แบงก์-นอนแบงก์
"ออมสิน" ประกาศเคาท์ดาวน์ มุ่งสู่ระบบ "ชิปการ์ด" ปิดระบบเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ๑๓ ชั่วโมง ช่วง ๕ ทุ่ม คืนวันที่ ๕ ก.พ. ถึง เที่ยงวัน วันที่ ๖ ก.พ.นี้


ออมสิน นับถอยหลังเริ่มใช้ระบบ “ชิปการ์ด” ดีเดย์ ห้าทุ่มวันที่ ๕ ถึงเที่ยงวัน วันที่ ๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙ ปิดระบบ ATM ๑๓ ชั่วโมง เพื่อพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพ พร้อมก้าวเข้าสู่โหมดระบบมาตรฐานความปลอดภัยการเข้าถึงข้อมูลทางการเงินในบัตรอิเล็กทรอนิกส์ ตามที่ธปท.กำหนด วันที่ ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๕๙

นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า เพื่อพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการทางการเงินด้านอิเล็กทรอนิกส์ “ชิปการ์ด” ธนาคารออมสินจึงขอดำเนินการปิดระบบงานที่เกี่ยวข้องเป็นการชั่วคราว ในคืนวันศุกร์ที่ ๕ กุมภาพันธ์ เวลา ๕ ทุ่ม หรือ เวลา ๒๓.๐๐ น. ถึงเที่ยงวัน หรือ  ๑๒.๐๐ น. ของวันเสาร์ที่ ๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙ รวมระยะเวลา ๑๓ ชั่วโมง ซึ่งจะทำให้ลูกค้าไม่สามารถใช้บริการ    ในบางธุรกรรมของธนาคารออมสินได้ ในวันและเวลาดังกล่าว จึงต้องขออภัยลูกค้าทุกท่านในความไม่สะดวกครั้งนี้

สำหรับการปิดระบบครั้งนี้ ช่องทางและบริการทางการเงินที่จะทำให้ลูกค้าไม่สามารถใช้บริการในวันและช่วงเวลาดังกล่าวนั้น ได้แก่ เครื่อง ATM เครื่อง ADM ของธนาคารออมสิน, บัตรอิเล็กทรอนิกส์ทุกประเภทของธนาคารออมสิน, การชำระค่าสินค้าและบริการ ด้วยบัตรอิเล็กทรอนิกส์ทุกประเภทของธนาคารออมสิน ทั้งในและต่างประเทศ, การโอนเงินระหว่างธนาคาร (ORFT) ในทุกช่องทางการให้บริการ, การโอนเงินจากต่างประเทศเข้า  บัตรออมสินวีซ่า เดบิต ทุกประเภท

นายชาติชาย กล่าวเพิ่มเติมว่า การปิดระบบครั้งนี้ เป็นการปฏิบัติตามนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่จะให้สถาบันการเงินปรับเปลี่ยนระบบมาตรฐานความปลอดภัยในการเข้าถึงข้อมูลทางการเงินในบัตรอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ได้แก่ บัตรเอทีเอ็ม และบัตรเดบิต จากเดิมที่ใช้แถบแม่เหล็กมาเป็น “ชิปการ์ด” ซึ่งใช้เทคโนโลยีขั้นสูง มีความปลอดภัยสูง ป้องกันการปลอมแปลงได้เป็นอย่างดี โดย ธปท.กำหนดให้วันที่ ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๕๙  ทุกธนาคาร จะต้องออกบัตรเอทีเอ็มและบัตรเดบิตใหม่ เป็นชนิด “ชิปการ์ด” ซึ่งในส่วนของธนาคารออมสินได้จัดซื้อบัตรใหม่ชนิดชิปการ์ดแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการออกแบบบัตร ซึ่งคืบหน้าไปแล้วกว่า ๙๐%

ขณะที่เครื่องให้บริการอิเล็กทรอนิกส์  คือตู้เอทีเอ็ม และตู้รับฝากเงิน จะต้องปรับปรุงเพื่อรองรับระบบ “ชิปการ์ด” ไม่ต่ำกว่าร้อยละ ๘๖ ของเครื่อง ซึ่งปัจจุบันธนาคารออมสินมีตู้เอทีเอ็มที่ติดตั้งแล้ว ๖,๖๑๐ เครื่อง (ร้อยละ ๘๖ = ๕,๗๔๖ เครื่อง) ได้ดำเนินการปรับเปลี่ยนระบบเพื่อรองรับบัตรชนิดชิปการ์ดไปแล้ว ๑,๗๐๐ เครื่อง คิดเป็น ๒๖% ของจำนวนเครื่องทั้งหมด ส่วนที่เหลือต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๙

ทั้งนี้ ในส่วนของธนาคารออมสิน ได้เตรียมการเข้าสู่ระบบนี้ ตั้งแต่ต้นปี ๒๕๕๗ แบ่งการเตรียมการออกเป็น ๓ ส่วน คือ ๑.แผนงานปรับเปลี่ยนตู้เอทีเอ็มเดิมให้รองรับบัตรชิปการ์ดนอกเหนือจากการรับบัตรชนิดแถบแม่เหล็กที่มีอยู่เดิม ๒.แผนงานปรับเปลี่ยนบัตรเดบิตและบัตรเอทีเอ็มชนิดแถบแม่เหล็กให้เป็นชนิดชิปการ์ดด้วยมาตรฐานของ VISA และ ๓.แผนงานปรับปรุงระบบ Host ให้รองรับการใช้บัตรเดบิตและเอทีเอ็มชนิดชิปการ์ด ซึ่งมีความคืบหน้าไปตามแผนงานมาเป็นลำดับ และได้จัดทำแผนงานรายงานความคืบหน้าเป็นรายไตรมาสต่อ ธปท. อย่างต่อเนื่อง

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดตามได้ตามสื่อประชาสัมพันธ์ของธนาคารออมสินทุกช่องทาง ได้แก่ Website : www.gsb.or.th, Facebook : GSB Society, Official Line : GSB ธนาคารออมสิน หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมจากเจ้าหน้าที่ธนาคารออมสินทุกสาขาทั่วประเทศ หรือ ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ธนาคารออมสิน    Call Center โทร.๑๑๑๕ หรือ MyMo Call Center ๑๑๔๓


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 01 ก.พ. 2559 เวลา : 16:08:10
24-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 24, 2024, 7:59 am