การค้า-อุตสาหกรรม
TKS เผยร่วมทุนพันธมิตร ญี่ปุ่น เริ่มโกยรายได้ไตรมาส 2/59


 


 TKS ลุ้นงานร่างรัฐธรรมนูญออกกระตุ้นตลาดหนุนรายได้โต คาดผลงานไตรมาสแรกปีนี้ใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากสถานการณ์ทางการเมืองและเศรษฐกิจในประเทศมีความชัดเจนในทางที่ดีขึ้น ขณะที่แผนร่วมทุนกับพันธมิตรจากประเทศญี่ปุ่นจะเริ่มมีรายได้เข้ามาในช่วง ไตรมาส 2 ของปีนี้ "ศิริวรรณ สุกัญจนศิริ" บอสใหญ่ เชื่อเป็นปัจจัยหนุนภาพรวมธุรกิจให้เติบโตแข็งแกร่งขึ้น ในอนาคต เผยปีนี้เข้าไปรับงาน สปป.ลาว มูลค่าราว 100 ล้านบาท และอยู่ระหว่างการเจรจารับงานจากกัมพูชา พร้อมตอกย้ำการเป็นหุ้นปันผลดีอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดตุน Backlog แล้วที่ 1,200 ลบ.รับรู้รายได้ทั้งหมดในปีนี้
 
 
 
 
          
นางสาวศิริวรรณ สุกัญจนศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ที.เค.เอส.เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ TKS ผู้ประกอบการธุรกิจงานพิมพ์ครบวงจรรายใหญ่ในประเทศ เปิดเผยถึงแนวโน้มผลประกอบการในไตรมาสแรกของปี 2559 ว่ามีแนวโน้มใกล้เคียงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากสถานการณ์ทางการเมืองและเศรษฐกิจในประเทศมีความ ชัดเจนในทางที่ดี ขึ้น และในปี 2559 คาดว่าจะมีงานร่างรัฐธรรมนูญออกมาหลังจากมีการเลื่อนออกมาจากปีก่อน กับงานไปรษณียบัตรบอลยูโรเข้ามาหนุนการเติบโตของบริษัทและ อุตสาหกรรมสิ่งพิมพ์ 
          
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ในปี 2559 นี้ TKS ได้มองหาโอกาสจากการลงทุนอื่นๆ เพื่อสนับสนุนให้ผลประกอบการของบริษัทฯ เติบโตยิ่งขึ้น โดยในช่วงปลายปีที่ผ่านมา บริษัทฯได้ข้อสรุปในการร่วมทุนกับพันธมิตรจากประเทศญี่ปุ่นแล้ว โดย TKS ได้ให้บริษัทลูก คือ บริษัท เทคโน พริ้นท์ แอนด์ เพ็ค จำกัด ที่บริษัทฯถือหุ้นอยู่ 100% เข้าไปถือหุ้นร่วมกับญี่ปุ่น โดยบริษัทฯ ถือหุ้น 51% ซึ่งจะเริ่มดำเนินการติดตั้งตัวเครื่องจักรในไตรมาส 2/2559 และจะเริ่มมีรายได้เข้ามาในช่วงไตรมาส 2/2559 บริษัทฯ คาดว่า 3 ปีจะถึงจุดคุ้มทุนสำหรับธุรกิจดังกล่าวนี้ โดยจะร่วมมือกันเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสิ่งพิมพ์บรรจุภัณฑ์เดิมของ บริษัทฯ ให้สามารถขยายตลาดด้านสิ่งพิมพ์บรรจุภัณฑ์ไปยังลูกค้ารายใหม่ๆ หลีกเลี่ยงการแข่งขันในตลาดสิ่งพิมพ์บรรจุภัณฑ์ในประเทศแบบ เดิม 
          
นอกจากนี้ในปี 2559 บริษัทฯ จะมีรายได้จากต่างประเทศเข้ามาและมีการร่วมมือกับพันธมิตรท้องถิ่น สปป.ลาว โดยเป็นการเข้าไปรับงานสิ่งพิมพ์ปลอดการทำเทียม (แบบพิมพ์ซีเคียวริตี้) แบบ Turn Key ของภาครัฐ มูลค่าประมาณ 100 ล้านบาท และล่าสุดอยู่ระหว่างการเจรจารับงานจากกัมพูชา ขณะที่เมียนมาร์ ต้องเลื่อนออกไปก่อน เพราะรอความชัดเจนในเรื่องกฎหมายและกฎระเบียบต่าง ๆ
         
 ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทฯ มีรายได้จากงานเอกชนอยู่ที่ 70% งานภาครัฐอยู่ที่ 30% ซึ่งการที่ภาครัฐมีการเปลี่ยนแปลงระบบจัดซื้อจัดจ้างและทุกงานโครงการต้อง เข้าประมูลในส่วนกลาง ทำให้เบื้องต้นมีการแข่งขันกันสูง เพราะจะมีการเข้ามาของผู้ประกอบการในธุรกิจที่ไม่เกี่ยวข้องเข้ามาด้วย
         
 บริษัทฯ ตั้งเป้าผลงานปี 2559 รายได้เติบโตแตะ 1,650 ล้านบาท หรือเติบโต 20% จากปี 2558 อยู่ที่ 1,368.09 ล้านบาท โดยปัจจุบันมีงานในมือที่รอรับรู้เป็นรายได้อยู่แล้วทั้งสิ้น (Backlog) 1,200 ล้านบาท จะทยอยรับรู้รายได้ทั้งหมดในปีนี้ พร้อมเดินหน้าประมูลงานใหม่อย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับการรักษาอัตรากำไรสุทธิที่ดี ควบคุมต้นทุนค่าใช้จ่ายให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม และได้วางงบลงทุนในปีนี้ที่ 100 ล้านบาท เพื่อใช้ปรับปรุงเครื่องจักรให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และใช้สำหรับการลงทุนอื่นๆ
 





 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 21 มี.ค. 2559 เวลา : 15:03:17
10-05-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ May 10, 2024, 3:49 am