ยังคงตอกย้ำการเป็นผู้นำตลาดเครื่องทำน้ำอุ่น-น้ำร้อนอย่างต่อเนื่อง สำหรับแบรนด์ สตีเบล ล่าสุด เมื่อต้นปี 2561 ที่ผ่านมา สตีเบล ได้มีการลงทุนกับโรงงานแห่งที่ 2 ด้วยเงินทุนกว่า 200 ล้านบาท เนื่องจากมีเป้าหมายที่จะให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของการผลิตและการส่งออกในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกให้ได้ภายในปี 2563
จากเป้าหมายธุรกิจดังกล่าว จึงทำให้ สตีเบล ต้องลงทุนซื้อโรงงานแห่งที่ 2 เพื่อเพิ่มการผลิตกลุ่มสินค้าใหม่ออกสู่ตลาด ควบคู่กับเพิ่มกำลังการผลิตสินค้าที่มีในปัจจุบัน และพัฒนาสินค้ายั่งยืน โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ปั๊มความร้อนและเครื่องทำน้ำร้อนแบบหม้อต้ม ซึ่งเป็นสินค้าทางเลือกใหม่ที่สตีเบล เอลทรอนต้องการนำเสนอ เพื่อช่วยให้มีการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ และยังช่วยปกป้องสิ่งแวดล้อม
นายโรลันด์ เฮิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท สตีเบล เอลทรอน เอเชีย จำกัด กล่าวว่า บริษัทจะให้ความสำคัญกับตลาดในประเทศไทย เนื่องจากไทยเป็นสำนักงานใหญ่ของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก บริษัทจึงต้องทำการซื้อโรงงานเก่าในนิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับโรงงงานผลิตสินค้าแห่งที่ 1 เพื่อพัฒนาเป็นโรงงานผลิตสินค้าแห่งที่ 2 โดยขณะนี้ได้เริ่มเข้าไปปรับปรุงอาคารบ้างแล้วบางส่วน ก่อนที่จะมีการซื้อเครื่องจักรใหม่ เพื่อเตรียมความพร้อมในด้านของการผลิตสินค้า คาดจะแล้วเสร็จพร้อมเดินเครื่องผลิตสินค้าได้ในต้นปี 2562
สำหรับสินค้ากลุ่มแรกที่ทำการผลิต คือ เครื่องทำน้ำร้อนแบบหม้อต้ม และเครื่องปั๊มความร้อน หลังจากนั้นจะทยอยผลิตกลุ่มสินค้าเครื่องปั๊มน้ำ และฮีทปั๊ม ซึ่งสินค้าที่จะทำการผลิตเพิ่มดังกล่าว หากเริ่มทำการผลิตอย่างจริงจัง สตีเบล คาดว่าจะมีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นสูงถึง 1 เท่าตัว โดยเฉพาะเครื่องทำอุ่น – น้ำร้อน จากปัจจุบันมีกำลังการผลิตสินค้าดังกล่าวอยู่ที่ประมาณ 4 แสนเครื่อง
จากแผนการดำเนินธุรกิจดังกล่าว สตีเบล มั่นใจว่าภายในปี 2563 ประเทศไทยจะกลายเป็นศูนย์กลางการส่งออกสินค้าของภูมิภาค ซึ่งจากแนวทางการดำเนินงานดังกล่าวจะทำให้ประเทศไทยมีสัดส่วนรายได้จากการส่งออกเพิ่มเป็น 50% จากปัจจุบันมีอยู่ที่ 40% ภายในปี 2562
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปีนี้ สตีเบล มีแผนที่จะเปิดตัวสินค้าใหม่เข้าทำตลาดด้วยกัน 4 กลุ่มผลิตภัณฑ์ เพื่อตอกย้ำวิสัยทัศน์ของการเป็นผู้นำด้านการจัดการเรื่องน้ำอย่างครบวงจร โดยในส่วนของสินค้าใหม่ที่จะนำเข้ามาทำตลาด คือ เครื่องทำน้ำอุ่น-ร้อน , ปั๊มน้ำ และเครื่องกรองน้ำ
ทั้งนี้ ในส่วนของ เครื่องปั๊มน้ำ สตีเบล จะนำสินค้ารุ่น สตีเบล บูส ปั๊มน้ำอัตโนมัติคุณภาพสูง ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ชูโรงเมื่อปีก่อนเข้ามาขยายช่องทางการจำหน่ายในกลุ่มของร้านอุปกรณ์ประปา กลุ่มผู้รับเหมา และผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ใหม่ๆ เนื่องจากช่องทางขายดังกล่าวยังมีช่องว่างให้เข้าไปทำตลาดได้อีกมาก
สินค้าตัวต่อมาที่ สตีเบล จะให้ความสำคัญในการทำตลาด คือ เครื่องทำน้ำร้อน รุ่น DDH EC ที่มีการออกแบบให้กะทัดรัด สามารถติดตั้งใต้ซิงก์น้ำได้ เหมาะสำหรับผู้พักอาศัยในพื้นที่ขนาดเล็กหรือคอนโดมิเนียม นอกจากนี้ยังมีเครื่องทำน้ำร้อน รุ่น DHC IL EC ซึ่งเป็นเครื่องทำน้ำร้อน ระบบดิจิตอลที่สมบูรณ์แบบรุ่นแรกของบริษัท และท้ายสุดคือ แม็กซ์สตรีม เครื่องกรองน้ำเชิงพาณิชย์ที่สามารถกรองน้ำสะอาดได้มากถึง 25,000 ลิตร
นายโรลันด์ กล่าวต่อว่า เพื่อตอกย้ำความมุ่งมั่น สตีเบล เอลทรอนซึ่งเป็นผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการให้กับสโมสรฟุตบอลบางกอกกล๊าส โดยการเข้าไปสนับสนุนทีมฟุตบอลดังกล่าว และเปิดโอกาสให้นิสิต นักศึกษาร่วมแข่งขันในโครงการ “Stiebel Eltron Modern Water Solution Bathroom Design Contest 2018” ออกแบบห้องน้ำ ณ สนามกีฬาลีโอ สเตเดียม ภายใต้คอนเซ็ป Modern Water Solution สานต่อนโยบายที่ร่วมสนับสนุนโครงการส่งเสริมเยาวชนต่างๆ ที่มีมาอย่างยาวนานอีกด้วย
จากแผนการดำเนินธุรกิจดังกล่าว สตีเบล คาดว่าสิ้นปี 2561 นี้จะมีรายได้ในประเทศไทยอยู่ที่ 1,000 ล้านบาท เติบโตจากปี 2560 ที่ผ่านมา 26% เนื่องจากช่วง 8 เดือนที่ผ่านมามีรายได้เติบโตสูงถึง 20% สวนทางกับภาพรวมตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เติบโตเป็นตัวเลข 1 หลัก ซึ่งจากแนวโน้มที่ดีดังกล่าวคาดการณ์ว่าในอีก 5 ปีนับจากนี้ หรือประมาณปี 2565 สตีเบลประเทศไทยน่าจะมีรายได้ขยายตัวเพิ่มเป็น 2,000 ล้านบาท เติบโตเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดโลก ซึ่ง สตีเบล คาดการณ์ว่าในปี 2565 จะมีรายได้จากทั่วโลกอยู่ที่ประมาณ 48,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2560 ที่ สตีเบลทั่วโลก มีรายได้อยู่ที่ประมาณ 20,000 ล้านบาท
สำหรับภาพรวมการแข่งขันของตลาดเครื่องทำน้ำอุ่น – น้ำร้อนในประเทศไทย ปีนี้ นายโรลันด์ มองว่า ยังคงมีการแข่งขันกันรุนแรงเหมือนกับทุกปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าในตลาดระดับซี เนื่องจากตลาดนี้จะเน้นการแข่งขันในเรื่องของราคา โดยปีนี้คาดว่าจะแข่งกันลดราคาอีกไม่ต่ำกว่า 5%
อย่างไรก็ดี แม้ว่าตลาดเครื่องทำน้ำอุ่น – น้ำร้อนจะมีการแข่งขันกันรุนแรง แต่ สตีเบล ก็ไม่มีความกังวลในเรื่องดังกล่าว เนื่องจากสินค้าของ สตีเบล เน้นทำตลาดระดับบีขึ้นไปจะไม่เน้นเข้าไปแข่งขันราคา แต่จะแข่งงในด้านของนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัย เห็นได้จากการเปิดตัวสินค้านวัตกรรมใหม่ๆ ที่นำเข้ามาทำตลาดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งล่าสุด นายโรลันด์ ก็ออกมาแย้มว่า หลังจากโรงงานแห่งที่ 2 สร้างเสร็จสมบูรณ์สินค้าที่จะนำมาผลิตในอนาคต คือ ฮีทปั๊ม และระบบระบายอากาศ ทั้งนี้ก็เพื่อให้ประเทศไทยมีสินค้าที่ครอบคลุมทุกความต้องการของผู้บริโภค
ข่าวเด่น