สร้างความสั่นสะเทือนให้กับวงการอาหารพอสมควรสำหรับราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เลขที่ 388 พ.ศ. 2561 เรื่องกำหนดอาหารที่ห้ามผลิต นำเข้า หรือจำหน่าย โดยปรากฏหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ชัดเจนว่า กรดไขมันทรานส์ (Trans Fatty Acids) จากน้ำมันที่ผ่านกระบวนการเติมไฮโดรเจนบางส่วน (Partially Hydrogenated Oils) ส่งผลเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 5 วรรคหนึ่ง และมาตรา 6 (8) แห่งพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ.2522 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ให้น้ำมันที่ผ่านกระบวนการเติมไฮโดรเจนบางส่วนและอาหารที่มีน้ำมันที่ผ่านกระบวนการเติมไฮโดรเจนบางส่วนเป็นส่วนประกอบ เป็นอาหารที่ห้ามผลิต น้ำเข้า หรือจำหน่าย
ข้อ 2 ประกาศฉบับนี้ ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดหนึ่งร้อยแปดสิบวัน นับแต่วันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป
จากประกาศดังกล่าวส่งผลให้ผู้ประกอบการในธุรกิจอาหารที่เข้าข่ายการใช้ไขมันทรานส์ต่างตบเท้ากันออกมาปฏิเสธการใช้ไขมันทรานส์เป็นส่วนประกอบในการผลิตอาหารไม่ว่าจะเป็น เบเกอรี่ ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ด หรือผู้ประกอบการครีมเทียม
น.ส.สลิลลา สีหพันธุ์ ประธานกรรมการฝ่ายกิจการบรรษัท เทสโก้ โลตัส กล่าวว่า หลังจาก เทสโก้ โลตัส ได้ปรับสูตรเบเกอรี่แบรนด์เทสโก้ทุกรายการให้ปราศจากไขมันทรานส์ เพื่อเป็นทางเลือกสุขภาพให้กับผู้บริโภคตั้งแต่เดือนพ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งก็ได้ผลการตอบรับที่ดีมากจากลูกค้า และเป็นที่มาของการพัฒนาผลิตภัณฑ์เบเกอรี่ปราศจากไขมันทรานส์กว่า 25 รายการ บรรจุแพ็คละ 1 ชิ้น (single serve) สะดวกต่อการรับประทานโดยทันที ราคา 7-35 บาท จำหน่ายในเทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรส กว่า 1,500 สาขาทั่วประเทศแล้ว เพื่อรองรับวิถีชีวิตที่เร่งรีบของผู้คนในปัจจุบันที่ต้องการความสะดวกสบาย
ขณะเดียวกัน น.ส.สุรีย์ ชูรัฐเจริญ รองผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กรกลุ่มบริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ห้างค้าปลีกในกลุ่มบีเจซี กล่าวว่า บริษัทคำนึงถึงสุขภาพผู้บริโภคมาเป็นอับดับหนึ่ง สำหรับสินค้าบริโภคแผนกเบเกอรี่ของบิ๊กซี จะมีทั้งผลิตเอง และเป็นสินค้าสำเร็จรูปมาวางจำหน่าย โดยการทำงานของบิ๊กซีจะควบกับคู่ค้าทุกขั้นตอนการผลิตตั้งแต่ต้น จนถึงวางจำหน่าย เพื่อให้มั่นใจว่าวัตถุดิบและ เบเกอรี่สำเร็จรูปที่ส่งมาไม่มีไขมันทรานส์รวมทั้งคำนึงถึงรสชาติและความปลอดภัยเพื่อให้ลูกค้าได้เลือกสรรอย่างมั่นใจ เช่น ครัวซองค์ซึ่งเป็นสูตรพิเศษมีจำหน่ายที่เดียวของบิ๊กซี , เค้กกล้วยหอม, กลุ่มพาย, ขนมปังแซนวิสแผ่น และแยม โดยสินค้ากลุ่มนี้ราคาเริ่มต้นชิ้นละ 6 บาท
ด้าน นายนภดล ศิวะบุตร ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายองค์กรสัมพันธ์ บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจครีมเทียมภายใต้แบรนด์ เนสท์เล่ คอฟฟีเมต กล่าวว่า บริษัทขอยืนยันว่าทุกผลิตภัณฑ์ ภายใต้การผลิตนำเข้า และจัดจำหน่ายของเนสท์เล่ในประเทศไทย ไม่เข้าข่ายและไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขดังกล่าว จึงขอให้ผู้บริโภคมั่นใจได้ว่าไม่มีการใช้น้ำมันที่ผ่านกระบวนการเติมไฮโดรเจนบางส่วนในผลิตภัณฑ์ของเนสท์เล่ เช่นเดียวกับ บริษัท มอนเดลีซ อินเตอร์เนชันแนล (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจคุ้กกี้โอรีโอ คุ้กกี้ชิพส์อะฮอย แคร็กเกอร์ริทส์ ช็อกโกแลตแคดเบอรี ช็อกโกแลตทอปเบอโรน และชีส ที่ออกมาเปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์บิสกิต และช็อคโกแลตของบริษัท ที่จำหน่ายในประเทศไทย อันได้แก่ คุกกี้โอรีโอ คุกกี้ลู คุกกี้ชิพส์อะฮอย แครกเกอร์ริทซ์ ช็อคโกแลตแคดเบอรี และช็อคโกแลตทอปเบอโรน ไม่มีส่วนผสมของน้ำมันที่ผ่านกระบวนการเติมไฮโดรเจนบางส่วน และเป็นไปตามข้อบังคับของประกาศกระทรวงดังกล่าว
ฝั่งธุรกิจร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดก็ไม่รอช้าเช่นกัน ออกมาประกาศกระบวนการผลิตอาหารทุกช่องทางว่าไม่มีการใช้ไขมันทรานส์ ในการประกอบอาหารของให้ผู้บริโภคมั่นใจในอาหารที่นำมาจำหน่าย
นางแววคนีย์ อัสโสรัตน์กุล ผู้จัดการทั่วไป เคเอฟซี ประเทศไทย บริษัท ยัม เรสเทอรองตส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) กล่าวว่า เคเอฟซี ประเทศไทย ในฐานะร้านอาหารบริการด่วนที่มีสาขามากที่สุดในประเทศไทย ขอยืนยันว่าเมนูอาหารทุกเมนูที่จำหน่ายในร้านเคเอฟซี ประเทศไทย ปลอดจากไขมันทรานส์ 100% เนื่องจากเคเอฟซี ประเทศไทย ได้ดำเนินตามนโยบายบริษัทแม่ในประเทศสหรัฐอเมริกา ในการยกเลิกการจำหน่ายอาหารที่มีส่วนประกอบของไขมันทรานส์มาตั้งแต่ปี 2558 โดยได้ทำงานร่วมกับคู่ค้าผู้จำหน่ายวัตถุดิบทุกรายในการเลิกใช้ส่วนผสมที่สามารถทำให้เกิดไขมันทรานส์ออกไป
ขณะเดียวกันในฝั่งของร้านพิซซ่าฮัท ประเทศไทย ภายใต้การดำเนินงานของ บริษัท พีเอช แคปปิตอล ก็ออกมายืนยันว่าพิซซ่าฮัท ทุกเมนู ทุกหน้า ทุกขอบ ไม่ว่าจะเป็นแป้งหนานุ่ม แป้งบางกรอบ ขอบชีส หรือ ขอบไส้กรอกชีส ปราศจากไขมันทรานส์ 100% ลูกค้าสามารถไว้วางใจในทุกเมนูของพิซซ่าฮัทได้
นางอุษณา มหากิจศิริ กรรมการ บริษัท พีเอช แคปปิตอล ผู้บริหารร้านพิซซ่าฮัท กล่าวว่า ในฐานะที่พิซซ่าฮัทเป็นแบรนด์ชั้นนำที่มีชื่อเสียงระดับโลก จึงมีนโยบายใช้วัตถุดิบชั้นดีมีคุณภาพสูงมีรสชาติที่ดี และพิซซ่าฮัทให้ความสำคัญสูงสุดในเรื่องของคุณภาพ ความสะอาด รสชาติ และความปลอดภัยของอาหาร ที่ให้บริการแก่ลูกค้า เพื่อสร้างความไว้วางใจและพึงพอใจสูงสุดแก่ลูกค้าที่มาใช้บริการ
ด้าน แมคโดนัลด์ ก็ออกมาตอกย้ำคุณภาพอาหารที่ดีมีความปลอดภัย เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคเช่นกันด้วยการออกมาชี้แจงถึงอาหารแต่ละเมนูที่ผลิตเข้ามาทำตลาด เริ่มจากอาหารประเภททอด และเบอเกอรี่ของแมคโดนัลด์ ชี้แจงว่า ได้ใช้น้ำมันปาล์มที่ผ่านกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐานปราศจากไขมันทรานส์ จากซัพพลายเออร์ภายในประเทศ โดยมีหลักปฏิบัติในตรวจสอบคุณภาพน้ำมันที่ใช้ทอดอาหารอย่างสม่ำเสมอ เพื่อควบคุมคุณภาพของอาหารให้ได้ตามมาตรฐานของแมคโดนัลด์
ข่าวเด่น