ธอส.ตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อใหม่ปีหน้า 1.8 แสนล้านบาท เติบโต 6% หวังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและภาคอสังหาฯ "ฉัตรชัย"ยอมรับบอร์ดสั่งเพิ่ม จากเดิมตั้งเป้าเติบโตแค่ 3% มั่นใจอยู่ในวิสัยทำได้ พร้อมเดินหน้าเร่งลดเอ็นพีแอลปีหน้าอีก 1.2-1.3% เผยล่าสุดเปิดให้ประชาชนส่งเงินสะสมเข้ากองทุนการออมแห่งชาติ ผ่านสาขา ธอส.ได้แล้ว ขณะ"กอช." เตรียมลงทุนหุ้นปีหน้า หวังเพิ่มผลตอบแทน

นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า การปล่อยสินเชื่อใหม่ในปีหน้า คณะกรรมการธนาคารได้ตั้งเป้าการปล่อยสินเชื่อไว้ที่ 1.8 แสนล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 1 หมื่นล้านบาท เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในภาคอสังหาริมทรัพย์ โดยคิดเป็นการเติบโตที่ 6% เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ตั้งเป้าไว้เพียง 3%

“บอร์ดขอให้เพิ่มเป้าหมายปล่อยสินเชื่อเป็น 6% เนื่องจากต้องการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและภาคอสังหาริมทรัพย์ และเป็นการกำหนดสินเชื่อบนพื้นฐานเศรษฐกิจในปีหน้าที่มีการเติบโต 3-3.5% ซึ่ีงตนมองว่าอยู่ในวิสัยที่ทำได้”นายฉัตรชัยกล่าว

สำหรับการปล่อยสินเชื่อในปีนี้ ซึ่งเดือน ธ.ค.เป็นเดือนสุดท้ายของปี ธนาคารต้องเร่งปล่อยสินเชื่อให้ได้อีกประมาณ 2.4 หมื่นล้านบาท เพื่อให้ได้ตามเป้าหมายของปีนี้ที่ 1.7 แสนล้านบาท จากล่าสุดเดือนพ.ย.2559 ปล่อยได้แล้ว 1.48 แสนล้านบาท สำหรับกำไรล่าสุดอยู่ที่ 9 พันล้านบาท จากเป้าทั้งปีที่ตั้งไว้ 9.5 พันล้านบาท ส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ล่าสุดอยู่ที่ 5.34% หรือ 4.9 หมื่นล้านบาท จะพยายามลดให้เหลือ 5.25% ภายในสิ้นปีนี้ และในปีหน้าน่าจะลดลงได้อีกประมาณ 1.2-1.3% โดยเป็นการลดลงจากแผนการดำเนินงานปกติ 0.5% และลดลงจากการตัดขายเอ็นพีแอลอีก 8 พันล้านบาทในไตรมาส 3 ปี 2560 ซึ่งจะช่วยลดเอ็นพีแอลได้ประมาณ 0.8% เป็นไปตามแผนที่ธนาคารตั้งไว้ว่าภายใน 4 ปีเอ็นพีแอลจะลดลงเหลือ 4%

นายฉัตรชัย กล่าวต่อว่า ล่าสุด ธอส.ได้เปิดให้ประชาชนสามารถสมัครเป็นสมาชิกและส่งเงินสะสมให้กับกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ผ่านสาขาของธนาคารได้แล้ว ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของธนาคารที่มุ่งเน้นเสริมสร้างวินัยการออกมภาคประชาชน และส่งเสริมนโยบายภาครัฐในการเตรียมความพร้อมสู่สังคมผู้สูงอายุในอนาคต

ด้าน นายสมพร จิตเป็นธม เลขาธิการ กอช. กล่าวว่า ปัจจุบัน กอช.มีเงินกองทุนประมาณ 2.5 พันล้านบาท ปีหน้าคาดว่าอยู่ที่ 3 พันล้านบาท จากสมาชิกที่เพิ่มขึ้น และผลตอบแทนการลงทุน โดยปีหน้า กอช.มีแผนลงทุนในตลาดหุ้น เน้นบริษัทใน SET50 จากปัจจุบันกอช.ลงทุนเฉพาะในสินทรัพย์ที่มีความมั่นคง เช่นพันธบัตรรัฐบาล และหุ้นกู้เอกชน เพื่อให้ได้ผลตอบแทนประมาณ 5-7%จากปัจจุบันผลตอบแทนอยู่ที่ประมาณ 3%