ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) จัดงาน 'พลิกวิถีธุรกิจก่อสร้าง SME ไทยรับครึ่งปีหลัง'เผยธุรกิจวัสดุก่อสร้างปี 2559 ทยอยปรับตัวดีขึ้นในกลุ่มวัสดุที่เกี่ยวเนื่องกับงานก่อสร้างภาครัฐ
นายพัชร สมะลาภา รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ธุรกิจก่อสร้างยังมีแนวโน้มเติบโตดีในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งมูลค่ารอโครงการดำเนินการน่าจะไม่ต่ำกว่า 8 หมื่นล้านบาท และมองว่าธุรกิจกลุ่มก่อสร้าง โรงแรมยังคงเติบโตได้ดี แต่กลุ่มที่ต้องระวังคือ กลุ่มธุรกิจโรงสี เกษตร ส่งออก เหล็ก เครื่องประดับ(จิวเวอร์รี่) อย่างไรก็ตาม ปีนี้สินเชื่อกลุ่มก่อสร้างของธนาคารคาดว่าจะเติบโต 5-6% และมีสัดส่วนสินเชื่อคิดเป็น 12% ของสินเชื่อรวม
"ธุรกิจก่อสร้างและโรงแรมยังมีแนวโน้มเติบโตดีในครึ่งปีหลัง เพียงแต่ขอให้รัฐบาลเร่งเบิกจ่ายงบประมาณโครงการต่างๆ ที่ยังไม่เริ่มดำเนินการ และภาคเอกชนรออยู่ ซึ่งตรงนี้จะมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 8 หมื่นล้านบาท" นายพัชรกล่าว
.jpg)
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่าการลงทุนในการก่อสร้างของภาครัฐในปี 2559 น่าจะมีมูลค่า 692,600 ถึง 708,500 ล้านบาทซึ่งแม้จะขยายตัวในอัตราชะลอลงที่ร้อยละ 10.0 - 12.5 จากฐานเดิมในปี 2558 ขยายตัวสูงถึงร้อยละ 27.3 โตเป็นมูลค่าการก่อสร้างที่สูงในรอบหลายปีที่ผ่านมา กลุ่มวัสดุก่อสร้างในปี 2559 มีแนวโน้มเติบโตจะเป็นกลุ่มสินค้าวัสดุก่อสร้างขั้นพื้นฐาน เช่น ปูนซีเมนต์ เหล็กเส้น และโครงสร้างเหล็ก หน้าจะมีความต้องการอย่างมาก ในส่วนของศูนย์วิจัยฯมองว่าความต้องการใช้ปูนซีเมนต์ภายในประเทศปี 2559 น่าจะมีระดับประมาณ 35.2 - 35.9 ล้านตัน ขยายตัวประมาณร้อยละ 2.0 - 4.0 จากที่หดตัวร้อยละ 0.8 ในปีที่ผ่านมา ขณะที่ความต้องการใช้เหล็กก่อสร้างในปี2559 น่าจะมีปริมาณ 8.42 - 8.60 ล้านตัน ขยายตัวร้อยละ2.3 - 4.5 จากที่เติบโตร้อยละ 2.0 ในปีที่ผ่านมา และมองว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2559 มีแนวโน้มการขยายตัวในอัตราที่สูงกว่าการขยายตัวใน 2 ปีที่ผ่านมา แม้จะอยู่ภายใต้ภาวะการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก
นายพัชร กล่าวเพิ่มเติมว่า สินเชื่อกลุ่ม SMEs ปีนี้เติบโตไม่ถึง 6% เพราะครึ่งปีแรกเติบโตเพียง 1.6% ต่ำกว่าเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้ 0.5% โดยทางธนาคารมีสินเชื่อใหม่ 3.6 - 4 หมื่นล้านบาท สินเชื่อ SMEs คงค้างอยู่ที่ 6 แสนล้านบาท หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) ของกลุ่มสินเชื่อนี้ยังสูงเกิน 3.2% แต่มองว่าเป็นไปตามภาวะปกติ เพราะยังมีหนี้เสียรายเดิมที่ต่อเนื่องจากในอดีต ส่วนหนี้เสียเข้าใหม่ยังลดลง เช่นเดียวกับลูกค้าที่เข้ามาปรับโครงสร้างหนี้ ยังลดลงอย่างมีนัยยะเช่นกัน ซึ่งธนาคารจะต้องดูแลต่อเนื่อง
ในส่วนสินเชื่อรายใหญ่ช่วงครึ่งปีแรกอยู่ที่ 2.5% ทำให้ทั้งปีคาดว่าจะสูงเกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ 4% % เนื่องจากยังมีดีลกับลูกค้ารายใหญ่เข้ามาต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีหลัง หลังจากช่วงครึ่งปีแรกมีลูกค้าการประมูล 4จี เพราะเห็นว่าเศรษฐกิจช่วงครึ่งปีหลังน่าจะเริ่มดีขึ้น และธนาคารจะพยายามทำให้เป็นไปตามเป้าหมาย ทั้งนี้ สินเชื่อคงค้างสำหรับลูกค้ารายใหญ่อยู่ที่ 4.5 แสนล้านบาท มีหนี้เสีย(NPLs)ไม่เกิน 1%และทั้งปีธนาคารจะควบคุมไม่ให้เกิน 1%
ภายในงานมีปาฐกถาพิเศษ"ยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย" เสวนาหัวข้อ"เจาะลึกทิศทางอุตสาหกรรมก่อสร้าง" และเสวนาหัวข้อ"ปรับกลยุทธ์ให้ทัน ทำธุรกิจก่อสร้างให้รุ่ง" จากผู้เชี่ยวชาญในแต่ละด้าน มามอบความรู้ พร้อมมาแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับผู้ประกอบการที่เข้าร่วมในงานด้วย
ข่าวเด่น