กลุ่มซีไอเอ็มบี รายงานข่าวผลประกอบการงวดครึ่งปี 2560 มีกำไรสุทธิจำนวน 2.28 พันล้านริงกิต (ประมาณ 1.82 แสนล้านบาท) เติบโต 35.3% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรก่อนหักภาษีจำนวน 3.05 พันล้านริงกิต (หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 2.44 แสนล้านบาท) เหตุผลหลักมาจากรายได้จากการดำเนินงานและการควบคุมต้นทุนได้ดี โดยต้นทุนต่อรายได้ปรับลดจาก 55.4% จากงวดครึ่งปี 2559 มาอยู่ที่ 52.5% ในงวดครึ่งปี 2560
ตัวเลขสำคัญคือปริมาณเงินฝากออมทรัพย์เติบโตขึ้น 10.5% จากงวดเดียวกันปีก่อน ส่งผลให้ปัจจุบันสัดส่วนออมทรัพย์อยู่ที่ 35.6% ของเงินฝากรวม ด้านเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงส่วนที่เป็นกองทุนขั้นที่ 1 อยู่ที่ 11.9%
เต็งกู ดาโต๊ะ ศรี ซาฟรูล์ อาซิส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มซีไอเอ็มบี เปิดเผยว่า ผลประกอบการครึ่งแรกปีนี้อยู่ในระดับที่น่าพอใจ กลุ่มฯมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 35.3% สัดส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ลดลงมาอยู่ที่ 52.5% เงินกองทุนขั้นที่ 1 อยู่ที่ 11.9% ผลการดำเนินงานที่ดีมาจากปัจจัยหลักคือ สินเชื่อที่เติบโตได้ดีข้ามกลุ่ม การปรับตัวดีขึ้นของ NIM และความแข็งแกร่งของธุรกรรมด้านตลาดทุน และเห็นการเติบโตธุรกิจรายย่อยในมาเลเซียและไทย รวมถึงธุรกิจลูกค้าเอสเอ็มอีและธุรกิจขนาดใหญ่ในภูมิภาค ผลการดำเนินงานของไตรมาสล่าสุดเป็นตัวยืนยันการเติบโตอย่างยั่งยืนของ CIMB Group การรักษา NIM การควบคุมค่าใช้จ่าย แบะการเพิ่มความแข็งแกร่งด้านกองทุน
“เราเห็นแนวโน้มที่ดีครึ่งปีหลัง จากอัตราเติบโตจีดีพีของมาเลเซียและอินโดนีเซีย และการเติบโตอย่างค่อยเป็นค่อยไปของสิงคโปร์และประเทศไทย อีกทั้งเห็นสัญญาณที่ดีในตลาดทุนของภูมิภาค เราเติบโตในตลาดหลัก พร้อมๆกับให้ความสำคัญกับคุณภาพสินทรัพย์ในทุกธุรกิจ เรามีความเชื่อมั่นใน 5C ทั้ง capital cost culture customer และ compliance โดยรวมเรายืนยันจะทำให้ได้ตามเป้าของปี่ 2560 ที่วางไว้” เต็งกู ซาฟรูล์ กล่าว
ข่าวเด่น