กอร.พระราชพิธีฯ แจ้งกำหนดการเปิดให้ชมนิทรรศการพระเมรุมาศ คาดว่าจะมีจำนวนผู้เข้าชมนิทรรศการวันละ 1 แสนคน แบ่งเป็น พระภิกษุสงฆ์ 500 รูป คนพิการและคนชรา 500 คน นักท่องเที่ยวต่างชาติ 8,000 คน นักเรียนนักศึกษา 15,000 คน ประชาชนทั่วไป 80,000 คน เฉลี่ย 4 ตารางเมตร/คน จึงได้กำหนดให้เข้าชมรอบละ 5,000 คน โดยกำหนดเวลาให้ชมบริเวณด้านหน้าพระเมรุมาศซึ่งเป็นส่วนของโครงการพระราชดำริ คนละ 15 นาที ส่วนในนิทรรศการ 6 อาคาร จะให้เวลาคนละ 45 นาที ซึ่งประชาชนสามารถขึ้นชมพระเมรุมาศได้เฉพาะชั้น 1 เท่านั้น เมื่อหมดเวลาเจ้าหน้าที่จะส่งสัญญาณหมดเวลาเป็นรอบ ซึ่งอยู่ระหว่างการปรับให้สอดคล้องกับความสะดวก และความปลอดภัย
สำหรับนิทรรศการดังกล่าวจะเปิดให้เข้าตั้งแต่เวลา 07.00-22.00 น. ระหว่างวันที่ 2-30 พ.ย.นี้ และให้ให้ประชาชนที่เข้าชมนิทรรศการดังกล่าวแต่งกายสุภาพเรียบร้อย ทั้งนี้ในเวลา 07.00 น. ของวันที่ 2 พ.ย. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จะเสด็จเป็นองค์ประธานเปิดนิทรรศการ
ในส่วนของพระที่นั่งทรงธรรมจะรองรับประชาชนได้ 2,000 คน ซึ่งจะปรับเป็นนิทรรศการพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจ รวมถึงจิตรกรรมที่ได้รับความสนใจทั้ง 3 ด้าน
กำหนดเวลาการเข้าชมรอบละ 1 ชั่วโมง แบ่งเป็น 2 ช่วง ดังนี้
– ถ่ายภาพที่ระลึกและชมภาพภูมิทัศน์ส่วนต่างๆ ของพระเมรุมาศในมุมกว้าง โดยบริเวณด้านหน้าพระเมรุมาศ เป็นส่วนของโครงการพระราชดำริ เป็นเวลา 15 นาที
– ชมพื้นที่ด้านในของพระเมรุมาศ และนิทรรศการ 6 อาคารอย่างอิสระ ซึ่งประชาชนสามารถขึ้นชมพระเมรุมาศได้เฉพาะชั้น 1 เท่านั้น เป็นเวลา 45 นาที
เนื้อหานิทรรศการซึ่งจะใช้พื้นที่ทั่วทั้งบริเวณมณฑลพิธี ออกเป็น 3 ส่วน ดังนี้
1. นิทรรศการโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ บอกเล่าเรื่องราวผ่านงานภูมิทัศน์ ได้แก่ การชมแปลงนาข้าวและบ่อแก้มลิงบริเวณทางเข้าด้านทิศเหนือของมณฑลพิธี รวมถึงภาพจิตรกรรมฝาผนัง 3 ภาพใหญ่ ภายในพระที่นั่งทรงธรรม ซึ่งแสดงให้เห็นโครงการพระราชดำริที่สำคัญในทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย
2. นิทรรศการเกี่ยวกับการจัดสร้างพระเมรุมาศ สิ่งปลูกสร้างประกอบพระเมรุมาศ และการบูรณปฏิสังขรณ์ราชรถและพระยานมาศ เป็นการบอกเล่าเรื่องราวผ่านสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ภายในบริเวณมณฑลพิธี และที่ศาลาลูกขุนทั้ง 6 หลัง จะมีนิทรรศการเพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับแนวคิดการออกแบบและขั้นตอนการผลิตงานสถาปัตยกรรม จิตรกรรม ประติมากรรม และงานประณีตศิลป์ ตลอดจนงานบูรณปฏิสังขรณ์ราชรถและพระยานมาศ
3. นิทรรศการพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจ จะจัดแสดงบนพระที่นั่งทรงธรรม กำหนดให้ประชาชนเดินชมเป็นทิศทางเดียว จากปีกอาคารด้านทิศใต้ ผ่านโถงกลางและจบที่ปีกอาคารด้านทิศเหนือ ประกอบด้วยนิทรรศการย่อย 5 ส่วน ดังนี้
– นิทรรศการพระราชประวัติตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์
– นิทรรศการจากหนังสืออุปกรณ์ทรงงาน (ชุดที่ 1)
– นิทรรศการจากหนังสืออุปกรณ์ทรงงาน (ชุดที่ 2)
– นิทรรศการธรรมราชา พระมหากษัตริย์ผู้ทรงทศพิธราชธรรม
– นิทรรศการสืบสานสมานมิตร เล่าเรื่องการเสด็จพระราชดำเนินไปเจริญสัมพันธไมตรีกับต่างประเทศ
การแต่งกายเข้าชมนิทรรศการพระเมรุมาศ ประชาชนทั่วไป ให้แต่งกายด้วยชุดสุภาพ เช่นเดียวกับการเข้าชมวัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) งดเว้นเสื้อสายเดี่ยว เสื้อแขนกุด และกางเกงขาสั้น
ทั้งทางผู้รับผิดชอบเตรียมความพร้อมอำนวยความสะดวกผู้เข้าชมอย่างเต็มที่ โดยมีจุดคัดกรอง 5 จุด สำหรับพระภิกษุสามเณร ให้ใช้ทางเข้าด้านหน้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยประชาชนทั่วไปให้เข้าในจุดคัดกรอง 3 จุด ได้แก่
– บริเวณหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน
– ท่าช้าง
– พระแม่ธรณีบีบมวยผม
ส่วนผู้พิการสามารถเข้าชมบริเวณจุดคัดกรอง หลังกระทรวงกลาโหม โดยฝ่ายจัดงานมีการอำนวยความสะดวกให้กับผู้พิการ จัดให้มีนิทรรศการสัมผัส พร้อมเสียงบรรยายเพื่อให้ได้เข้าใจถึงความเป็นมาของการจัดสร้างพระเมรุมาศ และอาคารประกอบทั้งหมด
ด้านการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในการเดินทางนั้น องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพฯ จะจัดรถโดยสารให้บริการฟรีใน 6 เส้นทาง ตั้งแต่เวลา 05.00 – 23.00 น. เส้นทางละ 10 คัน รอบละ 60 คัน ได้แก่
1. อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ-สนามหลวง
2. หัวลำโพง-สนามหลวง
3. วงกลมรอบเกาะรัตนโกสินทร์-สนามหลวง
4. เอกมัย-สนามหลวง
5. สายใต้ใหม่-สนามหลวง
6. หมอชิต-สนามหลวง
ส่วนทางเรือจะให้บริการตั้งแต่เวลา 06.00 – 22.30 น. ที่ท่านิเวศน์วรดิฐ และท่าราชนาวิกสภา ขณะเดียวกันจะประสานกรมเจ้าท่า ขอความร่วมมือผู้ให้บริการเรือด่วน เรือเมล์ขยายเวลารองรับการเดินทางของประชาชนด้วย
ข่าวเด่น