แบงก์-นอนแบงก์
หนุนใช้ 'พร้อมเพย์' ขยับเพดานโอนเงินเป็น 7 แสน


Thailand 4.0 ในภาคการเงินมีความก้าวหน้ามากขึ้นตามลำดับ  การโอนเงินผ่านพร้อมเพย์ ในกลุ่มรายย่อยได้เติบโตอย่างต่อเนื่อง  และกำลังจะพัฒนาไปสู่ลูกค้ากลุ่มอื่นๆ

 

 

 

ซึ่งนายอภิศักดิ์   ตันติวรวงศ์   รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า คณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบาย National e-Payment   กำลังพิจารณาเพิ่มวงเงินการโอนเงิน โดยได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียมการโอนผ่านระบบพร้อมเพย์เป็นไม่เกิน 2 ล้านบาท  จากปัจจุบันอยู่ที่ไม่เกิน 5,000 บาท  โดยทางสมาคมธนาคารไทยที่เข้าร่วมประชุมครั้งนี้เห็นด้วย ไม่ขัดข้องที่จะปรับเพิ่มวงเงินการโอนโดยได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียมดังกล่าว     

อย่างไรก็ตาม ในระยะแรกจะปรับเพิ่มวงเงินการยกเว้นค่าธรรมเนียมเป็น 7 แสนบาท ก่อน โดยจะเริ่มทำภายใน 1-2 เดือนข้างหน้านี้  หลังจากนั้นจะปรับเพิ่มขึ้นเป็น 2 ล้านบาท เพื่อรองรับระบบการชำระเงินในตลาดทุน  ทั้งนี้ปัจจุบันมีคนมาลงทะเบียนในระบบพร้อมเพย์มีอยู่จำนวน 44.3 ล้านราย  มีการโอนผ่านระบบนี้รวม 2.6 ล้านล้านบาท เป็นจำนวนรายการ 525 ล้านรายการ  การโอนเงินโดยเฉลี่ยผ่านระบบพร้อมเพย์อยู่ที่ประมาณ 4,000  บาทต่อรายการ

 

    

 

ด้านนายปรีดี   ดาวฉาย  ประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า  การขยายเพดานวงเงินโอนผ่านพร้อมเพย์โดยไม่คิดค่าธรรมเนียม  เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าใช้บริการพร้อมเพย์มากขึ้นนั้น ได้มีการหารือกันแล้วว่า ให้แต่ละธนาคารกำหนดการขยายเพดานกันเอง เพื่อจูงใจให้ภาคธุรกิจมาใช้บริการการโอนเงินดังกล่าว  เนื่องจากเดิมลูกค้านิยมใช้เช็คกันส่วนใหญ่ ดังนั้นหากมาใช้โอนเงินผ่านพร้อมเพย์ จะช่วยให้ลูกค้าใช้เช็คน้อยลง ถือเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายทั้งลูกค้าและธนาคาร   ส่วนผลกระทบด้านรายได้ก็มีค่อนข้างน้อย เพราะปัจจุบันธนาคารก็ไม่ค่อยมีรายได้จากธุรกรรมส่วนนี้อยู่แล้ว

 

ด้านนางสาวสิริธิดา  พนมวัน อยุธยา ผู้ช่วยผู้ว่าการสายนโยบายระบบการชำระเงินและเทคโนโลยีทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.ส่งเสริมการชำระเงินด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ หรืออีเพย์เมนท์ เพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับประชาชน ขณะที่แบงก์เองก็ได้ประโยชน์ ประหยัดต้นทุนการบริหารเงินสด 

ซึ่งล่าสุดอีเพย์เม้นท์รวมทุกช่องทางเพิ่มขึ้นมาก  สามารถทดแทนการใช้เงินสดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ได้เกือบ 10%  โดยในช่วงที่ผ่านมา ธปท.ได้ส่งเสริมให้มี โปรดักส์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของภาคประชาชน  หลังจากนี้ก็จะขยับไปสู่ภาคธุรกิจ เพราะมีวอลุ่มมาก     

สำหรับยอดการลงทะเบียนพร้อมเพย์ล่าสุดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง  โดยเฉพาะหลังยกเลิกค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมออนไลน์  วอลุ่มเพิ่มขึ้นเท่าตัว เพราะการโอนเงินต่างๆมาอยู่บนช่องทางพร้อมเพย์

ขณะที่ ธุรกรรมการเบิกถอนเงินสดในช่องทางสาขาก็เพิ่มขึ้นในอัตราที่ลดลง ทำให้แบงก์ก็ต้องปรับรูปแบบสาขามากขึ้น จากเดิมเป็นฟูลเซอร์วิส จะปรับสาขาธุรกิจ เป็นลักษณะทำสินเชื่ออย่างเดียว ให้คำแนะนำเอสเอ็มอี เป็นเฉพาะทางมากขึ้น 

 

 

ด้านกระทรวงพาณิชย์  นางจันทิรา  ยิมเรวัต  วิวัฒน์รัตน์   อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ  บอกถึงแนวโน้มธุรกิจ E-Commerce และธุรกิจ Logistics Express ที่ได้ทำการศึกษาโดยสำนักพัฒนาและส่งเสริมธุรกิจบริการ พบว่า   แนวโน้มธุรกิจอีคอมเมิร์ซมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นเป็นอย่างต่อเนื่อง   โดยมูลค่าอีคอมเมิร์ซของไทยปี 2560 มีมูลค่ารวมประมาณ 2.8 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.86%   
แบ่งเป็นมูลค่าอีคอมเมิร์ซประเภท B2B  จำนวน 1.675 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น8.63% ประเภท B2C จำนวน 812,000  ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.54% และอีคอมเมิร์ซประเภทอื่นๆ 324,000 ล้านบาท  เพิ่มขึ้น 3.24%  ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า ธุรกิจอีคอมเมิร์ซมีการขยายตัวอย่างก้าวกระโดด และคาดว่าจะมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 28 ส.ค. 2561 เวลา : 12:28:45
19-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 19, 2024, 5:11 am