แฟชั่น-เดินทาง-กินดื่ม-เที่ยว
'เอส แอนด์ พี' ยัน ผลิตภัณฑ์และเบเกอรี่ ภายใต้แบรนด์ S&P 'ไม่มีไขมันทรานส์'


นายกำธร ศิลาอ่อน กรรมการผู้จัดการใหญ่สายการผลิตและการเงิน บริษัท เอส แอนด์ พี ซินดิเคท จำกัด (มหาชน)  เปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์และเบเกอรี่ของ S&P รวมถึงวัตถุดิบที่นำมาผลิต ไม่มีส่วนประกอบของน้ำมันที่ผ่านกระบวนการเติมไฮโดรเจนบางส่วน ซึ่งเป็นแหล่งของไขมันทรานส์ โดยที่ผ่านมาได้ระบุข้อมูลโภชนาการอย่างชัดเจนบนฉลากผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นของ S&P ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของภาครัฐ

 

 


คลิกชมคลิป

 

โดยตั้งแต่ปี 2549 ที่องค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกากำหนดให้ไขมันทรานส์ต้องติดอยู่ในฉลากที่แสดงโภชนาการที่คนทั่วไปสามารถเห็นได้ เพื่อทำการควบคุมปริมาณไขมันทรานส์ 0 กรัม ต่อ 1 เสริฟ์ ทางเอสแอนด์พีได้ปรับสูตรการผลิตและสายการผลิตกลุ่มสินค้าเบเกอรี่ และหารือกับคู่ค้าให้เลิกใช้ไขมันทรานส์ในวัตถุดิบแต่ละชนิด และมีหลักฐานยืนยันจากคู่ค้าทุกราย พร้อมกับทำการตรวจสอบวัตถุดิบจากคู่ค้ามาอย่างต่อเนื่อง

 


 

เอสแอนด์พี ได้ตระหนักถึงผลกระทบจากการบริโภคไขมันทรานส์และเพื่อสุขภาพที่ดีของผู้บริโภค หลังหารือและขอความร่วมมือคู่ค้าให้เลิกใช้ไขมันทรานส์ในวัตถุดิบแต่ละชนิด เราได้ส่งไปวิเคราะห์เพื่อให้เราและผู้บริโภคมั่นใจได้ว่า ผลิตภัณฑ์ของเอสแอนด์พีทุกรายการ ไขมันทรานส์ เป็น 0 กรัมต่อ 1 เสิร์ฟ นั่นหมายถึง ไม่มีส่วนประกอบของไขมันทรานส์นายกำธรระบุ

 


 

คลิกชมคลิป

 

ฉะนั้นลูกค้าผู้บริโภคมั่นใจได้ในผลิตภัณฑ์และเบเกอรี่ของ S&P ไม่มีส่วนประกอบของน้ำมันที่ผ่านกระบวนการเติมไฮโดรเจนบางส่วน ซึ่งเป็นแหล่งสำคัญของไขมันทรานส์

 


 

นอกจากนี้  นายกำธรยังกล่าวยืนยันว่าประกาศของกระทรวงสาธารณสุขดังกล่าว จะไม่มีผลต่อราคาผลิตภัณฑ์และเบเกอรี่ของ S&P เรายังจำหน่ายในราคาเดิม เพราะบริษัทได้ปรับสูตรการผลิตและสายการผลิตมาระยะหนึ่งแล้ว

 


 

 

 

ต่อกรณีดังกล่าว ไม่เพียงเฉพาะบริษัท S&P เท่านั้น ที่ออกมายืนยันผลิตภัณฑ์และเบเกอรี่ของตน ไม่มีไขมันทรานส์ ก่อนหน้าก็มีบริษัทผลิตอาหารและเบเกอรี่รายใหญ่อื่นๆ อาทิ เทสโก้ โลตัส และ เคเอฟซี ก็ออกมายืนยันว่าผลิตภัณฑ์ของบริษัทไม่มีไขมันทรานส์เช่นกัน โดยความตื่นตัวนี้เกิดขึ้นหลังจากที่กระทรวงสาธารณสุข ออกประกาศเลขที่ ๓๘๘ .. ๒๕๖๑ เรื่องกำหนดอาหารที่ห้ามผลิต นำเข้า หรือจำหน่าย กรดไขมันทรานส์ (Trans Fatty Acids) จากน้ำมันที่ผ่านการเติมไฮโดรเจนบางส่วน (Partially Hydrogenated Oils) เพราะจะส่งผลต่อการเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด โดยประเด็นดังกล่าวกำลังเป็นที่สนใจของสังคมไทย

 


 

 

หลายคนอาจสงสัยไขมันทรานส์ คืออะไร

กรดไขมันทรานส์ มักพบได้ในอาหารและขนม เช่น เบเกอรี่ หรือ โดนัท ที่ใช้เนยขาว เนยเทียม ครีมเทียม หรือมาการีน เป็นส่วนผสม และเมื่อเข้าสู่ร่างกาย จะเพิ่มระดับไขมันเลว (LDL) และลดไขมันดี (HDL) ในเส้นเลือด ซึ่งนำไปสู่โรคหลอดเลือด โรคหัวใจ รวมถึงโรคเบาหวานอีกด้วย

 

 

กรดไขมันทรานส์ ถูกคิดค้นขึ้นเมื่อช่วงปลายศตวรรษที่ผ่านมา โดยการเปลี่ยนโครงสร้างโมเลกุลของน้ำมันพืช เพื่อทำให้น้ำมันพืชสามารถคงสภาพแข็งตัวหรือกึ่งแข็งกึ่งเหลว และมีอายุเก็บไว้ได้นานกว่าเดิม ถึงแม้จะช่วยให้อุตสาหกรรมอาหารลดต้นทุนในการผลิต และเคยถูกมองว่าเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าไขมันธรรมชาติ แต่จากการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ได้ยืนยันแล้วว่าเป็นภัยต่อสุขภาพ

 


 

 

โดยข้อมูลของวิกิพีเดีย ระบุว่า การบริโภคอาหารที่มีกรดไขมันทรานส์มาก จะเป็นส่งเสริมการทำงานของเอนไซม์ Cholesterol Acyltranferase ซึ่งเป็นเอนไซม์สำคัญในการเมตาบอลิซึมของคอเลสเตอรอล ทำให้ระดับ LDL (Low Density Lipoprotein) ซึ่งเป็นคอเลสเตอรอลชนิดเลวในเลือดเพิ่มขึ้น และลดระดับ HDL (High Density Lipoprotein) ซึ่งเป็นคอเลสเตอรอลชนิดดีในเลือด และเนื่องจากไขมันทรานส์เป็นไขมันที่เกิดจากการแปรรูป ซึ่งย่อยสลายได้ยากกว่าไขมันชนิดอื่น ทำให้ตับต้องสลายไขมันทรานส์ด้วยวิธีการที่แตกต่างไปจากการย่อยสลายไขมันตัวอื่น จึงอาจก่อให้เกิดสภาวะที่ผิดปกติกับร่างกาย คือ น้ำหนักและไขมันส่วนเกินเพิ่มมากขึ้น มีภาวะการทำงานของตับที่ผิดปกติ มีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจขาดเลือด โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ โรคไขมันอุดตันในเส้นเลือด


LastUpdate 19/07/2561 19:59:17 โดย : Admin
24-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 24, 2024, 2:33 am