นายกฯ ปลื้ม ADB ปรับเพิ่มศก.ไทยปีนี้โต 4.2% สงครามการค้าที่เกิดขึ้นยังไม่ส่งผลกระทบต่อไทย   โดยการส่งออกในเดือนที่ผ่านมา ยังขยายตัวทำสถิติใหม่ได้อย่างต่อเนื่อง

พล.ท.สรรเสริญ   แก้วกำเนิด  โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี   เปิดเผยว่า  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี  รู้สึกยินดีเมื่อรับทราบผลการคาดการณ์เศรษฐกิจไทยโดยธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (เอดีบี) ที่ระบุว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2561 จะขยายตัวถึง 4.2% จากเดิมที่คาดการณ์ไว้เพียง4.0%  เมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา  ซึ่งถือเป็นประเทศเดียวในภูมิภาคอาเซียนที่   เอดีบีปรับตัวเลขเพิ่มขึ้น         

โดยนายกฯ ย้ำว่า ปัจจัยที่สนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยปีนี้   เพราะไทยมีการส่งออกที่แข็งแกร่ง โดยปรับตัวสูงขึ้นถึง 5% ในช่วงไตรมาสแรกของปี เช่นเดียวกับการลงทุนภาคเอกชน และการบริโภคภายในประเทศที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น         

นายกรัฐมนตรียังได้รับรายงานว่า ขณะนี้ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ ยังไม่ส่งผลต่อเศรษฐกิจเอเชียและประเทศไทย โดยเอดีบียังคงคาดการณ์การขยายตัวของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในภูมิภาคเอเชียในปีนี้ไว้ที่ 6%

ขณะที่ น.ส.พิมพ์ชนก  วอนขอพร  ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า การส่งออกในช่วงครึ่งแรกของปี 2561 (ม.ค.-มิ.ย.) มีมูลค่า 1.25 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ  เพิ่มขึ้น 10.95% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการขยายตัวสูงสุดรอบ 7 ปี ส่วนการนำเข้ามีมูลค่า 1.22 แสนล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 15.61% ส่งผลให้ไทยเกินดุลการค้าช่วงครึ่งปีแรก 3,455.6 ล้านดอลลาร์         

สำหรับการส่งออกสินค้าไทยเดือน มิ.ย. 2561 มีมูลค่า 2.17 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 8.19% เทียบกับเดือน มิ.ย. 2560 ขยายตัวสูงขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่16 เมื่อเทียบในรูปเงินบาทขยายตัว 0.84% มูลค่า 6.94 แสนล้านบาท   ส่วนการนำเข้ามีมูลค่า 2.02 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 10.83% ส่งผลให้ไทยเกินดุลการค้าเดือน มิ.ย. 2561 มูลค่า 1,578.5 ล้านดอลลาร์       

การส่งออกเดือน มิ.ย.ขยายตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง  แม้ว่าการเติบโตจะชะลอตัวลงจากเดือนก่อนหน้านี้ ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการที่สหรัฐใช้มาตรการตอบโต้ทางการค้า กับทั่วโลก โดยเฉพาะจีนทำให้มีการนำเข้าสินค้าจากไทยเข้าไปทดแทน   โดยจะเห็นได้จากการส่งออกสินค้าไทยไปสหรัฐเดือน มิ.ย. มีมูลค่า2,488 ล้านดอลลาร์   ซึ่งเป็นมูลค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เพิ่มขึ้น 6.9%     

นอกจากนี้ หากดูตัวเลขสินค้าในกลุ่มไฮเทคโนโลยีและไอทีที่สหรัฐจะใช้มาตรการตอบโต้ทางการค้ากับจีน  พบว่าการส่งออกสินค้าไทยในกลุ่มเหล่านี้ไปตลาดสหรัฐ เดือน มิ.ย.เพิ่มขึ้นมาก เช่น ไอทีเพิ่ม 21% เครื่องคอมพิวเตอร์และชิ้นส่วน เพิ่ม 50% เครื่องจักรเครื่องมือ เพิ่ม 22% ชิ้นส่วนยานยนต์ เพิ่ม 41% ขณะที่กลุ่มเหล็กและอลูมิเนียม  ซึ่งสหรัฐใช้มาตรการภาษีกับสินค้าทั่วโลก พบว่ามีการส่งออกสินค้าเหล็กจากไทยไปสหรัฐเพิ่มขึ้น29.3%         

ทั้งนี้ คาดว่าการส่งออกทั้งปี 2561 จะเติบโต 8% ได้อย่างแน่นอน  แต่หากจะผลักดันให้การส่งออกเติบโตในระดับ 9-10% ต้องพิจารณาปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดยังคงเป็นเรื่องสงครามการค้า  โดยวันที่ 7 ส.ค. กระทรวงพาณิชย์จะประชุมร่วมกับธุรกิจที่เกี่ยวข้องเพื่อประเมินสถานการณ์อีกครั้ง