ข่าวประชาสัมพันธ์
ขบ.เผยผลสแกนเข้ม!!! รถและคนขับ วันแรกช่วงก่อนเทศกาล พบรถไม่พร้อม 7 คัน คนขับไม่พร้อม 7 ราย จากการตรวจรถและคนขับ 14,234 คัน


นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า กรมการขนส่งทางบก เตรียมความพร้อมเพื่อความปลอดภัยรองรับการเดินทางช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยเริ่มมาตรการสแกนรถโดยสารสาธารณะและพนักงานขับรถ ทุกคน   ทุกคัน ทุกเส้นทาง ทุกสถานีขนส่งผู้โดยสารและจุดจอดรถ 212 แห่งทั่วประเทศ เพื่อตรวจสอบความพร้อมของรถและคนขับตามมาตรฐานความปลอดภัย (Checklist) ที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด  เช่น ตรวจสอบการติดตั้งระบบ GPS Tracking การติดตั้งเข็มขัดนิรภัยต้องมีครบทุกที่นั่งและสามารถใช้งานได้ จำนวนที่นั่งไม่เกินตามที่กำหนด ตำแหน่งการติดตั้งที่นั่งต้องไม่กีดขวางประตูฉุกเฉิน สภาพยางและล้อต้องอยู่ในสภาพสมบูรณ์ เป็นต้น ส่วนพนักงานขับรถตรวจใบอนุญาตขับรถ ตรวจความพร้อมของร่างกาย ไร้สารเสพติดและแอลกอฮอล์เป็นศูนย์ 100% โดยได้ดำเนินการมาตั้งแต่ในช่วงเตรียมความพร้อม        วันที่ 19–25 มีนาคม 2561 เรียบร้อยแล้ว และดำเนินการต่อเนื่องในช่วงก่อนเทศกาล ระหว่างวันที่ 4 –10 เมษายน 2561  ก่อนจะเพิ่มระดับความเข้มข้นสูงสุดในทุกมิติจนถึงช่วงเทศกาล ระหว่างวันที่ 11- 17 เมษายน 2561  ซึ่งจากผลการตรวจความพร้อมของรถและคนขับ เฉพาะวันแรกในช่วงก่อนเทศกาล (4 เมษายน 2561) ตรวจความพร้อมของรถไปแล้วจำนวน 14,234 คัน พบรถมีข้อบกพร่องจำนวน 39 คัน  เป็นรถที่ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัย ดำเนินการพ่นห้ามใช้ทันที 5 คัน และสั่งให้เปลี่ยนทันทีอีก 2 คัน โดยให้ผู้ประกอบการนำรถคันใหม่มาเปลี่ยนทันที เพื่อให้บริการได้อย่างปลอดภัยไม่ส่งผลกระทบในการเดินทางของประชาชน สำหรับการตรวจความพร้อมของพนักงานขับรถ พบข้อบกพร่องจำนวน 5 ราย เป็นเรื่องการแต่งกายไม่ถูกต้องตามกฎกระทรวง และไม่บันทึกสมุดประจำรถ และอีก 2 ราย เป็นความผิดเกี่ยวกับการไม่พกพาใบอนุญาตขับรถ และมีระดับแอลกอฮอล์ในลมหายใจ ให้เปลี่ยนคนขับทันที พร้อมดำเนินการส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 


 

อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวเพิ่มเติมว่า การตรวจสอบความพร้อมของรถโดยสารสาธารณะและคนขับรถ      ทั่วประเทศ สถานีขนส่งผู้โดยสารและจุดจอดรถ รวม 212 แห่งดังกล่าว เน้นการตรวจรถโดยสารสาธารณะที่จอด สถานีขนส่งผู้โดยสาร สำหรับรถโดยสารไม่ประจำทาง(รถเช่าเหมา) กรมการขนส่งทางบก ตั้งจุดตรวจความพร้อมรถโดยสารและคนขับ จุดตรวจความพร้อม 16 จังหวัด 19 แห่งทั่วประเทศ กำชับทุกสำนักงานขนส่งจังหวัดทั่วประเทศ หากตรวจพบรถโดยสารสาธารณะคันใดมีสภาพไม่มั่นคงแข็งแรง อาจเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่การขนส่งดำเนินการพ้นข้อความห้ามใช้รถพร้อมให้ดำเนินการแก้ไขให้เรียบร้อยและนำรถเข้าตรวจสภาพก่อนนำกลับมาใช้ในการขนส่ง ด้านคนขับหากพบ ขับรถการใช้ความเร็ว มีชั่วโมงการทำงานเกินที่กฎหมายกำหนด ใช้สารเสพติด ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อ่อนเพลีย ดำเนินการเด็ดขาดเช่นเดียวกัน พร้อมสั่งห้ามปฏิบัติหน้าที่ นอกจากนี้ยังจัดหน่วยเคลื่อนที่ตรวจจับความเร็วรถโดยสารสาธารณะด้วยกล้องตรวจจับความเร็วด้วยแสงเลเซอร์ และเพิ่มประสิทธิภาพการควบคุมพฤติกรรมพนักงานขับรถผ่านระบบ GPS Tracking แบบออนไลน์ Real-time ผ่านศูนย์ GPS ส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ติดตามรถโดยสารสาธารณะ ตรวจสอบความเร็ว ชั่วโมงการทำงาน รู้พิกัด รู้จุดจอด ร้องเรียนพฤติกรรมเสี่ยงได้ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านแอพพลิเคชั่น “DLT GPS” ทางโทรศัพท์มือถือ อีกทั้งยัง เข้มข้นเฝ้าระวังกลุ่มมิจฉาชีพที่อาจแฝงตัวเข้ามาฉวยโอกาสหลอกลวงประชาชนที่สถานีขนส่งผู้โดยสาร รวมทั้งเพิ่มจุดจอดขึ้นลงรถอำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยการเดินทาง กรมการขนส่งทางบก จตุจักร ระหว่างวันที่ 10-12 เมษายน 2561 และวันที่ 16-19 เมษายน 2561 พร้อมประสานสหกรณ์แท็กซี่ให้จัดรถแท็กซี่ให้บริการประชาชนให้เพียงพอ ควบคุมการให้บริการ ห้ามเก็บค่าโดยสารเกิน หากประชาชนพบปัญหาจาการใช้บริการรถโดยสารสาธารณะ แจ้งสายด่วน โทร 1584 ตลอด 24 ชั่วโมง อธิบดีกรมการขนส่งทางบก   กล่าวในที่สุด 


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 07 เม.ย. 2561 เวลา : 10:14:13
30-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 30, 2024, 8:31 am