เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
ไปรษณีย์ไทย ปรับยุทธศาสตร์รับThailand 4.0


การปรับตัวของรัฐวิสาหกิจในยุคThailand 4.0 นับเป็นเรื่องที่มีความสำคัญไม่น้อย  เพื่อให้องค์กรยังสามารถอยู่ได้ในโลกธุรกิจ  ซึ่งบริษัทไปรษณีย์ไทยก็เช่นกัน โดยเฉพาะในโลกยุคปัจจุบันที่เน้นการสื่อสารผ่านอินเตอร์เน็ท  ส่วนการรับส่งสินค้าก็มีการแข่งขันที่รุนแรง  หลังภาคเอกชนให้ความสนใจในธุรกิจนี้ 


ดร.พิเชฐ  ดุรงคเวโรจน์  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือดีอี  กล่าวว่า  ได้หารือร่วมกับบริษัท ไปรษณีย์ไทย (ปณท) ในการปรับปรุงแผนยุทธศาสตร์ ปณท จากเดิมที่กำหนดไว้ในปี 2560-2564  ให้เป็นแผนระยะสั้น 3 ปี คือ 2560 -2562 และ 10 ปี เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ของรัฐบาล   ซึ่งการหารือครั้งนี้ได้ให้โจทย์กับ ปณท ไปคิดเพิ่มจากแผนเดิมที่คิดไว้ด้วยคือการปรับบทบาทของปณท ให้รองรับการเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ หรือโลจิสติกส์ ฮับ ให้สอดรับกับโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ อีอีซี ด้วย
 
 

 
 
โดย ปณท เองก็มีศูนย์บริการอยู่ที่ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี  ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามโครงการดิจิตอล พาร์ค ไทยแลนด์  จึงเห็นโอกาสในการพัฒนาศักยภาพให้เป็นโลจิสติกส์ ฮับ ได้ เพื่อเป็นที่พักสินค้าก่อนส่งต่อไปยังประเทศที่สาม   ซึ่งปณท ต้องคิดว่าจะทำแผนยุทธศาสตร์ ให้เห็นภายใน ปี 2562 ได้อย่างไร  ขณะที่ดีอีเองก็จะทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการหารือกับกรมศุลกากร เพื่อปลดล็อกกฏระเบียบต่างๆ ในการทำให้พื้นที่ตรงนี้เป็นพื้นที่เขตปลอดภาษี และจะเป็นการดึงดูดให้เอกชนที่ต้องการส่งของผ่านประเทศของไทยมาใช้บริการของไปรษณีย์

พล.อ.สาธิต พิธรัตน์ ประธานกรรมการบริษัท ปณท กล่าวว่า จะนำโจทย์ของรมว.ดีอีไปคิดเพิ่ม และนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ในวันที่ 23 มิถุนายนนี้ โดยแนวทางใหม่ ระบบของ ปณท จะถูกแบ่งออกมาเป็น 4 ส่วน คือ 1.รับฝาก ที่จะรับผ่านที่ทำการไปรษณีย์ หรือช่องทางใดก็ตามเข้ามารวมกัน โดยยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง 2.คัดแยก ที่จะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปศึกษาการทำระบบคัดแยกแบบอัตโนมัติ ช่วยเพื่อประสิทธิภาพในการทำงานให้รวดเร็วขึ้น 3.ส่งต่อ จะให้ทาง บริษัมลูก บริษัท ไปรษณีย์ ดิสทริบิวชั่น จำกัด  รับผิดชอบในการนำส่งตามที่ทำการไปรษณีย์ กระจายไปสู่ระดับจังหวัด และเขตต่อไป และ 4.นำจ่าย ที่ยังจำเป็นต้องใช้พนักงานระดับปฏิบัติการ แต่ก็จะเพิ่มประสิทธิภาพด้วยการนำอุปกรณ์ และระบบที่ทันสมัยเข้าไปช่วย

ด้านนางสมร เทิดธรรมพิบูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ ปณท กล่าว  การปรับแผนยุทธศาสตร์ระยะสั้นและระยะยาว   บริษัทได้จ้างให้บริษัท ไพรซ์วอเตอร์ เฮาส์ คูเปอร์ (พีดับบลิวซี) รวบรวมข้อมูลและทำการศึกษา   เพื่อให้ ปณท ใช้ประกอบการตัดสินใจ
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 16 มิ.ย. 2560 เวลา : 21:17:53
18-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 18, 2024, 11:23 am