"เอสซี แอสเสท" มั่นใจตลาดไฮเอนด์ ประกาศปีนี้ลุยเปิด 10 โครงการ มูลค่า 24,000 ล้านบาท ปลายเดือนนี้ชิมลาง เปิดคอนโดหรู "BEATNIQ" ริมสุขุมวิท 32 เคาะราคาเริ่มต้น ตรม.ละ 2.5 แสนบาท

นายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทมีแผนที่จะเปิดตัวโครงการใหม่ 10 โครงการ มูลค่ารวม 24,000 ล้านบาท โดยยังเป็นที่อยู่อาศัยระดับไฮเอ็นด์ คือ บ้านเดี่ยว 8 โครงการ มูลค่า 13,000 ล้านบาท เป็นบ้านราคา 15 ล้านบาทขึ้นไป 6 โครงการ บ้านราคา 3-5 ล้านบาท 2 โครงการ และคอนโดมิเนียม 2 โครงการ มูลค่า 11,000 ล้านบาท โดยไตรมาสแรกนี้จะเปิด 3 โครงการ 10,000 ล้านบาท

ในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้ จะเปิดตัว 1.โครงการ BEATNIQ สุขุมวิท 32 เป็นคอนโดมิเนียม สูง 34 ชั้น ติดถนนสุขุมวิท ซอย 32 และอยู่ใกล้รถไฟฟ้า BTS สถานีทองหล่อเพียง 250 เมตร  พื้นที่ 1  ไร่เศษ  จำนวน 197 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 12 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 4,000 ล้านบาท  โครงการมีจุดเด่นตรงที่มีดีไซน์เอกลักษณ์และสถาปัตยกรรมที่ได้รับแรงบันดาลใจสไตล์โมเดิร์นช่วงกลางศตวรรษที่ 20 ในยุค Mid-Century Modern (MCM)  

2.โครงการแกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด ราชพฤกษ์-จรัญฯ เป็นบ้านเดี่ยว จำนวน 92 หลัง ราคาเริ่มต้น 30 ล้านบาท พื้นที่กว่า 61 ไร่ มูลค่า 3,200 ล้านบาท ตั้งอยู่ติดถนนตัดใหม่ พรานนก-พุทธมณฑลสาย 4 เป็นทำเลที่มีศักยภาพสูง  ด้วยถนนใหญ่ขนาด 8 เลน ใกล้ รพ.ศิริราช เพียง 15 นาที

3. โครงการแกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด สุขุมวิท เป็นบ้านเดี่ยว จำนวน 65 หลัง ราคาเริ่มต้น 35 ล้านบาท พื้นที่ 47 ไร่เศษ มูลค่า 2,800 ล้านบาท ตั้งอยู่ต้นถนนบางนา-ตราด ใกล้รถไฟฟ้าสถานีแบริ่งและไบเทคบางนา ใกล้โรงเรียนนานาชาติบางกอกพัฒนา

“ปีที่ผ่านมา บ้านเดึ่ยวราคา 15 ล้านบาท ขายดีมากที่สุด รองลงมาคือ ราคา 5-15 ล้านบาท และ ราคา 3-5 ล้านบาท โดยลูกค้า 35% ซื้อเงินสด  หรือ 1 ใน 3 ของลูกค้าทั้งหมด สะท้อนว่า เป็นตลาดที่แข็งแรงมาก และมียอดถูกสถาบันการเงินปฏิเสธสินเชื่อเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 7% เป็น 8% โดยเฉพาะบ้านราคา 3-5 ล้านบาท เพราะปัญหาหนี้ครัวเรือนที่สูง”นายณัฐพงศ์กล่าว

นายณัฐพงศ์กล่าวว่า บริษัทฯยังได้เตรียมงบลงทุนไว้ 12,000 ล้านบาท แบ่งเป็นงบซื้อที่ดิน 5,000 ล้านบาท ค่าก่อสร้าง 7,000 ล้านบาท และปัจจุบันมีสินค้าพร้อมขาย 33 โครงการ รวมมูลค่า 10,000 ล้านบาท มั่นใจว่าปีนี้จะมียอดขาย 15,000 ล้านบาท มีรายได้ 15,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% และปี 2562 จะมียอดขายตามเป้าที่ตั้งไว้ 20,000 ล้านบาท ตามแผนยุทธศาสตร์ 5 ปี จากปี 2558 ที่ผ่านมา มียอดขายรวม12,516 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 47%

นายณัฐพงศ์กล่าวว่า ในปี 2559 เศรษฐกิจประเทศไทยน่าจะยังเติบโตได้ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ด้วย 3 เครื่องยนต์สำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจปีนี้คือ G + I + T  (การลงทุนภาครัฐ + การลงทุนภาคเอกชน + การท่องเที่ยว) ซึ่งมีสัดส่วนถึงเกือบ 40% ของ GDP ประเทศ ซึ่งจะมีส่วนสำคัญในการกระตุ้นเครื่องยนต์ตัวอื่นๆ โดยปัจจัยบวกเพิ่มเติมของธุรกิจอสังหาฯ คือ ต้นทุน ที่ยังไม่เพิ่มขึ้น 3 อย่าง คือ น้ำมัน ค่าก่อสร้าง และดอกเบี้ย ในขณะที่ข้อน่ากังวลสำหรับปีนี้คือ สัดส่วนของหนี้ครัวเรือนต่อ GDP ที่ยังสูงอยู่ ถึงแม้ว่าการเติบโตของหนี้จะชะลอตัวอย่างชัดเจน และสัดส่วนของหนี้ NPL ที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งคาดการณ์ว่า สถานการณ์ของหนี้จะเริ่มดีขึ้นอย่างชัดเจนตั้งแต่ 2560 เป็นต้นไป