แบงก์-นอนแบงก์
กสิกรไทย จับมือไมเนอร์ ฟู้ด รุกสินเชื่อแฟรนไชส์อาหารและไอศกรีม เอาใจผู้สนใจเปิดร้านวันนี้ 3 เดือนฟรี ไม่ต้องผ่อน


กสิกรไทย จับมือไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป เจ้าของแฟรนไชส์ร้านอาหารยอดนิยมของไทย หนุนสินเชื่อเพื่อธุรกิจแฟรนไชส์ เปิดร้านเดอะ พิซซ่า คอมปะนี สเวนเซ่นส์ และแดรี่ควีน ตอบรับการขยายตัวธุรกิจอาหารและไอศกรีม พิเศษสำหรับผู้ลงทุนเปิดร้านทั้ง 3 แบรนด์ สมัครสินเชื่อวันนี้ - 31 ..61ไม่ต้องผ่อนนาน 3 เดือน ตั้งเป้าปล่อยกู้ 350 ล้านบาท

 

 

นายสุรัตน์ ลีลาทวีวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ธุรกิจแฟรนไชส์เติบโตมาตลอด โดยในปี 60 ตลาดแฟรนไชส์มีมูลค่าสูงถึง 200,000 ล้านบาท โดยคาดว่าจะเติบโตได้ถึง 230,000 ล้านบาทในปี 61 หรือคิดเป็นร้อยละ 15 ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรงในปัจจุบัน โดย 3 อันดับแฟรนไชส์ที่มีอัตราการเติบโตสูงที่สุด ได้แก่ 1) อาหาร 2) เครื่องดื่มและไอศกรีม 3) เบเกอรี่ ซึ่งมีปัจจัยการเติบโตมาจากการขยายตัวของห้างสรรพสินค้าหรือปั๊มน้ำมัน ที่มักใช้ร้านดังๆเป็นแม่เหล็กในการดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการ พฤติกรรมการชอบกินข้าวนอกบ้านของลูกค้าที่เป็นครอบครัว ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อ และการเติบโตของธุรกิจดิลิเวอรี  โดยเฉพาะวัยรุ่นหรือคนโสด มักเป็นกลุ่มที่มีความคุ้นเคยกับการสั่งอาหารออนไลน์

ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป ถือว่าเป็นแบรนด์ที่แข็งแกร่งและเป็นที่รู้จัก จัดอยู่ในกลุ่มธุรกิจแฟรนไชส์ที่มีการเติบโตสูง และเป็นพันธมิตรสำคัญที่ธนาคารตอบโจทย์ครบทุกความต้องการของธุรกิจ (Total Business Solution) ได้แก่

1.การสนับสนุนสินเชื่อเพื่อธุรกิจแฟรนไชส์ สำหรับผู้สนใจเป็นเจ้าของร้านเดอะ พิซซ่า คอมปะนี ร้านไอศกรีมสเวนเซ่นส์ และร้านไอศกรีมแดรี่ควีน เพื่อใช้ลงทุนเปิดสาขาใหม่ ขยายสาขา หรือปรับปรุงสาขา รวมถึงการลงทุนเครื่องมือหรืออุปกรณ์ใหม่ๆ ด้วยวงเงินสินเชื่อ 80% ของมูลค่าการลงทุน ไม่ต้องใช้หลักประกัน อัตราดอกเบี้ยพิเศษปีที่ 1-2 อัตราดอกเบี้ย MRR-2 ปีที่ 3จนถึงครบสัญญา อัตราดอกเบี้ย MRR-1.5% และพิเศษเฉพาะไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป ธนาคารได้ช่วยลดภาระทางการเงินและเสริมสภาพคล่องสำหรับผู้สนใจลงทุนเปิดร้านทั้ง 3 แบรนด์ สมัครสินเชื่อตั้งแต่วันนี้ - 31 ..61 ไม่ต้องผ่อนชำระทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยนาน 3 เดือน

2.การจับคู่ลูกค้าที่มีคุณสมบัติเหมาะสม โดยเฉพาะลูกค้าที่มีเงินลงทุนพร้อม แต่ยังไม่มีประสบการณ์หรือความรู้ในการทำธุรกิจ ธนาคารจึงเป็นตัวกลางในการหาลูกค้าที่มีศักยภาพให้มีโอกาสมาเจอกับไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป

3.การหาทำเลที่เหมาะสม ธนาคารร่วมกับพันธมิตรที่เป็น Landlord สำคัญ ในการหาทำเลเช่าเปิดร้านที่เหมาะสมให้กับผู้สนใจลงทุนกับไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป

นายสุรัตน์ กล่าวในตอนท้ายว่า ปัจจุบันธนาคารฯ มียอดสินเชื่อแฟรนไชส์คงค้าง 2,441 ล้านบาท ตั้งเป้าหมายเติบโต 5%  โดย 3 ธุรกิจที่มียอดสินเชื่อแฟรนไชส์มากที่สุดของธนาคาร ได้แก่ ธุรกิจค้าปลีก ธุรกิจอาหาร และธุรกิจเครื่องดื่ม โดยไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป เป็นแฟรนไชส์กลุ่มธุรกิจอาหารที่มีสัดส่วนมากที่สุดของธนาคาร โดยมียอดสินเชื่อคงค้าง เดือนมีนาคม 61 อยู่ที่ 438 ล้านบาทและธนาคารตั้งเป้าปล่อยกู้ในปีนี้ให้กับไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป 350 ล้านบาท


          ด้านนางกัญญา เรืองประทีปแสง ประธานฝ่ายการเงิน บริษัท เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชนเปิดเผยว่า  บริษัท เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชนประกอบธุรกิจร้านเดอะ พิซซ่า คอมปะนี  ร้านไอศกรีมสเวนเซ่นส์  และร้านไอศกรีมแดรี่ควีน เป็นธุรกิจแฟรนไชส์ร้านอาหารแบรนด์ชั้นนำในประเทศไทยที่มีรากฐานมายาวนานทั้งตราสินค้า และรูปแบบที่เป็นสากล  สินค้าเป็นที่นิยมและชื่นชอบของประชาชนทั่วประเทศ ทำให้ผลตอบแทนค่อนข้างสูง และสามารถคืนทุนได้ภายใน 5 ปี นอกจากนี้ยังมีระบบการบริหารจัดการธุรกิจที่สร้างความสำเร็จให้กับผู้ประกอบการ ทั้งในด้านการสร้างยอดขาย การรักษามาตรฐานผลิตภัณฑ์ และการให้บริการที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน

          สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจร่วมธุรกิจแฟรนไชส์ร้านเดอะ พิซซ่า คอมปะนี  ร้านไอศกรีมสเวนเซ่นส์  และร้านไอศกรีมแดรี่ควีน จะต้องมีคุณสมบัติประกอบด้วย 1.มีเงินคงเหลือในบัญชีเพียงพอ 2.มีที่พักอาศัยอยู่ภายในพื้นที่ประกอบกิจการ 3.ดำเนินธุรกิจด้วยตนเอง 4.ไม่ประกอบธุรกิจร้านอาหารอื่น ยกเว้นเป็นผู้ประกอบการเดิมของไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป 5.มีความเข้าใจในตลาดและกลุ่มลูกค้าในพื้นที่ 6.มีความสัมพันธ์ที่ดีกับหน่วยงานสำคัญ ในพื้นที่

          นางกัญญา กล่าวเพิ่มเติมว่า กลยุทธ์หลักในครึ่งปีหลังของร้านเดอะ พิซซ่า คอมปะนี จะเน้นเรื่องความสดใหม่ของพิซซ่าและพาสต้า และราคาที่คุ้มค่าตลอดทั้งปี พร้อมตั้งเป้าจะเปิดสาขาให้ได้100 สาขาทั่วประเทศในปีนี้ โดยจะแบ่งเป็นธุรกิจแฟรนไชส์จำนวน 50 สาขา ร้านไอศกรีมสเวนเซ่นส์จะเน้นการสร้างแบรนด์ผ่านรูปแบบร้านที่ทันสมัย ด้วยการปรับปรุงร้านเดิม เน้นความสนุกสนาน สีสันโดดเด่น ส่งเสริมบรรยากาศการทานไอศกรีม รวมทั้งการพัฒนาอุปกรณ์และเครื่องมือต่างๆ เพื่อรักษาคุณภาพของไอศกรีม เน้นการเพิ่มจำนวนลูกค้า ทั้งจากลูกค้าเดิมด้วยการเพิ่มความถี่ และการยึดครองความเป็นเจ้าตลาดบิงซูที่จะมีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เชื่อมั่นว่าจะสร้างกระแสและเข้าถึงลูกค้าทุกกลุ่มได้ นอกจากนี้ยังเน้นการสร้างความสัมพันธ์อันดีกับกลุ่มลูกค้า ครอบครัว และเด็กๆ ให้เห็นว่าสเวนเซ่นส์เป็นร้านที่เต็มไปด้วยความสุขในทุกเทศกาล และมีการพัฒนาระบบการสร้าง Brand loyalty ด้วยการใช้เทคโนโลยีเข้ามาอัพเกรดระบบ ทำการสื่อสารการตลาดด้วยช่องทางที่ทันสมัยเหล่านี้ เพื่อตอบโจทย์ทุกกลุ่มเป้าหมาย

สำหรับร้านไอศกรีมแดรี่ควีน มีกลยุทธ์หลักคือ 1. สร้างความแข็งแกร่งในฐานธุรกิจลูกค้ากลุ่มเดิมด้วย สินค้าใหม่ที่โดนใจคนไทย 2.ขยายธุรกิจไปยังช่องทางใหม่ๆ ที่ลูกค้าเข้าถึงได้ง่ายกว่าเดิม 3.สร้างความแข็งแกร่งให้กับเครือข่ายผู้ประกอบการธุรกิจแฟรนไชส์ ด้วยการเพิ่มความรู้ความสามารถในการทำธุรกิจที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง

ความร่วมมือกันในวันนี้ ถือเป็นการสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับผู้สนใจหรือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่อยากมีธุรกิจเพิ่มขึ้น ด้วยความเสี่ยงที่ต่ำ และยังมีโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น และด้วยบริการทางการเงินของธนาคารกสิกรไทย เชื่อมั่นว่าจะช่วยผู้ประกอบการในการแบ่งเบาเงินลงทุน และภาระดอกเบี้ยได้เป็นอย่างดี


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 13 มิ.ย. 2561 เวลา : 11:39:04
26-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 26, 2024, 7:09 am