ข่าวประชาสัมพันธ์
กสิกรไทยจับมือโพสต์ทูเดย์ จัดงานจับคู่ธุรกิจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปี ชูเอสเอ็มอีรุกตลาดทั้งในและต่างประเทศ


กสิกรไทยร่วมกับโพสต์ทูเดย์ จัดงาน SME Matching Day 2018 งานจับคู่ธุรกิจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดกลับมาอีกครั้งในปีนี้ภายใต้ธีมมหกรรมจับคู่ธุรกิจสู่ตลาดไทย-อินเตอร์วันที่ 2-3สิงหาคมนี้ ขนทัพช่องทางจัดจำหน่ายทั้งไทยและต่างประเทศรวม 20 ช่องทางยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปี รวมพลังเพื่อสร้างโอกาสให้เอสเอ็มอีไทยเติบโต สนใจสมัครได้ที่ www.ksmematching.comตั้งแต่วันนี้ถึง 10 มิถุนายน 61 คาดว่าจะมีผู้ประกอบการสนใจสมัครร่วมงาน 1,000 ราย 

นายสุรัตน์ ลีลาทวีวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ปัจจุบันเทรนด์ธุรกิจ อีคอมเมิร์ชกำลังเติบโต สามารถช่วยเอสเอ็มอีขายสินค้าผ่านทางออนไลน์ได้ แต่การนำสินค้าเข้าไปจำหน่ายผ่านช่องทางจัดจำหน่ายขนาดใหญ่ หรือช่องทางออนไลน์ชื่อดัง จะช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงผู้บริโภคในวงกว้างมากขึ้น ดังนั้นการจับคู่ธุรกิจที่มีศักยภาพจึงเป็นโอกาสที่ดีในการขยายตลาดสำหรับเอสเอ็มอี

 

ธนาคารกสิกรไทยจึงร่วมกับบริษัท บางกอกโพสต์ จำกัด (มหาชนจัดงาน SME Matching Day 2018 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 ซึ่งในแต่ละปีที่ผ่านมา มีเอสเอ็มอีสมัครเข้าร่วมงานเพิ่มขึ้นปีละ 20% โดยปัญหาที่เอสเอ็มอี ไม่ผ่านการคัดเลือกจากช่องทาง 4 อันดับแรก คือ บรรจุภัณฑ์และฉลาก  สินค้าไม่ตรงกลุ่มลูกค้าของช่องทาง การตั้งราคาที่สูงเกินไป และมาตรฐานผลิตภัณฑ์ ซึ่งปัญหาดังกล่าวเกิดจากสาเหตุ คือ ไม่มีการศึกษาข้อมูลและกลุ่มลูกค้าของช่องทางที่จะเข้าจำหน่ายว่าเหมาะกับสินค้าตนเองหรือไม่ รวมถึงเอสเอ็มอีมีต้นทุนที่สูง จึงไม่สามารถตั้งราคาขายที่สามารถแข่งขันได้

สำหรับในปีนี้งาน SME Matching Day 2018 จะจัดขึ้นในวันที่ 2 และ 3 สิงหาคม 2561 ห้องบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ ชั้น 22 โรงแรมเซนทาราแกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ เพื่อให้ผู้ประกอบการได้พบปะเจรจาธุรกิจกับช่องทางการจัดจำหน่ายชั้นนำทั้งในประเทศและต่างประเทศมากถึง 20 ช่องทาง พร้อมการสัมมนาให้ความรู้ ให้คำปรึกษาการจัดการธุรกิจจากหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน โดยวันที่ 2 สิงหาคม 2561 เป็นการจับคู่ธุรกิจกับช่องทางในประเทศ 14 ช่องทาง ประกอบด้วย ช่องทางค้าปลีก-ค้าส่ง เช่น ซี.เจ.เอ็กซ์เพรส กรุ๊ปเอฟเอ็น แฟคทอรี่ เอ้าท์เลทแม็คโครสพาร์เล้งเส็ง ซูเปอร์สโตร์เดอะมอลล์ กรุ๊ป จิฟฟี่แม็กซ์มาร์ท,และท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต ช่องทางออนไลน์ในประเทศ เช่น ลาซาด้าแม็คโครคลิกทีวีไดเร็ค ออนไลน์ช้อปปิ้ง และทเวนตี้โฟร์ ช้อปปิ้ง และกลุ่มช่องทางตัวแทนจำหน่าย เช่น สหพัฒน์

นายอนันต์ ลาภสุขสถิต รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ปัจจุบันเทรนด์การค้าระหว่างประเทศได้พัฒนาไปสู่ยุคดิจิทัล โดยในวันนี้ผู้บริโภคมากกว่า 100 ล้านคนในกลุ่มประเทศ AEC+ สามารถเข้าถึงอินเทอร์เนตและทำธุรกรรมออนไลน์ได้ เพื่อตอบสนองความต้องการและพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป การค้าระหว่างประเทศจึงไม่ได้จำกัดอยู่ในรูปแบบเดิมๆ ที่ต้องผ่านตัวกลาง ผ่านการค้าชายแดนอีกต่อไป จากนี้ไปธุรกิจสามารถขับเคลื่อนผ่านอีคอมเมิร์ชและรูปแบบออนไลน์ได้อีกด้วย

 

นอกจากแนวโน้มการดำเนินธุรกิจการค้าเปลี่ยนผ่านเข้าสู่โลกออนไลน์แล้ว ไลฟ์สไตล์ของผู้คนก็เข้าสู่โลกแห่งสังคมเมืองมากขึ้น โดยเฉพาะประเทศในกลุ่ม CLMVI ซึ่งมีการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงกว่า 6% ทำให้กลุ่มประเทศเหล่านี้เปลี่ยนสถานะเป็นประเทศที่มีรายได้ปานกลาง มีการเข้าถึงโมบายอินเทอร์เน็ต (Mobile Internet Penetration) สูงกว่า102% (ข้อมูลจากWeAreSocial, 2018) และการขยายตัวสู่สังคมเมืองอย่างรวดเร็ว ทำให้ความต้องการสินค้าที่ตอบโจทย์สังคมเมืองได้รับความนิยมมากขึ้น โดยเฉพาะสินค้าที่มาจากประเทศไทย ซึ่งธนาคารกสิกรไทยเห็นโอกาสอันดีที่จะส่งเสริมและผลักดันลูกค้าเอสเอ็มอีของไทยให้ก้าวไกลสู่ตลาดระดับภูมิภาค

สำหรับวันที่ 3 สิงหาคม 2561 เป็นการจับคู่ธุรกิจกับช่องทางออนไลน์ต่างประเทศ 6 ช่องทาง ประกอบด้วย shop.com.mm อีคอมเมิร์ช อันดับ 1 ในเมียนมา  tiki.vn หนึ่งในอีคอมเมิร์ชของเวียดนามที่เติบโตเร็ว  SFBest.com กลุ่มโลจิสติกล์อันดับ 1 ของจีน  VIP.com เจ้าใหญ่เป็นอันดับ 3 ในจีน eBay.com อีคอมเมิร์ชระดับโลกจากสหรัฐอเมริกาที่มีลูกค้าอยู่ทั่วโลกGoSoKo.com จากกลุ่มประเทศแอฟริกาตะวันตก ซึ่งช่องทางเหล่านี้จะทำให้เอสเอ็มอีของไทยสามารถเข้าถึงผู้บริโภคผ่านอีคอมเมิร์ชดังกล่าวได้กว่า 500 ล้านคน โดยมีมูลค่าการซื้อขายในปี 2560 ที่ผ่านมา รวมกันกว่า 1.76 แสนล้านดอลล่าร์สหรัฐ ขณะที่ตลาดอีคอมเมิร์ชไทยเองมีมูลค่าเพียง  2.9 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐ จึงเป็นโอกาสที่เอสเอ็มอีไม่ควรพลาด

นายโชคดี วิศาลสิงห์ หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายปฏิบัติการธุรกิจหนังสือพิมพ์ ดิจิตอลมีเดีย และนิตยสาร บริษัท บางกอก โพสต์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า นอกจาการจับคู่ธุรกิจแล้ว ในงานนี้ยังมีหัวข้อสัมมนาที่เป็นประโยชน์กับผู้ประกอบการในการทำธุรกิจ ทั้งเรื่องของอีคอมเมิร์ชที่มีบทบาทมากในยุคปัจจุบัน เรื่องทรัพย์สินทางปัญญาที่ เอสเอ็มอีต้องให้ความสำคัญในยุคของการทำธุรกิจที่ต้องใช้นวัตกรรม พร้อมทั้งยังมีความรู้เรื่องตลาดอินเดียที่ถือเป็นตลาดใหญ่และตลาดใหม่ในการเพิ่มโอกาสทางการค้าอีกด้วย นอกจากนี้ ภายในงานยังมีโอกาสพูดคุยกับเจ้าของธุรกิจที่นำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยปรับเปลี่ยนทำให้ธุรกิจเติบโตอย่างก้าวกระโดด และพิเศษมากที่สุดในปีนี้ สำหรับผู้ประกอบการที่ยังไม่พร้อมในการร่วมกิจกรรมจับคู่ธุรกิจในปีนี้ สามารถรับชมการ Live สดผ่านเฟสบุค posttoday Fanpage เพื่อสอบถามและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับช่องทางต่างๆ ทั้งกลุ่มค้าส่ง-ค้าปลีก กลุ่มออนไลน์ และตัวแทนจำหน่าย ซึ่งจะเป็นข้อมูลเบื้องต้นในการเตรียมตัวเข้าร่วมงานในปีต่อๆไป

ทั้งนี้ ผู้ประกอบการที่สนใจเข้าร่วมจับคู่ธุรกิจในงาน SME Matching Day สามารถสมัครและลงทะเบียนได้ที่ www.ksmematching.com ตั้งแต่วันนี้ถึง 10 มิถุนายน 2561 และในปีนี้คาดว่าจะมีผู้ประกอบการสมัครเข้าร่วมกิจกรรมจับคู่ธุรกิจประมาณ 1,000 ราย


LastUpdate 16/05/2561 15:27:17 โดย : Admin
28-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 28, 2024, 5:40 am