การตลาด
สกู๊ป "กลุ่มเซ็นทรัล"แตก "ปอร์ตอ เดอ ภูเก็ต" โอเพ่นมอลล์ น้องใหม่ชิมลาง


ถึงจะมีค้าปลีกหลากหลายรูปแบบอยู่ในพอร์ตบริหาร ไม่ว่าจะเป็นศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อ ร้านเครื่องใช้ไฟฟ้า ร้านอุปกรณ์ก่อสร้างและของต่างบ้าน ร้านสินค้าแฟชั่น และร้านสุขภาพและความงาม เป็นต้น แต่บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด ยังคงเดินหน้าพัฒนาห้างค้าปลีกรูปแบบใหม่ๆ เข้ามาทำตลาดอย่างต่อเนื่อง เพราะการที่ธุรกิจจะเติบโตได้ต้องเกิดจากการขยายธุรกิจใหม่ๆ


 
 
 
 
 
จากปัจจัยดังกล่าว ทำให้ กลุ่มเซ็นทรัล ต้องเดินหน้าพัฒนาธุรกิจค้าปลีกรูปแบบใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้มีการเปิดตัวห้างค้าปลีกฟอร์แมตใหม่ในรูปแบบโอเพ่นมอลล์เป็นครั้งแรก หลังจากปัจจุบันประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีกับการพัฒนาธุรกิจในรูปแบบโคลสมอลล์ โดยแบรนด์น้องใหม่ที่กลุ่มเซ็นทรัลส่งเข้ามาทำตลาดในครั้งนี้ คือ "ปอร์ตอ เดอ ภูเก็ต"

เหตุผลที่ทำให้ กลุ่มเซ็นทรัล เลือกจังหวัดท่องเที่ยวอย่างภูเก็ต เป็นจังหวัดนำร่องในการทดลองโอเพ่นมอลล์น้องใหม่ในครั้งนี้ เพราะว่าค้าปลีกในรูปแบบนี้เหมาะที่จะเจาะกลุ่มเป้าหมายนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติที่มีกำลังซื้อสูง ซึ่งจังหวัดภูเก็ตถือเป็นจังหวัดที่มีคุณสมบัติดังกล่าว

นอกจากนี้ ประชากรที่อยู่อาศัยในจังหวัดภูเก็ตยังมีมากถึง 2.4 ล้านคน ส่งผลให้ผู้ประกอบการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ตบเท้ากันเข้าไปพัฒนาโครงการในรูปแบบต่างๆ เห็นได้จากจำนวนที่พักอาศัยในรูปแบบวิลล่าที่มีมากถึง 4,500 ยูนิต ในรูปแบบคอนโดมิเนียม 13,000 ยูนิต และโรงแรม 27,000 ยูนิต 

ปัจจัยหนุนที่เกิดขึ้นดังกล่าว ประกอบกับการเปิดให้บริการเซ็นทรัล ภูเก็ต ในช่วงเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี จึงทำให้กลุ่มเซ็นทรัลมีความมั่นใจมากขึ้นที่จะเข้าไปลงทุนเปิดให้บริการโอเพ่นมอลล์น้องใหม่ “ปอร์ตอ เดอ ภูเก็ต”

 
 
 
 
 
นายเลิศวิทย์ ภูมิพิทักษ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด กล่าวว่า จากความสำเร็จของเซ็นทรัล ภูเก็ต ที่เพิ่งเปิดเมื่อเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา บริษัทจึงเล็งเห็นถึงศักยภาพของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในภูเก็ต ด้วยตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในจังหวัดเพิ่มขึ้นอย่าง ต่อเนื่อง โดยในปี 2017 มีนักท่องเที่ยวมากกว่า 16.9 ล้านคน สร้างรายได้ทางเศรษฐกิจกว่า 3.77 แสนล้านบาท และคาดการณ์ว่าในอีก 2-3 ปี จะมีนักท่องเที่ยวมากถึง 20-25 ล้านคน ยอดเงินสะพัดในจังหวัดกว่า 5.55 แสนล้านบาท บริษัทจึงเล็งเห็นโอกาสที่จะเข้าไปขยายธุรกิจค้าปลีกรูปแบบใหม่ในจังหวัดภูเก็ต เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจและนักท่องเที่ยวที่จะเพิ่มสูงขึ้น

สำหรับศูนย์การค้ารูปแบบใหม่ “ปอร์โต เดอ ภูเก็ต” ที่กำลังจะเริ่มทำการก่อสร้างในต้นปี 2562 นี้ จะก่อสร้างขึ้นบนพื้นที่ 50 ไร่ของย่านเชิงทะเลนั้น จะก่อสร้างภายใต้แนวคิด “ที่สุดแห่งประสบการณ์การใช้ชีวิตที่เหนือกว่า” (The Finest Living Experience) ซึ่งเป็นโครงการแห่งแรกและแห่งเดียวที่ผสมผสานระหว่างดีไซน์ ไลฟ์สไตล์และพื้นที่ที่เป็นธรรมชาติได้อย่างลงตัว เพื่อตอบรับกับเทรนด์การเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติของคน รุ่นใหม่ ซึ่งในส่วนของงบลงทุนในการก่อสร้าง กลุ่มเซ็นทรัล ได้เตรียมไว้ที่กว่า 1,000 ล้านบาท

ในส่วนของพื้นที่ค้าปลีก ที่ กลุ่มเซ็นทรัล จะเตรียมไว้บริการลูกค้าทั้งคนไทยและต่างชาติที่จะเข้าไปใช้บริการนั้น จะมีพื้นที่ประมาณ 40,000 ตร.ม. โดยไฮไลท์เตรียมไว้รองรับความต้องการของลูกค้านั้นมีอยู่ด้วยกัน 7 ไฮไลท์สำคัญ คือ 1. ภูเก็ตเที่ยน เมอร์คาโด้ (Phuketian Mercado) ฟู้ดเดสติเนชั่น ที่รวบรวมร้านอาหารชั้นนำ คาเฟ่ บาร์และร้านเครื่องดื่มหลากหลายรูปแบบจากทั่วทุกมุมโลกมาให้บริการในที่เดียว ภายใต้แนวคิด "วัน ซิงเกิ้ง รูฟ คอนเซปต์" (One Single Roof Concept) ให้ลูกค้าได้เลือกแฮงเอ้าท์กันได้ตั้งแต่เช้าจรดค่ำ

2. เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ (Central Food Hall) สุดยอดฟู้ดสโตร์ที่ดีที่สุดในเอเชีย ครอบคลุมทั้ง 8 ประเภท ได้แก่ เนื้อสัตว์และซีฟู๊ดคุณภาพเยี่ยม,เบเกอรี่, ชีส, ไวน์เลิศรส, สินค้าอุปโภค-บริโภคจากทั้งในและต่างประเทศ,และผลิตภัณฑ์ความงาม 3. เรสเตอรองส์ แอนด์ คาเฟ่ โซน (Restaurant and Café Zone) แหล่งรวบรวมร้านอาหารชื่อดังในจังหวัดภูเก็ต และกรุงเทพ เช่น ร้านตู้กับข้าว สุดยอดร้านอาหารพื้นเมืองของภูเก็ต ,สไปซ์ เฮ้าส์ (Spice House) อาหารรัสเซียสูตรต้นตำรับ, ไท บาย เรด สแนปเปอร์ (Tai by Red Snapper) ร้านอาหารฟิวชั่นสไตล์ญี่ปุ่น , ร้านแฟล็กชิพสโตร์ที่สมบูรณ์ที่สุดของไวน์ คอนเนคชั่น (Wine Connection) และร้านอูบานี่ ทรัฟเฟิล บาร์ แอนด์ เรสเตอรองท์ (Urbani Truffle Bar & Restaurant) ร้านอิตาเลียนสุดหรูในธีมทรัฟเฟิล เป็นต้น

 
 
 
 
 
ไฮไลท์ที่ 4 คือ มัลติดีไซน์ เฮ้าส์ (Multi Design House) รวบรวมของดีไซน์จากหลากหลายดีไซเนอร์ชั้นนำทั้งไทยและต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นสินค้าสุดเอ็กซ์คลูซีฟ จากกลุ่มธุรกิจหลักของเซ็นทรัล ที่คัดสรรสินค้าและบริการ ด้วยสเปเชียลตี้ สโตร์ (Specialty Store) ฟอร์แมทใหม่ เพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย ทั้ง ซูเปอร์สปอร์ต, เพาเวอร์ บาย, บีทูเอส และแฟมิลี่มาร์ท เป็นต้น

ในส่วนของไฮไลท์ที่ 5  คือ Healthy Heaven นอกจากสภาพแวดล้อมที่อุดมสมบูรณ์ด้วยพื้นที่สีเขียว ยังมีบริการจากบิวตี้ สปา ซาลอนเสริมความงาม ฟิตเนส และมัทสึคิโยะ ร้านสุขภาพและความงามอันดับหนึ่งจากญี่ปุ่น เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ของคนรักสุขภาพ 6. Kid Learning Space พื้นที่สนามเด็กเล่นเอ้าท์ดอร์ กว่า 300 ตร.ม. พร้อมลานกิจกรรมสำหรับเด็กๆ เช่น เลนจักรยาน, ตาข่ายใยแมงมุมเพื่อปีนป่าย และบ่อทราย ส่วนไฮไลท์ที่ 7 คือ Pet Friendly Zone ศูนย์การค้าแรกและศูนย์การค้าเดียวในภูเก็ตที่เอาใจคนรักสัตว์ ด้วย สนามหญ้าขนาดย่อมที่สามารถนำสัตว์เลี้ยงมาวิ่งเล่นได้ ร้านของของสำหรับสัตว์เลี้ยง และบริการกรูมมิ่งสัตว์เลี้ยง

หลังจากเปิดให้บริการในไตรมาส 4 ปี 2562 กลุ่มเซ็นทรัลคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาใช้บริการอย่างน้อย 3 ล้านคนต่อปี  ในจำนวนดังกล่าวคาดว่าจะเป็นคนในพื้นที่ที่มีกำลังซื้อสูง (Local) ,ชางต่างชาติที่ได้รับอนุญาตทำงานในภูเก็ตที่พักอาศัยบริเวณนี้ (Expat) ประมาณ 40% ส่วนอีก 60% เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ แบ่งเป็น 2 เซกเมนต์ ได้แก่ 1. นักท่องเที่ยวสไตล์ FIT (Free and Independent Traveler) เช่น ชาวจีน, เกาหลี, ญี่ปุ่น, และสิงค์โปร์ ที่จะมีกำลังซื้อสูง เน้นการท่องเที่ยวแบบพรีเมี่ยมและพร้อมจะจ่ายเพื่อแลกกับประสบการณ์ใหม่ๆ โดยจะมีระยะเวลาในการมาท่องเที่ยวในประเทศไทย เฉลี่ยอยู่ที่ 5- 7 วัน และ 2. นักท่องเที่ยวตะวันตกที่มีกำลังซื้อสูง (Western High Spenders) เช่น ชาวรัสเซีย เยอรมัน อังกฤษ และอเมริกา ซึ่งเน้นการพักผ่อนในระยะยาว (Long Stay)

จากแนวทางการดำเนินธุรกิจที่ต้องการพัฒนาค้าปลีกรูปแบบใหม่ๆ เข้ามาทำตลาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อผลักดันให้ธุรกิจเติบโต คาดว่าเร็วๆ นี้ กลุ่มเซ็นทรัลน่าจะมีแบรนด์น้องใหม่เข้ามาเสริมทัพให้ได้เห็นอีกอย่างแน่นอน

 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 01 พ.ย. 2561 เวลา : 21:07:05
19-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 19, 2024, 5:07 am