บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด ได้จัดงานสื่อมวลชนสัญจร เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2560 ที่ผ่านมา  ณ จังหวัดเพชรบุรี เพื่อเป็นการขอบคุณสื่อมวลชนที่ได้นำเสนอข่าวสารของทางบริษัทในสื่อต่างๆ ด้วยดีเสมอมา รวมถึงภาคีเครือข่ายการรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน จากจังหวัดต่างๆ ร่วมกว่า 100 คน  เยี่ยมชมโครงการชั่งหัวมัน โครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาสิ่งแวดล้อมแหลมผักเบี้ยอันเนื่องมาจากพระราชดำริ รวมถึงทำกิจกรรมภายในจังหวัดเพชรบุรี อาทิ ชมโบสถ์เก่า จิตรกรรมฝาผนังสมัยอยุธยา ณ วัดใหญ่สุวรรณาราม ชมสปาเกลือ ขัดผิว ทานข้าวแช่ชาววัง ที่ กังหันทอง 

โดยมี  คุณนพดล สันติภากรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด ร่วมด้วย คุณประสิทธิ์ คำเกิด รองกรรมการผู้จัดการ รวมถึงผู้บริหารอื่นๆ ของทางบริษัท

ได้นำสื่อมวลชนและภาคีฯ นั่งรถรางเข้าเยี่ยมชม “โครงการช่างหัวมัน” โครงการในพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  เพื่อตามพระปณิธาน “เดินตามรอยเท้าพ่อ”   

โครงการชั่งหัวมันตามพระราชดำริ ตั้งอยู่ใน อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี เกิดขึ้นจากความเอาพระทัยใส่ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงมีต่อเกษตรกรในการที่จะพัฒนาส่งเสริมอาชีพเกษตรกรรมให้ประสบความสำเร็จและสามารถเลี้ยงดูตัวเองและครอบครัวได้อย่างยั่งยืน 

ประวัติที่มาของโครงการนี้ เริ่มตอนที่พระองค์ท่านประทับอยู่ ณ วังไกลกังวล แล้วมีชาวบ้านนำมันมาถวาย ช่วงนั้นพระองค์ต้องเสด็จกลับกรุงเทพ จึงรับสั่งให้เจ้าหน้าที่นำหัวมันเทศนั้นไปวางไว้บนตาชั่งในห้องทรงงาน จากนั้นก็เสด็จกลับกรุงเทพ เวลาล่วงเป็นเดือน เมื่อเสด็จกลับมาหัวหินทรงพบว่ามันเทศนั้นได้แตกใบ เลยตรัสว่า “มัน อยู่ที่ไหนก็ขึ้น” ดังนั้นจึงมีพระราชดำริให้จัดหาที่ดิน เพื่อทำโครงการด้านการเกษตร ปี พ.ศ. 2551 ก็ได้ซื้อที่ดินจำนวน 120 ไร่ และต่อมาในกลางปี 2552 ทรงซื้อที่ดินติดกันเพิ่มอีก ณ บ้านหนองคอไก่ ตำบลเขากระปุก อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี จำนวน 250 ไร่

เพื่อพัฒนาเป็นศูนย์รวบรวมพืชเศรษฐกิจนานาชนิด เพื่อเป็นแนวทางให้กับเกษตรกร โดยเฉพาะในพื่นที่อำเภอท่ายาง ที่มีพื้นที่ค่อนข้างแห้งแล้ง ทรงพระราชทานพันธุ์มันเทศ ซึ่งงอกออกมาจากหัวมันที่ตั้งโชว์ไว้บนตาชั่งในห้องทรงงานที่วังไกลกังวล ให้นำมาปลูกไว้ที่ที่ดินแปลงนี้ พระราชทานชื่อโครงการว่า “โครงการชั่งหัวมัน ตามพระราชดำริ”

โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้เสด็จพระราชดำเนินมาเยี่ยมโครงการนี้ด้วยพระองค์เอง มีพระตำหนักทรงงานที่ตั้งอยู่ภายในโครงการเป็นบ้านไม้สองชั้นเรียบง่าย ที่ใช้ทรงงานและพักผ่อนพระอิริยาบถเมื่อครั้งเสด็จเยี่ยมโครงการนี้ รวมถึงรถที่ใช้ทรงงานก็จอดอยู่ภายในบริเวณพระตำหนักด้วย

หลังจากที่ชมโครงการและเรียนรู้เรื่อง "ศาสตร์ของพระราชา" ว่ากันว่าถ้ามาเยือนถิ่นเพชรบุรี มื้อกลางวันมาต้องมาทานที่ร้านนี้ “ร้านเปลญวน” ร้านอาหารที่ขึ้นชื่อของชาวเมืองเพชร ด้วยรสชาติที่โดดเด่น การันตีด้วยรายการต่างๆที่มาถ่ายทำมากมาย ซึ่งหนึ่งในนั้น คือ รายการ ‘ครัวคุณต๋อย’

อาหารแนะนำวันนี้ได้แก่ ส้มตำผักหวาน ปลากะพงทอดน้ำปลา ที่ต้องทานคู่กับ น้ำยำแอปเปิ้ล หลนปู ไข่ฟูปูม้วน กุ้งซอสมะขาม และแกงป่าปลาเห็ดโคน ทานกับข้าวสวยร้อนๆ ไว้เป็นพลังงานในช่วงบ่าย 

หลังจากนั้นบริษัทกลางฯ ได้พาคณะเดินทางไปที่ วัดใหญ่สุวรรณาราม พระอารามหลวงชั้นตรีชนิดวรวิหาร เป็นวัดเก่าแก่และสำคัญมากของจังหวัดเพชรบุรี  สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยา เพื่อถวายสังฆทาน “หมวกนิรภัย” ให้กับทางวัด 

และทางผู้บริหาร ได้นำเยี่ยมชม ภาพจิตรกรรมฝาหนังในโบสถ์เป็นภาพเทพชุมนุมศิลปะอยุธยาฝีมือช่างเมืองเพชร

จุดเด่นอยู่ที่ ศาลาการเปรียญ เป็นเรือนไทยขนาดใหญ่ สร้างด้วยไม้ผนังเป็นฝาปะกน เครื่องหลังคาเป็นโครงประตูชนิดมีจันท์นต่อ มุงด้วยกระเบื้องกาบู แต่เดิมเป็นตำหนักที่ประทับของพระเจ้าสรรเพชญ์ที่ 8 หรือพระเจ้าเสือ รื้อมาถวายพระสังฆราชแตงโม 

หลังจากนั้นบริษัทกลางฯ ได้พาไปเยี่ยมชม "โครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาสิ่งแวดล้อมแหลมผักเบี้ยอันเนื่องมาจากพระราชดำริ" ต.แหลมผักเบี้ย อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี สืบเนื่องมาจากพระราชดำริด้านปัญหาขยะและน้ำเสีย

โดยมีวัตถุประสงค์หลัก คือ การศึกษาวิจัยหาเทคโนโลยีที่เหมาะสมในการแก้ปัญหาน้ำเสียและขยะชุมชนที่ประหยัดและสะดวก ทำง่ายและสามารถนำไปใช้กับพื้นที่อื่นๆ ได้ 

นอกจากนี้ยังได้รับเกียรติจาก ศ.ดร. เกษม จันทร์แก้ว ผู้อำนวยการโครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาสิ่งแวดล้อมแหลมผักเบี้ย  นักสิ่งแวดล้อมที่เดินตามรอยพระบาทอย่างมุ่งมั่นและมั่นคง มาบรรยายถึงที่มาที่ไปของโครงการด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ อีกด้วย 

หลังจากได้เรียนรู้กับโครงการต่างๆ เพื่อเรียนรู้ศาสตร์แห่งพระราชา และนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันในเรื่องของเศรษฐกิจพอเพียง ก็ได้เวลาของการไปเที่ยวแบบวิถีไทยสไตล์สปาเกลือ ขัดผิวด้วยดอกเกลือ เพื่อขจัดเซลล์ผิวทำให้ผิวเนียนนุ่มชุ่มชื่น ที่ ‘กังหันทอง’

พร้อมชิม ข้าวแช่ชาววัง กลิ่นหอมๆ ของน้ำแช่ดอกมะลิ ทานกับเครื่องเขียง อาทิ ลูกกะปิ หมูฝอย ชื่นใจหายเหนื่อยกันเลยทีเดียว

ทั้งนี้ภายในช่วงเย็นของการจัดงาน ทาง คุณนพดล สันติภากรณ์ ได้มอบของที่ระลึก คือ “ต้นดาวเรือง” ดอกไม้ประจำพระองค์รัชกาลที่ 9 ให้กับสื่อมวลชนที่มาร่วมทริป และได้ร่วมกันยืนสงบนิ่งเป็นเวลา 89 วินาที เพื่อน้อมรำลึกถึงพระองค์ท่าน หลังจากนั้นได้ร่วมกันร้อง เพลงสรรเสริญพระบารมี เพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึง พระมหากรุณาธิคุณในหลวงรัชกาลที่ 9 เป็นการจบทริป “เดินตามรอย สานต่องานพ่อ” เพื่อเรียนรู้ศาสตร์แห่งพระราชา