลการดำเนินงานของธนาคารในระยะเวลา 2 ปี 6 เดือน (เมษายน 56 - กันยายน 2558) ที่ตนเข้ามาดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ ธอส. นั้น สามารถปล่อยสินเชื่อใหม่สะสมทั้งสิ้น 350,116 ล้านบาท มีกำไรสุทธิสะสมทั้งสิ้น 21,679 ล้านบาท สินเชื่อคงค้างเพิ่มขึ้น 124,426 ล้านบาท เงินฝากเพิ่มขึ้น 128,880 ล้านบาท สินทรัพย์รวมเพิ่มขึ้น 134,683 ล้านบาท ขณะเดียวกันยังสามารถบริหารจัดการหนี้ NPL ให้ลดลงอย่างต่อเนื่องถึง 10,186 ล้านบาท หรือ คิดเป็น 5.43% ของยอดสินเชื่อรวม ซึ่งความสำเร็จเหล่านี้ที่ทำให้ ธอส.ยังคงเป็นสถาบันการเงินหลักของภาครัฐที่พร้อมให้บริการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยแก่พี่น้องประชาชน มาจากการร่วมมือร่วมใจของพนักงานทุกคนในธอส.

 

นางอังคณา กล่าวเพิ่มเติมว่า มีความภาคภูมิใจเป็นอย่างมากที่ตลอดระยะเวลาของการดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ ธอส. คนที่ 12 และยังถือเป็นกรรมการผู้จัดการหญิงคนแรกของ ธอส.นับตั้งแต่ธนาคารก่อตั้งมาเมื่อปี พ.ศ. 2496 ได้มีส่วนผลักดันให้ ธอส.เป็นกลไกของภาครัฐในการสร้างความสุขให้คนไทยโดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อยและ ปานกลางทั่วประเทศได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพการให้บริการควบคู่กับการพัฒนาบุคลากร เน้นกลยุทธ์การมุ่งเน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (Customer Centric) อาทิ การกระตุ้นให้พนักงานปฏิบัติตนตามแบบอย่างที่ดีตามค่านิยมขององค์กร (G-I-V-E-Values) การเปิดตัว ผู้นำต้นแบบ (Role Model Champion) เพื่อถ่ายทอดค่านิยมและแสดงตนเป็นแบบอย่างที่ดีให้พนักงานปฏิบัติตนไปในทิศทางเดียวกัน โครงการยกระดับมาตรฐานการให้บริการที่ดีทั่วทั้งองค์กร โดยการกำหนดให้พนักงานทั่วประเทศปฏิบัติตาม“คู่มือมาตรฐานการให้บริการที่ดีทั่วทั้งองค์กร” พร้อมเปิดตัวตราสัญลักษณ์ “ธอส.บริการด้วยหัวใจ” โครงการ Peak Day ซึ่งผู้บริหารระดับสูงจะร่วมให้บริการลูกค้าด้วยตัวเอง และเปิดช่องทางในการรับฟังความเห็นและสร้างความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้าในหลายจังหวัดทุกภูมิภาคทั่วประเทศด้วยกิจกรรม “แทนคำขอบคุณจากใจ ธอส.” (Big Thanks) รวมถึงการให้ความสำคัญกับกิจกรรมการตอบแทนสังคมและสิ่งแวดล้อม (CSR) ภายใต้แนวคิด บ-ว-ร ซึ่งสอดคล้องกับพันธกิจหลักของธนาคาร และสร้างความยั่งยืนให้องค์กร ภายใต้วิสัยทัศน์ ธนาคารมั่นคง ทันสมัย และเป็นผู้นำสินเชื่อด้านที่อยู่อาศัยอย่างครบวงจร โดยนำปรัชญาในการบริหารองค์กร “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนาอย่างสร้างสรรค์ และใส่ใจวัฒนธรรมองค์กร” มาใช้ทั่วทั้งองค์กร

“จากการที่ได้มีส่วนร่วมวางรากฐานที่เพิ่มความแข็งแกร่งในทุกมิติ เพื่อให้ ธอส. เติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมทั้งมุ่งสร้างให้เป็นองค์กรที่มีความซื่อสัตย์สุจริต มีธรรมาภิบาล มีจริยธรรม เชื่อว่าก้าวต่อไปของ ธอส.ในช่วงหลังจากนี้ จะยังคงเป็นก้าวที่มั่นคง ด้วยประสบการณ์และความรู้ความสามารถของพนักงาน ธอส.กว่า 3,000 คน ทั่วประเทศที่ร่วมกันทำงานอย่างจริงจัง พร้อมที่จะสนับสนุนรัฐบาลขับเคลื่อนเศรษฐกิจภาคอสังหาริมทรัพย์ได้อย่างต่อเนื่อง และดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อม (CSR) ควบคู่ไปกับการดำเนินธุรกิจต่อไป เพื่อคืนความสุขให้คนไทยได้มี “บ้าน” เป็นของตนเอง”นางอังคณากล่าว


 


บันทึกโดย : วันที่ : 28 ต.ค. 2558 เวลา : 12:33:33
26-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 26, 2024, 12:03 pm