อสังหาริมทรัพย์
Kผนึกกำลัง 'Kingsmen Creatives'วางเป้า JV ขยายรับงาน เพิ่มฐานรายได้


 



นายชยวัฒน์ พิเศษสิทธิ์ ประธานกรรมการ บริษัท คิงส์เมน ซี.เอ็ม.ที.ไอ. จำกัด (มหาชน) หรือ K ผู้นำธุรกิจออกแบบ และตกแต่งอย่างครบวงจร (One-Stop-Shop Solution)เปิดเผยว่าบริษัทฯได้ดำเนินการประสานความร่วมมือทางธุรกิจระหว่างคิงส์เมน ซี.เอ็ม.ที.ไอ. และ “Kingsmen Creative”โดยความร่วมมือดังกล่าวจะประกอบไปด้วยการประชุมร่วม และจัดสัมมนาเพื่อแลกเปลี่ยน และพัฒนาศักยภาพทางธุรกิจของทั้ง 2 องค์กร ไม่ว่าจะเป็นการแลกเปลี่ยน Technical Know How การพัฒนาการบริหารจัดการโครงการ หรือพัฒนาประสิทธิภาพในการเข้ารับงาน
 
 
รวมถึงการแลกเปลี่ยนแนวคิดด้านการออกแบบร่วมกัน และที่สำคัญที่สุดจะมีการส่งต่อ หรือรับงานร่วมกันในลักษณะของกิจการร่วมค้า หรือJoint Venture ทั้งใน และต่างประเทศ รวมถึงความร่วมมือในการขยายธุรกิจร่วมกันในภูมิภาคอื่น ๆ ต่อไปในอนาคตซึ่งในปัจจุบันKingsmen มีสำนักงานทั้งหมด 19 แห่งใน 13 ประเทศ โดยมีสิงคโปร์เป็นสำนักงานใหญ่ มีเฉพาะ Kingsmen Myanmar ที่คิงส์เมน ซี.เอ็ม.ที.ไอ.ถือหุ้นและบริหารจัดการ ทั้งหมด 100%
 
 

ในขณะเดียวกันคิงส์เมน ซี.เอ็ม.ที.ไอ. อยู่ในระหว่างดำเนินการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องโดยมีแผนที่จะเพิ่ม Business Unit เป็น 4 Unit จากเดิมที่มีอยู่ 3 Unit เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และเข้ารับงานโดยเฉพาะการรับงานตกแต่ง และออกแบบภายใน หรือ Interior ให้กับ End User เช่นโครงการออกแบบ ตกแต่งห้องพัก Hi-end condominium ให้กับชาวต่างขาติโดยคาดว่าในอนาคตจะมีงานลักษณะนี้เพิ่มมากขึ้น เพราะเป็นตลาดที่มีกำลังซื้อสูง ซึ่งในปัจจุบันบริษัทฯได้เริ่มเข้ารับงานดังกล่าวมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้สัดส่วนรายได้จากธุรกิจออกแบบ และตกแต่งภายในจะเพิ่มสูงขึ้นกว่าธุรกิจงานแสดงสินค้า และนิทรรศการ โดยคาดว่าภายในปีนี้บริษัทฯจะมีสัดส่วนรายได้จาก

 
ธุรกิจออกแบบ และตกแต่งภายในอยู่ที่ราว 60% และธุรกิจงานแสดงสินค้า และนิทรรศการ รวมถึงงานอื่น ๆ อยู่ที่ 40% โดยที่บริษัทฯคาดว่าสัดส่วนรายได้ในอีก 3-5 ปีของธุรกิจออกแบบ และตกแต่งภายในจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีความสามารถในการทำกำไรที่เพิ่มสูงขึ้นในทิศทางเดียวกัน
 

 
ทั้งนี้แผนการขยายตลาดในต่างประเทศบริษัทฯยังคงเน้นการขยายตลาดไปยังประเทศเมียนมาร์ ลาว และกัมพูชาเป็นหลักเนื่องจากมีพื้นที่ติดกับประเทศไทยทำให้การบริหารจัดการไม่ยุ่งยาก หรือซับซ้อนมากนัก ซึ่งต่อไปสาขาในต่างประเทศจะมีบทบาทเพิ่มมากขึ้นในการเติบโตในอนาคตโดยเฉพาะในยุค 4.0 ที่ประชาชนและผู้บริโภคสามารถเข้าถึงและรับรู้ถึงความเจริญความทันสมัยของสิ่งต่างๆ ส่งผลให้ในหลาย ๆ ประเทศมีความต้องการที่จะพัฒนาให้มีความทันสมัย ทัดเทียมกับประเทศที่เจริญแล้วเพิ่มสูงขึ้น

“ความร่วมมือกับทางสิงคโปร์ในครั้งนี้จะเน้นที่การพัฒนาธุรกิจร่วมกัน มีการรับงานร่วมกันส่งลูกค้าให้กันผ่าน technical know how ในการทำแบรนด์ช็อปแต่ละแบรนด์จัดทำสัมมนาภายในร่วมกันทั้ง19 ออฟฟิศในหัวข้อต่างๆเช่น marketing, project management และ design forum เป็นต้นส่วนภาพรวมของธุรกิจในช่วงที่ผ่านมา เราปรับกลยุทธ์ในการขยายตลาดไปยังงานออกแบบ และตกแต่งพื้นที่ส่วนกลางห้างสรรพสินค้า, โรงพยาบาล, ภัตตาคาร, Hi-end condominium, อาคารสำนักงานต่างๆ ซึ่งมูลค่าและขนาดพื้นที่ของงานจะสูงกว่าค่อนข้างมาก ความยากของงานจะน้อยกว่า อีกทางหนึ่งเรากำลังขยายทีมเพื่อรองรับการเติบโตของตลาดตกแต่งภายในที่กำลังจะขยายเยอะมากในช่วง 3-5 ปีข้างหน้า” นายชยวัฒน์กล่าว

 

 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 29 ก.ค. 2559 เวลา : 10:30:05
27-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 27, 2024, 9:45 am