แบงก์-นอนแบงก์
"วิชิต" ประกาศ ดัน "ซัมมิท แคปปิตอล ลีสซิ่ง" ขึ้นเป็น "ผู้นำตลาดสินเชื่อรายย่อย" ในส่วนนอนแบงก์


“วิชิต พยุหนาวีชัย” ซีอีโอ“ซัมมิท แคปปิตอล ลีสซิ่ง” ประกาศกลางฮับในภาคใต้ เดินหน้าสู่เป้าหมายใหญ่ “ผู้นำตลาดสินเชื่อรายย่อย” ในส่วนนอนแบงก์  แย้มอีก  1-2 เดือน เตรียมแถลงข่าวใหญ่ เปิดตัวผลิตภัณฑ์อื่นช็อกวงการ ลั่น“ไม่หยุดแค่สินเชื่อจักรยานยนต์แน่” พร้อมขยายธุรกิจไปสินเชื่อประเภทอื่น ทั้งรถยนต์-บัตรเครดิต หวังตอบโจทย์และโกยมาร์เก็ตแชร์กลุ่มรากหญ้า
 

 

นายวิชิต พยุหนาวีชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซัมมิท แคปปิตอล ลีสซิ่ง จำกัด เปิดเผยถึงแผนธุรกิจในระยะข้างหน้าของ ซัมมิท แคปปิตอล ว่า นอกจากเป้าหมายที่จะขึ้นแท่นเป็นที่หนึ่งของธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ของประเทศไทยภายในปี 2562 ด้วยการเดินหน้าขยายพันธมิตรและศูนย์บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ให้ครอบคลุมพื้นที่ 65 จังหวัดทั่วประเทศภายในปีนี้แล้ว (ตามข่าวที่นำเสนอไปเมื่อ 11 มีนาคม 2559) ซัมมิท แคปปิตอล ยังมีแผนระยะต่อไปที่จะขึ้นเป็น “ผู้นำตลาดสินเชื่อรายย่อย” ในส่วนของภาคธุรกิจที่ไม่ใช่ธนาคารพาณิชย์ (นอนแบงก์) ซึ่งแผนยุทธศาสตร์ต่อจากนี้ในอีก 1-2 เดือนข้างหน้า ซัมมิท แคปปิตอล จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์การเงินประเภทอื่นๆ อีก ซึ่งเป็นที่ต้องการและตอบโจทย์ของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายรากหญ้าที่มีรายได้ขั้นต่ำ 8,000 บาทขึ้นไป

“เราจะไม่หยุดแค่สินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์เท่านั้น แต่เราจะขยายธุรกิจไปในส่วนสินเชื่อประเภทอื่นด้วย ทั้งสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ และบัตรเครดิต เป็นต้น เพื่อให้สอดรับกับเป้าหมายใหญ่ของเราที่ต้องการขึ้นเป็นผู้นำตลาดสินเชื่อรายย่อยในส่วนของนอนแบงก์ เพราะมองว่า ประชากรกว่า 20 ล้านคน มีรายได้แค่ 8,000 บาทต่อเดือน และไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ได้ จึงเป็นช่องทางและโอกาสที่ซัมมิท แคปปิตอลจะรุกตลาดในส่วนรากหญ้านี้”ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ซัมมิท แคปปิตอล ลีสซิ่ง กล่าว

 

 

นายวิชิตกล่าวต่อไปว่า สำหรับเป้าหมายที่บริษัทฯมั่นใจว่าจะสามารถขึ้นเป็นผู้นำตลาดสินเชื่อรายย่อยในส่วนของนอนแบงก์ได้ เนื่องจากความแข็งแกร่งในเรื่องแบรนด์ของบริษัทฯ โดยซัมมิท แคปปิตอล ลีสซิ่ง เป็นบริษัทในเครือของ “ซูมิโตโม คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น“ ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทชั้นนำของญี่ปุ่นและของโลกที่ได้ก่อตั้งขึ้นมานานกว่า 400 ปีแล้ว โดยเข้ามาจัดตั้งบริษัท ซัมมิท แคปปิตอล ลีสซิ่ง จำกัด ในประเทศไทยเมื่อ 2 พฤษภาคม 2537 ด้วยทุนจดทะเบียน 150 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีความแข็งแกร่งทางด้านเครือข่ายสาขาที่ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ พร้อมกับต่อไปจะมีผลิตภัณฑ์การเงินที่หลากหลาย ตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายรากหญ้าได้อย่างตรงจุด

 

สำหรับเป้าหมายระยะแรกที่ต้องการขึ้นเป็นผู้นำสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ จากปัจจุบันมีส่วนแบ่งทางการตลาด (มาร์เก็ตแชร์) อยู่อันดับ 3 จะดำเนินกลยุทธ์ผ่าน 3 ยุทธศาสตร์หลัก 1.ขยายเครือข่ายสาขา ให้ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ ใน 65 จังหวัดภายในกลางปี 2560  เพื่อรองรับและให้บริการลูกค้าได้ครอบคลุมและทั่วถึงมากยิ่งขึ้น จากปัจจุบันมีสาขาใน 41 จังหวัด

จากสถิติที่ผ่านมา การเปิดสาขาของซัมมิท แคปปิตอล ลีสซิ่ง จะเห็นพัฒนาการเติบโตมาเป็นระยะ จากปี 2557 มีสาขาเพียง 29 จังหวัด ขยับขึ้นเป็น 41 จังหวัดในปี 2558 และปี 2559 ตั้งเป้าเพิ่มเป็น 65 จังหวัด ส่วนปี 2560-2561 จะครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ

ทั้งนี้ ปัจจุบันมีผู้ใช้รถจักรยานยนต์ทั่วประเทศ จำนวนกว่า 1.68 แสนคัน (ณ สิ้นปี 2558) ซึ่งยอดตกลงจากเดิมที่มียอดผู้ใข้รถจักรยานยนต์กว่า 2 ล้านคัน ซึ่งคาดว่าตัวเลขการใช้รถจักรยานยนต์คงไม่มากไปกว่านี้แล้ว แต่ Direction หรือทิศทางของรถจักรยานยนต์จะพัฒนาไปสู่รถจักรยานยนต์ที่เป็นรูปแบบสปอร์ตตี้มากขึ้น หรือเปลี่ยนโมเดลต่างๆ  ซึ่งจะทำให้ราคาต่อรุ่นแพงขึ้น

“จะสังเกตเห็นได้ แม้ยอดขายรถจักรยานยนต์จะตกไป 2% แต่ยอดสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์กลับเติบโตขึ้น ซึ่ง ณ ปัจจุบัน เมื่อสิ้นปี 2558 ซัมมิท แคบปิตอล มีอัตราการเติบโตยอดสินเชื่อคงค้างอยู่ที่ 26% หรือคิดเป็นเม็ดเงิน 4,500 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากปี 2557 ที่โต 9%  ซึ่งปี 2559 ตั้งเป้าไว้เติบโต 22%”นายวิชิตกล่าว

 

 

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ซัมมิท แคปปิตอล ลีสซิ่ง กล่าวต่อว่า ยุทธศาสตร์ที่ 2 จะต้องทำธุรกิจกับดีลเลอร์มากขึ้น  จากปัจจุบันมีดีลเลอร์ซึ่งเป็นพันธมิตรทางธุรกิจอยู่จำนวน 500 พันธมิตร หรือเติบโต 43% เพิ่มขึ้นจากปี 2557 ที่โต 40% โดยเป้าหมายปี 2559 ตั้งเป้าอัตราการเติบโตของดีลเลอร์ที่ 26%

ยุทธศาสตร์ที่ 3 เพิ่มจำนวนพนักงานให้รองรับกับจำนวนสาขาที่จะเปิดเพิ่ม โดยจะใช้พนักงานในท้องถิ่นที่มีความคุ้นเคยกับประชาชนในพื้นที่ เพื่อให้สะดวกต่อการติดตามหนี้ และการวิเคราะห์สินเชื่อที่แม่นยำมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งจะช่วยลดการเกิดหนี้เสีย

สำหรับพื้นที่ที่บริษัทจะรุกเข้าไปเปิดสาขาเพิ่มเติมในปีนี้ คือ ภาคใต้ ซึ่งมองไว้หลายจังหวัดที่มีศักยภาพ อาทิ ภูเก็ต ระนอง กระบี่ ชุมพร เพราะหลังจากที่ไปเปิดสาขาและตั้งเป็น “ฮับ”(ศูนย์กลางของภาคใต้) ที่นครศรีธรรมราช และสุราษฎร์ธานี เมื่อเดือนมิถุนายน 2558 ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากร้านค้าพันธมิตรในพื้นที่กว่า 30%  มียอดปล่อยสินเชื่อกว่า 350 คันต่อเดือน คิดเป็นมูลค่า 110 ล้านบาท โดยเฉพาะที่นครศรีธรรมราช สามารถปล่อยได้ 200 คันต่อเดือน

 

“ปีที่แล้วให้ความสำคัญกับการขยายเครือข่ายในภาคอีสานไปแล้ว หลังจากที่พบว่า ภาพรวมยอดจดทะเบียนรถจักรยานยนต์ทั่วประเทศ ภาคอีสาน มียอดจดทะเบียนสูงสุด เติบโต 26%  ขณะที่ ภาคกลาง โต 24% ภาคใต้ ภาคเหนือ ภาคตะวันออก เติบโตภาคละ 15% และภาคตะวันตก โต 8% แต่สำหรับปีนี้เลือกที่จะรุกภาคใต้ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการทดลองทำตลาดใน  4 จังหวัด ได้แก่ ภูเก็ต กระบี่ พังงา ระนอง ซึ่งพื้นที่ที่เลือกไปปักหมุดเปิดสาขา จะดูจากยอดขายรถจักรยานยนต์จังหวัดไหนเยอะ โดยจากสถิติยอดจดทะเบียนรถจักรยานยนต์ในภาคใต้เมื่อปี 2558  จังหวัดที่มียอดขายมากสุด คือ สงขลา เติบโต  15% รองลงมา นครศรีธรรมราช 13% สุราษฎร์ธานี 13% ตรัง 10% ภูเก็ต 8% พัทลุง ปัตตานี ยะลา นราธิวาส จังหวัดละ 6% กระบี่ ชุมพร จังหวัดละ 5% สตูล 3% ระนอง และพังงา จังหวัดละ 2% แต่ที่ยังไม่ไปเปิดสาขาและตั้งเป็นฮับที่สงขลา เพราะมองว่าไกลจากส่วนกลางมาก จึงเลือกนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นพื้นที่อยู่ระหว่างกลางให้เป็นฮับของภาคใต้”นายวิชิตกล่าว

 

 

นายวิชิตกล่าวต่อไปว่า สำหรับภาวะการแข่งขันของธุรกิจเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ในภาคใต้ ยังคงเป็นภาพเดิมๆอยู่ ที่บุคคลในพื้นที่ ที่มีเงินหนา จะเปิดธุรกิจขายรถจักรยานยนต์พร้อมจัดสินเชื่อเอง โดยมีบริษัทไฟแนนซ์เพียง 3-4  บริษัทจากส่วนกลางที่เข้ามาเป็นคู่แข่งขันด้วย และหนึ่งในนั้น คือ ซัมมิท แคปปิตอล ลีสซิ่ง

“ยอมรับว่าการทำธุรกิจเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ เราจะไม่ได้ตลาดที่ในพื้นที่ ที่อาเฮียอาซ้อ ซึ่งเปิดขายรถจักรยานยนต์และจัดสินเชื่อเอง แข็งแกร่งมากในเรื่องเงินทุน และสนิทสนมคุ้นเคยกับลูกค้าในพื้นที่ เพราะเขาจะไม่ปล่อยลูกค้าให้เรา เขาก็จะเก็บไว้ปล่อยเอง ซึ่งจากปีที่ผ่านมายอดขายรถจักรยานยนต์ทั่วประเทศ 1.68 แสนคัน มีการขายผ่านบริษัทไฟแนนซ์ 30% โดย 10% เป็นของซัมมิท แคปปิตอล ส่วนอีก 70% เป็นการขายผ่านอาเฮียอาซ้อ มีเพียงเล็กน้อยที่ซื้อด้วยเงินสดและรูดผ่านบัตรเครดิต”ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซัมมิท แคปปิตอล ลีสซิ่ง ระบุ


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 13 มี.ค. 2559 เวลา : 20:15:14
19-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 19, 2024, 9:54 am