ก.คมนาคม คาดการปรับปรุงขยายสถานีรถไฟฟ้า สถานีสะพานตากสิน วงเงิน1,200 ล้าน กทม.เตรียมเสนอรายละเอียดแบบก่อสร้าง มี.ค.นี้ คาดเริ่มก่อสร้าง พ.ค.นี้ แล้วเสร็จ และเปิดให้บริการปลายปี 63 ล่าช้าจากแผนเดิม 1 ปี

  นายชาติชาย ทิพย์สุนาวี ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า จากกรณีที่ กรุงเทพมหานคร ดำเนินการปรับปรุงสถานีรถไฟฟ้าสถานีสะพานตากสิน (S6) เพื่อลดปัญหาแออัดการให้บริการ โดยเตรียมเสนอรายละเอียดแบบงานก่อสร้างในส่วนของการขยายรางรถไฟฟ้า และขยายปีกสะพานตากสินมหาราชออกไปฝั่งละ 1.8 เมตร ให้กรมทางหลวงชนบทพิจารณา ช่วงต้นเดือนมี.ค. นี้ โดยกรมทางหลวงชนบท ในฐานะเจ้าของสะพานจะต้องพิจารณามาตรฐานความปลอดภัยของแบบก่อสร้างทั้ง 2 ส่วน ว่าจะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงแข็งแรงของต่อม่อสะพานเดิมหรือไม่ รวมทั้งต้องพิจารณาให้แผนงานก่อสร้างไม่ส่งผลกระทบต่อการจราจรบริเวณโดยรอบด้วย

  เบื้องต้นมีข้อกำหนดร่วมกันให้ กทม.ขยายปีกสะพานตากสินมหาราชให้แล้วเสร็จก่อนที่จะ ขยายรางรถไฟฟ้า เพื่อป้องกันปัญหาการจรจาติดขัด เบื้องต้นกทม.แจ้งว่าการออกแบบมีความคืบหน้าแล้ว 40% คาดว่าจะส่งแบบก่อสร้างฉบับสมบูรณ์ให้กรมทางหลวงชนบทพิจรณาต้นเดือนมี.ค.นี้

  ทั้งนี้ กทม. ระบุว่าจะใช้เวลาในการเปิดประมูลและคัดเลือกผู้ชนะประมูล 2 เดือน คือ ช่วง เม.ย.-พ.ค. นี้ และเริ่มก่อสร้างสิ้นเดือน พ.ค. คาดใช้ระยะเวลาก่อสร้างรวม 30 เดือน และจะเปิดให้บริการได้ช่วงปลายปี 63

  อย่างไรก็ตามกรมทางหลวงชนบท เตรียมของบประมาณปี 62 วงเงินย 40 ล้านบาท เพื่อปรับปรุงสถานีร่วม ซึ่งเป็นพื้นที่เดิมของกรมทางหลวงชนบท เพื่อเปิดพื้นที่ให้หน่วยราชการได้เข้ามาให้บริการประชาชน เช่น ปัจจุบันกรมการขนส่งทางบก ใช้เป็นพื้นที่เปิดทำใบขับขี่ เป็นต้น ส่วนกรมเจ้าท่า จะของบประมาณ 8 ล้านบาทเพื่อปรับปรุง ท่าเรือสาทร (ตากสิน)เพิ่มเติมด้วย คาดว่าแล้วเสร็จภายในปี 63

  รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม แจ้งว่า ก่อนหน้านี้นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว. คมนาคม ได้กำหนดเป้าหมายร่วมกับ กทม.ว่าจะดำเนินการปรับปรุงขยายสถานีรถไฟฟ้า สถานีสะพานตากสิน ให้แล้วเสร็จและเปิดให้บริการในเดือน ธ.ค.62 แต่หากพิจารณาจากความคืบหน้าข้างต้นคาดว่าจะทำให้การเปิดให้บริการล่าช้าไป 1 ปี สำหรับโครงการปรับปรุงสถานีรถไฟฟ้า สถานีสะพานตากสิน เป็นโครงการที่อยู่ในความรับผิดชอบของกทม.ซึ่งเป็นเจ้าของรถไฟฟ้าบีทีเอส เบื้องต้นคาดว่าจะใช้เงินลงทุนทั้งหมดประมาณ 1,200 ล้านบาท โดยมอบหมายให้ บีทีเอสบริษัทผู้รับสัมปทานเดินรถเป็นผู้ลงทุนทั้งหมด