"ลลิล พร็อพเพอร์ตี้" ประเมินธุรกิจอสังหาฯช่วงครึ่งปีหลังโต 3-5% รับอานิสงค์รัฐบาลเร่งลงทุนโครงข่ายคมนาคม เร่งเบิกจ่ายงบประมาณ แย้มแผนลงทุน 3-4 โครงการใหม่ มูลค่า 2,000 ล้าน ชู “ลลิล ทาวน์” ตอบโจทย์เรียลดีมานด์

นายชูรัชฏ์ ชาครกุล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) (LALIN) เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งปีหลัง ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะมีอัตราการขยายตัวได้ 3-5% เนื่องจากการลงทุนของภาครัฐ อาทิ โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล และมอเตอร์-เวย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเร่งเบิกจ่ายโครงการลงทุนขนาดใหญ่ที่ผ่านการอนุมัติของคณะรัฐมนตรีแล้ว ซึ่งจะช่วยเรียกความเชื่อมั่นและดึงการลงทุนจากภาคเอกชนได้ ซึ่งคาดว่าที่อยู่อาศัยแนวราบ ระดับกลาง–ล่าง จะขยายตัวได้ดี เนื่องจากเป็น Real Demand 

ทั้งนี้ บริษัทประเมินเศรษฐกิจโดยรวมแล้วตั้งแต่ช่วงต้นปี จึงดำเนินงานตามแผนกลยุทธ์ที่สอดรับกับสถานการณ์ ส่งผลให้มีผลประกอบการเติบโตสวนทางกับตลาดโดยรวมที่ชะลอตัว โดยผลประกอบการในรอบ 6 เดือนแรก ปี 2560 มียอดรับรู้รายได้รวม 1,545 ล้านบาท ขยายตัวราว 19% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2559  และมีผลกำไรสุทธิที่ 285 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนราว 17% มีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E Ratio) อยู่ที่ 0.84 เท่า ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยโดยรวมของอุตสาหกรรมซึ่งอยู่ที่ราว 1.4 เท่า

อย่างไรก็ตาม ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์โดยรวม ยังเผชิญกับปัจจัยที่สำคัญ คือหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง แต่คาดว่านโยบายคุมบัตรเครดิตจะช่วยให้หนี้ครัวเรือนลดลง จะช่วยให้ผู้บริโภคมีความสามารถในการผ่อนชำระได้มากขึ้น และส่งผลดีต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ส่วนยอดปฎิเสธสินเขื่อของบริษัทอยู่ในอัตราเฉลี่ยที่ 20-25% ลดลงเล็กน้อย เนื่องจากบริษัทจะสแกนลูกค้าก่อนส่งโอน เพื่อลดปัญหาถูกปฎิเสธสินเชื่อจากธนาคารพาณิชย์

สำหรับแผนการลงทุนในช่วง 4 เดือน บริษัทมีแผนจะเปิดโครงการใหม่อีกราว 3-4 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 2,000 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยให้บริษัทมีการขยายตัวที่มั่นคงต่อไป และตั้งเป้ายอดขาย 3,650 ล้านบาท และยอดรับรู้รายได้ 3,100 ล้านบาท เติบโตราว 15% โดยจะลงทุนในกรุงเทพฯ และปริมณฑลเป็นหลัก คิดเป็น 70% และต่างจังหวัดหัวเมืองใหญ่ เมืองท่องเที่ยว และแหล่งงานสำคัญ 30%

ในช่วงที่ผ่านมา บริษัทได้เปิดตัว “ลลิล ทาวน์ (LALIN Town)” ไปแล้วทั้งสิ้น 5 โครงการ 5 ทำเลยุทธศาสตร์ มูลค่ารวมประมาณ 4,000 ล้านบาท อาทิ พุทธสาคร-ถนนเศรษฐกิจ บางนา-สุวรรณภูมิ ลำลูกกาคลอง 4-5 และในต่างจังหวัด อาทิ อมตะนคร-ชลบุรี พัทยา-ชลบุรี เป็นต้น ซึ่ง ลลิล ทาวน์ นับเป็นโครงการใหม่ที่ประสบความสำเร็จ และได้รับความสนใจอย่างมากจากลูกค้า เพราะกลยุทธ์ที่พัฒนาให้เป็นโครงการมิกซ์ยูส ประกอบด้วย บ้านเดี่ยวหลังใหญ่ซีรี่ส์ใหม่ บ้านแนวคิดใหม่ ให้บนพื้นที่ใช้สอยกว่า 140-175 ตารางเมตร ในราคาเริ่มต้น 2 ล้านกว่าบาท – 5 ล้านบาท และทาวน์โฮม หน้ากว้างดีไซน์ใหม่ ขนาดพื้นที่ใช้สอย 85-105 ตารางเมตร ในราคา 2 - 2.5 ล้านบาท ในพื้นที่เดียวกัน ทำให้ตอบทุกโจทย์ของผู้อยู่อาศัยได้ทุกกลุ่ม ที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยทำเลนั้นๆ