สหกรณ์อิสลาม อิบนูอัฟฟาน จำกัด (สหกรณ์อิบนูอัฟฟาน) ลงนามการเป็นสมาชิกบริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (เครดิตบูโร) สืบเนื่องจากคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลเครดิตได้ออกประกาศให้สหกรณ์และชุมนุมสหกรณ์สามารถสมัครเป็นสมาชิกเครดิตบูโรได้ เครดิตบูโรได้ตอบรับแนวทางดังกล่าว จึงได้ทำหนังสือเรียนไปยังกลุ่มสหกรณ์ออมทรัพย์ ที่มีขีดความสามารถสูงกว่า 150 ราย ที่มีจำนวนสมาชิกตั้งแต่ 5,000 รายขึ้นไป เพื่อเรียนเชิญเป็นสมาชิกเครดิตบูโร ซึ่งมีสหกรณ์สอบถามยังเครดิตบูโรกว่า 130 ราย และยื่นใบสมัครเป็นสมาชิกเครดิตบูโรจำนวน 6 ราย

โดยสหกรณ์อิบนูอัฟฟานถือว่าเป็นสหกรณ์ออมทรัพย์อิสลามรายแรกที่ลงนามเป็นสมาชิกเครดิตบูโร ซึ่งผ่านขั้นตอนในการเตรียมความพร้อมด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและด้านการปฏิบัติงานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ผู้บริหารของทั้ง 2 หน่วยงาน ได้แก่ ผศ.ดร.วรวิทย์ บารู ประธานกรรมการ สหกรณ์อิบนูอัฟฟาน และนายสุรพล โอภาสเสถียร ผู้จัดการใหญ่ เครดิตบูโร ร่วมลงนามในสัญญาให้บริการสหกรณ์ออมทรัพย์ โดยมีนางสุรีรัตน์ ลัคนานิตย์ ผู้อำนวยการอาวุโส และนายสัญญา จันทวดี ผู้อำนวยการ ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคใต้ เป็นสักขีพยาน

ผศ.ดร.วรวิทย์ บารู ประธานกรรมการ สหกรณ์อิบนูอัฟฟาน กล่าวถึงความลงนามในครั้งนี้ว่า “สหกรณ์เล็งเห็นความสำคัญและความจำเป็นในการเข้าเป็นสมาชิกเครดิตบูโร และสหกรณ์มีความภูมิใจที่เป็นสหกรณ์อิสลามแห่งแรกที่เข้าเป็นสมาชิก ทำให้สังคมได้รู้และเข้าใจ ระบบสถาบันการเงินในอิสลาม ในปัจจุบัน สหกรณ์มีสมาชิกทั้งหมด 83,000 กว่าราย และมีลูกหนี้ในระบบ ทั้งหมด 20,000 กว่าสัญญา การเข้าเป็นสมาชิกเครดิตบูโรครั้งนี้จะเป็นประโยชน์อย่างมากในการกรองข้อมูลด้านเครดิตของสมาชิก

อีกทั้งสหกรณ์สามารถช่วยกำหนดแผนการชำระหนี้ของสมาชิกเพื่อให้สมดุลกับรายได้ที่มีทำให้ลดความเสี่ยงจากการเป็นหนี้เสียได้ และยังเปิดโอกาสให้สมาชิกที่ไม่เคยมีประวัติมาก่อนได้รับการอนุมัติสินเชื่อง่ายขึ้น ที่สำคัญสหกรณ์ยังได้รับความน่าเชื่อถือในเรื่องของข้อมูลด้านเครดิตอีกด้วย”

นายสุรพล โอภาสเสถียร ผู้จัดการใหญ่ เครดิตบูโร เปิดเผยว่า “ขอบพระคุณสหกรณ์อิบนูอัฟฟานที่เป็นต้นแบบของสหกรณ์อิสลามเข้าเป็นสมาชิกเครดิตบูโรให้แก่สหกรณ์ออมทรัพย์ตามนโยบายของภาครัฐ การเข้าเป็นสมาชิกเครดิตบูโรในครั้งนี้จะเป็นการจุดประกายของการยกระดับการบริหารความเสี่ยงของสหกรณ์ออมทรัพย์ให้มีความเข้มแข็ง มีความมั่นคงและเป็นมาตรฐานเทียบได้กับสถาบันการเงินชั้นในระบบการเงินไทย ตลอดจนจะเป็นการส่งสัญญาณของการปฏิรูปสหกรณ์บนพื้นฐานของความสมัครใจเป็นสำคัญ