คุณภาพชีวิต
กรมสุขภาพจิต 'เตือน' ผู้ป่วยจิตเวช ที่ดื่มยาสมุนไพรบำรุงร่างกายแผนโบราณมีแอลกอฮอล์ผสม อาจทำอาการกำเริบ !


กรมสุขภาพจิตพบผู้ป่วยจิตเวชหลังรักษาจนหายทุเลาดีแล้ว  อาการกำเริบซ้ำถูกนำส่งห้องฉุกเฉิน เหตุจากดื่มเครื่องดื่มยาสมุนไพรแผนโบราณที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ เพราะเข้าใจผิดคิดว่าเป็นยาบำรุงกำลังธรรมดา         ที่จังหวัดนครพนมพบสัปดาห์ละ 1-2 คน   ชี้พิษของแอลกอฮอล์จะไปกระตุ้นสมอง ต้านกับฤทธิ์ยาที่แพทย์สั่ง  ทำให้นอนไม่หลับ หูแว่ว ประสาทหลอน  เร่งย้ำเตือนสร้างความเข้าใจผู้ป่วยและกำชับให้ญาติช่วยกันเฝ้าระวัง  หากจะใช้ต้องปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้ง

 

นาวาอากาศตรีนายแพทย์บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์  อธิบดีกรมสุขภาพจิตให้สัมภาษณ์ภายหลังตรวจเยี่ยมโรงพยาบาล(รพ.)จิตเวชนครพนมราชนครินทร์ .นครพนม เพื่อติดตามผลการดำเนินงานตามนโยบายว่า ในปีงบประมาณ 2561 กรมสุขภาพจิตมีนโยบายให้โรงพยาบาลจิตเวชทุกแห่ง พัฒนาระบบบริการผู้ป่วยและญาติ ทั้งทางด้านกายภาพ สถานที่ภายในและภายนอกอาคารสะอาด ร่มรื่น เป็นโรงพยาบาลสีเขียวที่เอื้อต่อการฟื้นฟูสภาพจิตใจ  มีบรรยากาศเป็นมิตร เพื่อให้ผู้ป่วยและญาติได้รับบริการอย่างมีเกียรติ มีคุณภาพมาตรฐาน     รู้สึกอบอุ่นปลอดภัยเหมือนอยู่บ้าน ผู้ป่วยได้รับการฟื้นฟูสมรรถภาพครบถ้วนทั้งกาย ใจ สังคม และจิตวิญญาณ    จนมีอาการดี สามารถใช้ชีวิตอย่างสมคุณค่า มีศักดิ์ศรี ไม่กลับมาป่วยซ้ำ  ซึ่งขณะนี้รพ.จิตเวชนครพนมฯมีผลดำเนินงานที่ก้าวหน้ามาก และได้รับคำชมจากประชาชนอย่างต่อเนื่อง โดยให้การดูแลผู้ป่วยวันละประมาณ 150 คน  ในจำนวนนี้เป็นผู้ป่วยจากสปป.ลาวร้อยละ 10

อย่างไรก็ตาม มีเรื่องที่น่าเป็นห่วง ได้รับรายงานจากผู้อำนวยการรพ.จิตเวชนครพนมฯว่าขณะนี้พบผู้ป่วยจิตเวชที่รักษาจนอาการหายดีหรือทุเลาที่แพทย์ให้กลับไปอยู่บ้านแล้ว  ญาติต้องนำกลับมารักษาที่ห้องฉุกเฉินซ้ำอีก เนื่องจากมีอาการกำเริบ เช่นประสาทหลอน หูแว่ว เอะอะ ก้าวร้าว เป็นต้น พบสัปดาห์ละ 1-2 คน และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น  สาเหตุเกิดมาจากผู้ป่วยดื่มยาบำรุงร่างกายแผนโบราณซึ่งฉลากระบุว่ามีสมุนไพรหลายชนิดเป็นส่วนผสม ทำให้ผู้ป่วยเข้าใจผิดว่าเป็นยาบำรุงร่างกายทั่วไป ดื่มแล้วทำให้ร่างกายแข็งแรง มีกำลังในการทำงานไม่เหนื่อย  จึงได้ให้โรงพยาบาลจิตเวชนครพนมฯ ประสานอสม.ที่ผ่านการอบรมเป็นอสม.เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตชุมชนจากกรมสุขภาพจิต          เร่งให้ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องแก่ผู้ป่วยจิตเวชและญาติรวมทั้งประชาชนในพื้นที่ด้วย

ทางด้านนายแพทย์กิตต์กวี  โพธิ์โน ผู้อำนวยการรพ.จิตเวชนครพนมราชนครินทร์กล่าวว่า ยาบำรุงร่างกายตามตำรับยาแผนโบราณเป็นภูมิปัญญาไทยที่ได้จากการนำแอลกอฮอล์หรือเหล้ามาหมักกับสมุนไพรเพื่อสกัดเป็นตัวยา           มีสรรพคุณตามฤทธิ์ของสมุนไพร เช่น บำรุงร่างกาย บำรุงกำลัง  บำรุงโลหิต ช่วยเจริญอาหาร แก้ปวดเมื่อยตามร่างกาย  โดยยาแผนโบราณที่ผู้ป่วยจิตเวชนำมาดื่มและทำให้มีอาการกำเริบนั้น  มีผลการตรวจของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ในปี2558 พบมีแอลกอฮอล์ผสมอยู่ในปริมาณที่สูงและไม่ได้แสดงปริมาณแอลกอฮอล์ไว้บนฉลากยาอย่างชัดเจน  ระบุแต่เพียงชื่อสมุนไพรเป็นส่วนประกอบ เช่นม้ากระทืบโรง กำลังเสือโคร่ง เป็นต้น เมื่อผู้ป่วยจิตเวชดื่มเข้าไปจึงเท่ากับดื่มแอลกอฮอล์หรือดื่มเหล้าเข้าไป  ฤทธิ์ของแอลกอฮอล์จะไปกระตุ้นสมองผู้ป่วยโดยตรง  มีผลต้านกับฤทธิ์ของยาที่แพทย์ใช้ในการควบคุมอาการ ทำให้การรักษาไม่ได้ผล แพทย์จึงห้ามผู้ป่วยโรคจิตเวชทุกโรคไม่ให้ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ผสมทุกชนิดรวมทั้งยาดองเหล้าสมุนไพร และสารเสพติดอื่นๆที่เป็นสารกระตุ้นสมอง โดยเฉพาะยาบ้า 

อย่างไรก็ดี หากผู้ป่วยจิตเวชต้องการจะใช้ยาสมุนไพรอื่นๆที่ไม่ได้รับการสั่งจ่ายโดยแพทย์หรือแพทย์แผนไทยหรือซื้อมากินเอง  ก่อนกินยาร่วมกับยาแผนปัจจุบัน  ขอให้ปรึกษาแพทย์เจ้าของไข้หรือแพทย์แผนไทยที่โรงพยาบาลก่อนทุกครั้ง เพื่อความปลอดภัย และยาไม่ตีกัน ซึ่งจะทำให้การรักษาของแพทย์ได้ผลต่อเนื่อง  ” นายแพทย์กิตต์กวีกล่าว    

จึงขอให้ญาติและประชาชนที่อยู่รอบข้าง ช่วยกันเฝ้าระวัง  ดูแลผู้ป่วยจิตเวชอย่างใกล้ชิด  พร้อมทั้งให้สังเกตอาการของผู้ป่วย ซึ่งจะมีสัญญาณเตือนว่ามีอาการกำเริบแล้วคือผู้ป่วยจะนอนไม่หลับ หงุดหงิด  มีพฤติกรรมก้าวร้าว ฉุนเฉียวง่าย มีความคิดแปลกๆ หวาดกลัว   หากพบว่ามีอาการใดอาการหนึ่ง ขอให้รีบพาไปพบแพทย์หรือโทรปรึกษาสายด่วนสุขภาพจิต 1323ตลอด 24 ชั่วโมง


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 19 เม.ย. 2561 เวลา : 11:17:04
26-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 26, 2024, 4:01 pm