การตลาด
สกู๊ป 'เพาเวอร์บาย' เปิดเกมรุก 'ออมนิชาแนล' เอาใจลูกค้ายุคดิจิทัล


ปี 2560 ที่ผ่านมาถือเป็นปีที่ยากลำบากสำหรับผู้ประกอบการในธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าพอสมควร เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจยังอยู่ในภาวะชะลอตัว ขณะเดียวกันสภาพอากาศก็ไม่เป็นใจต่อการทำตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าหลายชิ้น  จึงทำให้ภาพรวมตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในปี 2560 ที่ผ่านมามีการขยายตัวติดลบ

 

 

จากปัญหาที่เกิดขึ้นดังกล่าว ส่งผลให้ผู้ประกอบการในธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าต้องหันมาปรับกลยุทธ์การทำตลาด เช่นเดียวกับกลุ่มผู้แทนจำหน่าย หรือดีลเลอร์  ที่ต้องหันมาทำการตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ควบคู่ไปกับช่องทางออฟไลน์มากขึ้น  เพื่อให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคในยุคปัจจุบันที่หันมาให้ความสนใจซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น 

ด้วยเหตุปัจจัยดังกล่าวบริษัท เพาเวอร์บาย จำกัด ผู้แทนจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้า สินค้าไอที เทคโนโลยี และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ของไทยในเครือบริษัท กลุ่มเซ็นทรัล  จึงเล็งเห็นโอกาสออกมาประกาศแผนเชิงรุกทำการตลาดในรูปแบบออมนิชาแนลมากขึ้น  

 

 

 

 

นายโลร็องต์  โปซ  กรรมการผู้จัดการใหญ่  บริษัท เพาเวอร์บาย จำกัด กล่าวว่า  ปัจจุบันบริษัทมีช่องทางการขายผ่านหน้าร้านเพาเวอร์บายเปิดให้บริการครอบคลุม 94 สาขาทั่วประเทศ และขายผ่านช่องทางออนไลน์ในเว็บไซต์ของเพาเวอร์บาย (www.powerbuy.co.th ) พื่อให้กลุ่มลูกค้าเป้าหมายมีทางเลือกในการซื้อสินค้ามากขึ้น ซึ่งการหันมาให้ความสำคัญกับกลยุทธ์ดังกล่าว  ถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ของบริษัทในการพัฒนาประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าผ่านช่องทางออมนิชาแนล 

อย่างไรก็ดี  เพื่อให้ลูกค้าของ เพาเวอร์บาย  เข้ามาซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ได้ง่ายขึ้น  ล่าสุดได้มีการเปิดตัวบริการช้อปออนไลน์ เพาเวอร์บาย คลิก แอนด์ คอลเล็ค (Power Buy Click & Collect)  ทำให้ลูกค้าสามารถซื้อและรับสินค้าได้ที่สาขาใกล้คุณ โดยไม่เสียค่าบริการใดๆ ซึ่งหลังจากเปิดตัวบริการดังกล่าวเพียงไม่นาน เพาเวอร์บาย คลิก แอนด์ คอลเล็ค ก็ได้รับความนิยมจากลูกค้าเป็นอย่างดี  เห็นได้จากสัดส่วนการเข้ามาใช้บริการที่มากถึง 25% จากลูกค้าที่เข้ามาช้อปออนไลน์ของเพาเวอร์บายทั้งหมด 

 

นายโลร็องต์  กล่าวต่อว่า การให้บริการในรูปแบบใหม่นี้จะทำให้ประสบการณ์ การซื้อสินค้าของลูกค้ามีความง่ายมากขึ้น  และรวดเร็วมากขึ้น  นอกจากนี้  ยังสามารถตอบโจทย์ดิจิทัลไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตในปัจจุบันของลูกค้าได้เป็นอย่างดี  เพราะเพียงแค่ลูกค้าเข้ามาดูสินค้าในเว็บไซต์ก็สามารถช้อปปิ้ง  และรับสินค้าในสาขาใกล้บ้านได้ทันที 

สำหรับภาพรวมการเติบโตของตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้า ไอที  มือถือ และแก็ดเจ็ตปี 2561 นี้  นายโลร็องต์  มองว่า น่าจะมีอัตราการเติบโตดีกว่าปีที่ผ่านมา  เนื่องจากกลุ่มสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้า ไอที มือถือ และแก็ดเจ็ต  มีการอัพเดทเทคโนโลยีใหม่ๆ ในราคาที่เป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้น  ขณะเดียวกันก็มีการพัฒนาฟังก์ชั่นการใช้งานที่เน้นตอบสนองความสะดวกสบายของลูกค้า ซึ่งปัจจัยดังกล่าวทำให้ เพาเวอร์บาย มียอดขายเติบโตเป็นที่น่าพอใจสวนกระแสภาพรวมตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ชะลอตัวมากตั้งแต่ปี 2560 ที่ผ่านมา โดยสินค้าที่มียอดขายสูงสุดในปี 2560 ที่ผ่านมา คือ  ทีวี  โทรศัพท์มือถือ  และเครื่องปรับอากาศ  

ทั้งนี้ จากการที่เดือน มี..-.. เป็นช่วงหน้าขายกลุ่มสินค้าเครื่องปรับอากาศ เพาเวอร์บาย จึงได้มีการนำสินค้านวัตกรรมใหม่อย่างเทคโนโลยี ระบบอินเวอร์เตอร์ ซึ่งเป็นเครื่องปรับอากาศที่มีประสิทธิภาพและช่วยประหยัดค่าไฟเข้ามาทำตลาดเพิ่มขึ้น  ขณะเดียวกันก็ได้มีการจัดโปรโมชั่น  เพื่อดึงดูดใจลูกค้าทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ คือ หน้าร้านเพาเวอร์บาย  โดยหวังกระตุ้นให้ลูกค้าหันมาเปลี่ยนเครื่องปรับอากาศเป็นระบบอินเวอร์เตอร์มากขึ้น 

 

ล่าสุด เพาเวอร์บาย  ได้มีการจัดแคมเปญ “Cooling Fair 2018 คูลโดนใจเป็นใครก็แฮปปี้ ท้าลมร้อนทะลุพิกัด ด้วยโปรโมชั่นเครื่องปรับอากาศ และโปร ช้อปฟิน กินฟรี คุ้มที่ 1 ช้อปฟิน กับแอร์แบรนด์ดังราคาพิเศษที่ร่วมรายการ อาทิ Mitsubishi, Daikin, LG, Panasonic, SHARP, Hitachi, Haier, TCL, เป็นต้น คุ้มที่ 2 รับบัตรรับประทานอาหารจากร้านในเครือเซ็นทรัล  มูลค่า 2,000 หรือ 4,000 บาท คุ้มที่ 3  ลดทันที 20% ผ่อน 0% นานสูงสุด 24 เดือน กับบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ พร้อมรับฟรีรางครอบท่อ มูลค่า 1,500 บาท ฟรีล้างแอร์ 2 ปี หรือเลือกรับบัตรของขวัญมูลค่า 900 บาทได้ทันที พบกับงาน “Cooling Fair 2018 คูลโดนใจเป็นใครก็แฮปปี้ที่เพาเวอร์บายทุกสาขา หรือช้อปออนไลน์ที่ www.powerbuy.co.th

อีกหนึ่งกลยุทธ์การตลาดที่ เพาเวอร์บาย จะให้ความสำคัญในปีนี้   คือ การรู้จักและเข้าใจความรู้สึกของลูกค้า (Customer Centricity) ในการเชื่อมโยงประสบการณ์ช้อปปิ้งทั้งออนไลน์และหน้าร้านได้อย่างไร้ขีดจำกัด โดยบริษัทมีเป้าหมายในการสร้างประสบการณ์ที่เหมาะกับชีวิตประจำวันและไลฟ์สไตล์ของลูกค้า รวมถึงสามารถนำเสนอและมอบบริการด้านการขายและหลังการขายที่สมบูรณ์แบบในประเทศไทย เช่น  บริการติดตั้งและส่งสินค้าฟรีไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ใดในประเทศ พร้อมรับประกันการติดตั้งสินค้านานถึง 180 วัน และบริการหลังการขายโดยทีมช่างมืออาชีพ ที่ได้รับการฝึกอบรมมาอย่างดี รวมถึงการปรับปรุงบริการจากข้อแนะนำจากลูกค้า และการควบคุมคุณภาพ ซึ่งทั้งหมดนี้นับเป็นกุญแจความสำเร็จของเพาเวอร์บายในการรักษาความเชื่อมั่นของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง

 

 

ส่วนแผนการขยายสาขาร้านเพาเวอร์บายในปีนี้  นายโลร็องต์   วางไว้ที่ประมาณ 10 แห่ง และปรับปรุงสาขาเก่าอีกกว่า 20 แห่ง  เพื่อให้ร้านมีความสวยงามและทันสมัยมากขึ้น  เนื่องจากแผนการดำเนินธุรกิจของ เพาเวอร์บาย ในปี 2561 จะ มุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจตามแนวนโยบายของกลุ่มเซ็นทรัลในการเป็นผู้นำด้านดิจิ-ไลฟ์สไตล์แพลตฟอร์ม (Digi-Lifestyle Platform) เพื่อมอบประสบการณ์การใช้ชีวิตที่เหนือกว่าและครองใจลูกค้าทุกเพศทุกวัยไปตลอด 

จากแนวทางการดำเนินธุรกิจดังกล่าว  เพาเวอร์บาย ได้เตรียมงบลงทุนรวมไว้กว่า 700 ล้านบาท  และจากแผนการตลาดดังกล่าว เพาเวอร์บาย มั่นใจว่าสิ้นปี 2561 นี้  จะสามารถผลักดันยอดขายตลอดทั้งปีให้มาอยู่ที่ 18,900 ล้านบาท  หรือคิดเป็นอัตราเติบโตที่ประมาณ 10% เมื่อเทียบกับปี 2560 ที่มียอดขายรวมอยู่ที่ประมาณ 17,145 ล้านบาท เติบโตเป็น 8%  ได้อย่างแน่นอน  ซึ่งในมูลค่าดังกล่าวจะเป็นยอดขายที่มาจากช่องทางออนไลน์ประมาณ  5% 

 

ขณะที่เพาเวอร์บายตั้งเป้ายอดขายว่าจะเติบโตสูงเป็นตัวเลข 2 หลัก ในส่วนของผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าเองปีนี้ยังคงร้อนๆหนาวๆ ต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา  เนื่องจากสภาพอากาศยังคงไม่เป็นใจให้ทำการตลาด  โดยเฉพาะหน้าร้อนปีนี้   ซึ่งเป็นหน้าขายของกลุ่มเครื่องปรับอากาศ  เพราะอยู่ๆฝนก็เกิดหลงฤดูทำให้เกิดสภาพอากาศหนาวเย็นตามมา  จากเดิมที่คาดการณ์ว่าภาพรวมตลาดเครื่องปรับอากาศจะพลิกฟื้นกลับมาเติบโต ตอนนี้เริ่มไม่มีความมั่นใจกันแล้ว


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 11 เม.ย. 2561 เวลา : 11:49:45
19-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 19, 2024, 8:38 pm