การตลาด
เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป เชื่อธุรกิจสื่อโฆษณาในโรงปี 2561 ยังเติบโตได้ ด้วยราคาที่ไม่สูง


เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป เผยทิศทางธุรกิจสื่อโฆษณาในโรงภาพยนตร์ปี 2561 ยังเติบโตได้ต่อเนื่อง ด้วยจุดแข็งราคาที่ไม่สูงมากนัก มีประเภทสื่อโฆษณาที่หลากหลาย เข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้อย่างชัดเจน พร้อมแรงหนุนจากภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดและภาพยนตร์ไทยที่มีแนวโน้มเติบโตขึ้นในปีนี้ และยังมีการขยายสาขาของโรงภาพยนตร์ทั้งในกรุงเทพฯ ต่างจังหวัดซึ่งครอบคลุมไปถึงระดับอำเภอ และในกลุ่มประเทศ CLMV อีกด้วย ทำให้ธุรกิจสื่อโฆษณาในโรงภาพยนตร์เป็นที่น่าสนใจได้รับความนิยมและมีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

 

 


 

นิธิ พัฒนภักดี รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายสื่อโฆษณา บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงภาพรวมของธุรกิจสื่อโฆษณาในโรงปี 2560 ที่ผ่านมา ว่า รายได้ของธุรกิจสื่อโฆษณาในโรงยังเติบโตสวนทางกับสภาวะเศรษฐกิจและภาพรวมอุตสาหกรรมโฆษณา เนื่องจากเป็นช่องทางการโฆษณาที่มีประสิทธิภาพสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้โดยตรงมากกว่าสื่อโฆษณาประเภทอื่น  ส่งผลให้มีอัตราการเติบโตของรายได้โตต่อเนื่องทุกปี เพราะสื่อโฆษณาของ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ไม่ใช่แค่การลงโฆษณา แต่ลูกค้ายังสามารถทำกิจกรรมในช่องทางอื่น ได้ด้วย ทั้งในรูปแบบของ Sponsorship, การทำโฆษณาสินค้าร่วมกับเจ้าของผลิตภัณฑ์ (Cross Promotion), การจัด Interactive Activity, Interactive Media และ Event ต่าง    

ส่วนทิศทางธุรกิจสื่อโฆษณาของ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ในปี 2561 เชื่อว่าสื่อโฆษณาใน โรงภาพยนตร์ยังคงได้รับความนิยมจากลูกค้า เนื่องจากเป็นสื่อโฆษณาที่ราคาไม่สูงมากนัก แต่สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้อย่างชัดเจนและตรงจุด เพราะผู้ชมภาพยนตร์ในโรงภาพยนตร์เป็นกลุ่มผู้ชม   ที่ชอบดูภาพยนตร์อย่างแท้จริง และยังระบุได้ว่าต้องการเข้าถึงลูกค้ากลุ่มไหน ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มวัยรุ่น, กลุ่มคนทำงาน หรือ กลุ่มครอบครัว อีกทั้งสามารถสร้างการรับรู้และจดจำในตัวโฆษณาได้ และยังเข้าถึงด้วยการแบ่งกลุ่มผู้ชมภาพยนตร์ได้ตามประเภทภาพยนตร์อีกด้วย อาทิ หนังแอ๊คชั่น, หนังดราม่า, หนังโรแมนติก, หนังตลกคอมเมอดี้, หนังระทึกขวัญ, หนังการ์ตูนแอนิเมชั่น, หนังครอบครัว ตลอดจน สื่อโฆษณาในโรงภาพยนตร์ยังมีจุดเด่น คือ มีประเภทสื่อโฆษณาที่มีความหลากหลาย มีทั้งสื่อโฆษณาบนจอภาพยนตร์ (Screen Ads) ที่เป็นสื่อโฆษณาหลัก, บนจอวีดีโอ (VDO Wall), บนป้ายโฆษณาพลิกได้ 3 หน้า (Tri-vision)

บนจอ Plasma, บน Menu Board, โฆษณาในรูปแบบ 4 มิติ (4D Ads) ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่เฉพาะในโรงภาพยนตร์ 4DX และสื่อโฆษณาช่องทางใหม่บนออนไลน์ เช่น Facebook, Instagram, Twitter และ Line  

 

สำหรับรูปแบบการขายสื่อโฆษณาของ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ในปี 2561 จะเน้น...

- การจัดโฆษณาให้ตรงตามความต้องการของลูกค้า โดยลูกค้าสามารถเลือกช่องทาง, เวลาฉายโฆษณา, ระยะเวลาการโฆษณา, จุดติดตั้ง การปรับเปลี่ยนเนื้อหาโฆษณาให้สอดคล้องตามกลุ่มเป้าหมายในช่วงเวลาต่าง ได้ 

 - การหาลูกค้ารายใหม่เพิ่ม โดยการจัดแพ็คเกจให้เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้า อาทิ ลูกค้าที่ต้องการสร้างความรับรู้และจดจำในตัวโฆษณาสินค้าจะแนะนำให้ลงโฆษณาตามภาพยนตร์ โดยเลือกประเภทของภาพยนตร์ที่ตรงตามกลุ่มเป้าหมาย หรือลูกค้าที่ชอบกิจกรรมจะแนะนำให้จัดโรดโชว์ เน้นไปที่ตลาดต่างจังหวัด

- การรักษาฐานลูกค้าเก่า จะมีการเพิ่มความหลากหลายของแพ็คเกจใหม่ ให้มีความน่าสนใจ 

- การขายแพ็คเกจตามนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ ของโรงภาพยนตร์ เช่น ระบบการขายตั๋วซึ่งเปลี่ยนด้วย Box Office เป็นตู้ E-Ticketing และพัฒนาสู่ Mobile Ticketing ซึ่งลูกค้าสามารถใช้มือถือ สแกนผ่านเครื่อง Smart Ticket ที่เริ่มใช้แล้วกว่า 30 สาขา ตลอดจน ปัจจุบันลูกค้าสามารถซื้อตั๋วหนังเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ผ่าน Application, Facebook, QR Code Payment on EDC และเร็ว นี้ จะได้สัมผัสนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ ล่าสุด กับ โรงภาพยนตร์ LED Cinema Screen 

 

 


 

นอกจากนี้ การขายสื่อโฆษณายังได้แรงหนุนจากภาพยนตร์ดี ที่จะเข้าฉายในปีนี้รวมทั้งสิ้นประมาณ 330 เรื่อง เป็นภาพยนตร์ฮอลลีวู้ด 195 เรื่อง ภาพยนตร์เอเชีย 80 เรื่อง และภาพยนตร์ไทย 55 เรื่อง สำหรับภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดในปี 2561 ถือเป็นปีที่ดีอีกปีหนึ่ง เพราะมีภาพยนตร์ Blockbuster ฟอร์มยักษ์อยู่หลายเรื่องมากกว่าปี 2560 ที่จะเข้าฉายและจะทำเงินมากกว่า อาทิ Maze Runner : The Death Cure, Black Panther, A Wrinkle in Time, Avengers : Infinity War 2, Deadpool 2, Ant-Man and The Wasp 2, Incredibles 2, Mission : Impossible 6, Jungle Book : Origins 2, Fantastic Beasts 2, Aquaman เป็นต้น  ส่วนภาพยนตร์ไทยในปีนี้ก็จะดีมากกว่าปีที่ผ่านมา เนื่องจากมีภาพยนตร์ไทยเลื่อน    มาฉายในปีนี้หลายเรื่อง เป็นของบริษัทในเครือเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป 17 เรื่อง (ของ บริษัท เอ็ม เทอร์ตี้ไนน์ จำกัด หรือ M 39 จำนวน 7 เรื่อง, บริษัท เอ็ม พิคเจอร์ส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์จำกัด (มหาชน) หรือ     M Pictures 5 เรื่อง, บริษัท ทรานส์ฟอร์เมชั่น ฟิล์ม จำกัด 3 เรื่อง, บริษัท ซีเจ เมเจอร์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด 2 เรื่อง), ค่าย GDH 3 เรื่อง, ค่ายสหมงคลฟิล์มฯ 7 เรื่อง, ค่าย TMoment 3 เรื่อง และอื่น ประมาณ 25 เรื่อง โดยมีภาพยนตร์ไทยที่น่าสนใจ อาทิ ศาสตรา ของ M Pictures, หลวงพี่แจ๊ส 5G ของ M 39,   ขุนพันธ์ 2 ของ สหมงคลฟิล์ม นำแสดงโดย อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม - เป้ อารักษ์ อมรศุภศิริ, นาคี 2 ของ คุณประวิทย์ มาลีนนท์ นำแสดงโดย เคน ภูภูมิ - แต้ว ณฐพร และ ณเดช คูกิมิยะ - ญาญ่า อุรัสญา,  Brother & Sister ของ GDH นำแสดงโดย ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์, ญาญ่า อุรัสญา และนิชคุณ หรเวชกุล

อนาคตภาพยนตร์ไทยยังมีความสดใส ผู้สร้างเริ่มให้ความสำคัญในการผลิตภาพยนตร์ไทยไม่เพียงแค่ฉายให้กับคนไทยในประเทศดูเท่านั้น แต่อุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยต่อไปจะผลิตเพื่อการส่งออกด้วย ซึ่งเป็นผลเนื่องมาจากภาพยนตร์ไทยเรื่องฉลาดเกมส์โกงของค่าย GDH ซึ่งได้เข้าไปฉายในประเทศจีนและสามารถทำรายได้มากถึง 1,300 ล้านบาท ประเทศจีนนับเป็นตลาดโรงภาพยนตร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก มี

จำนวนโรงภาพยนตร์มากกว่า 51,000 โรง อีกทั้งคนจีนยังมีกระแสตอบรับภาพยนตร์ไทยที่ดีมาก เชื่อว่าค่ายหนังและผู้กำกับของไทยคงเห็นถึงโอกาสนี้ และคงพยายามพัฒนาการผลิตภาพยนตร์ไทยให้สามารถส่งออกไปขายในตลาดต่างประเทศ ทั้ง จีน, ลาว, กัมพูชา, เวียดนาม และเมียนมาร์ มากขึ้น ภาพยนตร์ไทยยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก เพราะยังเป็นที่ชื่นชอบของกลุ่มลูกค้าทั้งในกรุงเทพฯ ต่างจังหวัด และในกลุ่มประเทศ CLMV อีกด้วย เห็นได้จากมีผู้สร้างหน้าใหม่หันมาสร้างภาพยนตร์ไทยเพิ่มมากขึ้น ล่าสุด คุณ    ประวิทย์ มาลีนนท์ ก็หันมาสร้างภาพยนตร์ไทยเรื่องนาคี 2” ซึ่งจะเข้าฉายในปีนี้ 

 


 

ตลอดจน สื่อโฆษณาในโรงของเครือเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ยังเป็นที่น่าสนใจและเติบโตอย่างต่อเนื่องนั้น เกิดจากมีการขยายสาขาโรงภาพยนตร์อย่างต่อเนื่องทั้งในประเทศและต่างประเทศ ปัจจุบัน เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป มีสาขารวมทั้งสิ้น 131 สาขา 710 โรง เป็นสาขาในประเทศไทย 126 สาขา 685 โรง (ครอบคลุม 51 จังหวัด แบ่งเป็นกรุงเทพฯ และปริมณฑล 41 สาขา 338 โรง ต่างจังหวัด 85 สาขา 347 โรง) และต่างประเทศ 5 สาขา 25 โรง แบ่งเป็นประเทศกัมพูชา 3 สาขา 16 โรง, ประเทศลาว 2 สาขา 9 โรง และในปี 2561 มีแผนที่จะเปิดเพิ่มอีกประมาณ 34 สาขา 98 โรง


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 22 ม.ค. 2561 เวลา : 14:43:59
26-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 26, 2024, 2:45 am