แบงก์-นอนแบงก์
ซีอีโอกรุงศรีฯยัน 'ไม่ปลดพนักงาน-ไม่ลดสาขา'


"โนริอากิ โกโตะ" ซีอีโอแบงก์กรุงศรียัน "แบงก์ไม่มีนโยบายลดพนักงานและลดสาขา" เผยองค์กรยังต้องการพนักงานในการขับเคลื่อนธุรกิจให้ขึ้นเป็นสถาบันการเงินชั้นนำของไทย แต่จะโยกย้ายพนักงานไปอยู่ในจุดที่เหมาะสม ย้ำใช้ดิจิทัลและเทคโนโลยีเข้ามาแทนที่เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มรายได้ ตั้งเป้าปีนี้สินเชื่อโต 6-8% จากแผน 3 ปีจากนี้โต 7-9% เน้นสินเชื่อรายย่อย เพิ่มสัดส่วนเป็น 50% จากปัจจุบัน 47%

 

 


 

 

นายโนริอากิ โกโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ BAY เปิดเผยว่า แผนธุรกิจระยะกลางของธนาคาร 3 ปี ตั้งแต่ปี 2561-2563 ธนาคารตั้งเป้าสินเชื่อรวมจะเติบโตเฉลี่ย 7-9% จากปีนี้ที่ตั้งเป้าสินเชื่อรวมเติบโต 6-8% โดยยังคงเน้นสินเชื่อรายย่อยเป็นหลัก โดยปี 2563 สัดส่วนสินเชื่อรายย่อยจะขยับขึ้นเป็น 50%  จากปัจจุบันมีสัดส่วนสินเชื่อรายย่อย อยู่ที่ 47% 

 

 


 

โดยปี 2560 ที่ผ่านมา ยอดสินเชื่อคงค้างของธนาคาร อยู่ที่ 1.5 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นสินเชื่อรายใหญ่ 6 แสนล้านบาท สินเชื่อเอสเอ็มอี 2.2 แสนล้านบาท สินเชื่อรายย่อย 7.3 แสนล้านบาท ซึ่งมาจากพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ 22% หรือ 3.4 แสนล้านบาท,สินเชื่อที่อยู่อาศัย 14% หรือ 2.2 แสนล้านบาท,สินเชื่อบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคล 11% หรือ 1.7 แสนล้านบาท

 


 

 

โดยกรุงศรีฯมีสัดส่วนลูกค้ารายย่อย อยู่ที่ 47% สัดส่วนลูกค้ารายใหญ่ เอสเอ็มอี และลูกค้านักธุรกิจญี่ปุ่น รวมกันอยู่ที่ 53%  นายโนริอากิ โกโตะ กล่าวต่อไปว่า สำหรับการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญ ในปีนี้ธนาคารยังตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญไม่น้อยกว่าปีก่อน เพื่อรักษาอัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพ (coverage ratio) ไม่ให้ต่ำกว่า 140% ซึ่งเป็นระดับเดียวกับปัจจุบัน

ส่วนงบลงทุนด้านเทคโนโลยีในช่วงแผน 3 ปีนี้ ธนาคารตั้งงบไว้ที่ 2 หมื่นล้านบาท โดยในปีนี้จะใช้เงินลงทุนประมาณ 8.5 พันล้านบาท เพื่อพัฒนาดิจิทัลและเทคโนโลยี พร้อมกับปรับปรุงรูปแบบสาขาให้มีความทันสมัยมากขึ้นและเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้า

 


 

นายโนริอากิ กล่าวยืนยันว่า กรุงศรีไม่มีแผนลดพนักงาน แม้ดิจิทัลและเทคโนโลยีจะเข้ามามีบทบาทแทนที่การทำงานของพนักงาน เพราะการนำเทคโลยีเข้ามาจะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ช่วยลดต้นทุนและเพิ่มรายได้ ขณะที่ธนาคารเองก็ยังคงต้องการใช้พนักงานเป็นตัวขับเครื่ององค์กรต่อไปให้ขึ้นเป็นสถาบันการเงินชั้นนำของไทย โดยธนาคารจะโยกย้ายพนักงานไปทำงานในส่วนอื่นที่เหมาะสม

นอกจากนี้ ธนาคารไม่มีแผนที่จะลดสาขาเช่นกัน ซึ่งปัจจุบันมีสาขาอยู่ทั่วประเทศ 663 สาขา เนื่องจากธนาคารมีเป้าหมายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง แต่จะปรับรูปแบบสาขาใหม่ให้ทันสมัยเข้ากับสังคมดิจิทัล

สำหรับผลการดำเนินงานในปีนี้จะดีกว่าปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 23,209 ล้านบาท เนื่องจากเศรษฐกิจมีการฟื้นตัวที่ดีขึ้นส่งผลให้ความต้องการสินเชื่อเติบโตตามไปด้วย โดยคาดว่าในปีนี้เศรษฐกิจไทยน่าจะเติบโตที่ระดับ 4%


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 01 ก.พ. 2561 เวลา : 21:12:09
26-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 26, 2024, 5:59 am