แบงค์ค็อกไนท์บาซาร์ ทุ่ม 3,600 ล้านบาท ฟื้นสวนลุมไนท์บาซาร์ ยึดทำเลทองรัชดา-ลาดพร้าว ดีเดย์ 23 ธค.นี้ เปิดให้บริการ คาดผู้ใช้บริการวันละ 35,000 คน ตั้งเป้าโกยรายได้ปีแรก 450 ล้านบาท

นายไพโรจน์ ทุ่งทอง ประธานบริหารและกรรมการผู้ตัดการ บริษัท แบงค์ค็อกไนท์บาซาร์ จำกัด ผู้พัฒนาโครงการสวนลุมไน้ท์บาซาร์รัชดา เปิดเผยว่า บริษัทได้ลงทุน 3,600 ล้านบาท เพื่อพัฒนาโครงการสวนลุมไน้ท์บาซาร์ บนถนนโซนรัชดา-ลาดพร้าว พื้นที่ 14 ไร่ ประกอบด้วย โรงแรม 4 ดาว จำนวน  800 ห้อง มูลค่า 2,000 ล้านบาท โรงละคร ช้อปปิ้งพลาซ่า รวมทั้ง ศูนย์แสดงสินค้า ร้านค้า วอคกิ้งสตรีท ฟิตเนสเซ็นเตอร์ สวนน้ำขนาดใหญ่ ร้านอาหาร โชว์รูมรถซูเปอร์คาร์ พื้นที่รวมกว่า 125,000 ตารางเมตร โดยเริ่มเปิดให้บริการไม่เป็นทางการตั้งแต่วันที่ 23 ธันวาคมนี้เป็นต้นไป ตลอด 24 ชั่วโมง ก่อนจะเปิดตัวในช่วงต้นปีหน้า คาดว่าจะมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการวันละ 35,000 คน มีรายได้ปีแรก 450 ล้านบาท ใช้เวลาคืนทุนภายใน 6 ปี

“ขณะนี้มีผู้ค้าเข้ามาเช่าพื้นที่แล้ว 90% ส่วนอีก 10% นั้น บริษัทจะคัดเลือกร้านค้าเป้าหมายที่สร้างความสนใจให้โครงการเข้ามาเวียนจัดกิจกรรม โดยบริษัทจะใช้งบประมาณ 30 ล้านบาท จัดกิจกรรมทุกสัปดาห์ 52 งานตลอดทั้งปี พร้อมกันนี้เปิดโอกาสให้ผู้ค้ารายย่อยเข้ามาขายได้ด้วย ซึ่งบริษัทคิดค่าเช่าพื้นที่บูธละ 350 บาทต่อ 5 ตารางเมตรช่วง 6 เดือนแรก จากนั้นจะขึ้นราคา 10% ทุก 6 เดือนไปจนกว่าจะถึงตารางเมตรละ 550 บาทแล้วจะยืนราคานี้ไปอีก 3 ปี จึงจะพิจารณาปรับใหม่ ส่วนผู้ค้ารายใหญ่คิดค่าเซ็ง 12 ปี ตารางเมตรละ 150,000-170,000 บาท”

ก่อนหน้านี้ บริษัทได้ดำเนินโครงการสวนลุมไนท์บาซาร์ แห่งเดียวของกทม.ที่ถนนวิทยุ กว่า 120 ไร่ แต่เนื่องจากได้หมดสัญญาเช่าที่จากสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ต้องคืนที่ดินดังกล่าวไป จึงได้มองหาทำเลใหม่ และได้เช่าพื้นที่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย มาตั้งแต่ปี 2553 และขณะนี้เหลืออายุสัญญาอีก 18 ปี จึงได้เริ่มดำเนินโครงการ เพราะเห็นว่าก่อนหน้านี้เคยทำตลาดบนพื้นที่โล่ง ที่ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีห้องน้ำ ไม่มีอะไรเลย ก็ยังมีคนเดินเยอะมาก จึงได้ร่วมกับผู้ถือหุ้นอีก 2 ราย เริ่มดำเนินโครงการดังกล่าวขึ้นมา และต้องการให้สวนลุมไนท์บาซาร์เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก