นายธนวรรธน์ พลวิชัย รองอธิการบดีอาวุโสวิชาการและงานวิจัย และผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ผลการสำรวจแนวโน้มอุตสาหกรรมเกษตรและอาหารแปรรูปไทยในยุคดิจิทัล พบว่าธุรกิจขนาดเล็ก 95.7% ยังอยู่ในยุค 1.0ใช้แรงงานเป็นหลัก และ 2.0 ใช้แรงงานร่วมกับเครื่องจักรขนาดเล็ก มีเพียง 2.65% เท่านั้นที่ก้าวไปสู่ 4.0 แสดงให้เห็นว่าเอสเอ็มอีไทยยังไม่ถึงดวงดาว และตลอดระยะเวลา 3 ปีของรัฐบาลชุดนี้ทำให้เอสเอ็มอีไทยก้าวไปสู่ 4.0 น้อยมาก
นายธนวรรธน์กล่าวว่า อุตสาหกรรมเกษตรและอาหารแปรรูปไทยถือเป็นหนึ่งใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายของรัฐบาล และเป็นอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจ เนื่องจากในกลุ่มนี้มีเอสเอ็มอีถึง 2 ล้านราย จากเอสเอ็มอีทั้งระบบ 5.2 ล้านราย และมีแรงงานเกี่ยวข้องใน 2 อุตสาหกรรมกว่า 15 ล้านคน ดังนั้นการที่ไทยจะต้องขับเคลื่อนไปข้างหน้าตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี อุตสาหกรรมอาหารจึงมีความสำคัญในอันดับต้น ๆ
“แม้จะยังก้าวไปไม่ถึง 4.0 แต่พบว่าทั้ง 2 อุตสาหกรรมมีการใช้อีคอมเมิรซ์มาช่วยธุรกิจ 65.7% ถือว่ามากพอสมควร แต่ยังไม่ได้มีการเจาะลึกว่าใช้อย่างมีประสิทธิภาพไหม ซึ่งเอสเอ็มอีรู้ว่าไม่สามารถแข่งขันได้ และเห็นถึงความสำคัญของเทคโนโลยี โดยกลุ่มตัวอย่าง 42.28% ระบุว่าเทคโนโลยีสำคัญมาก โดยมีแผนที่จะลงทุนเทคโนโลยีเพิ่มช่วง 1-2 ปีถึง 71.9%”นายธนวรรธน์ กล่าว
นายธนวรรธน์กล่าวว่า สิ่งที่เอสเอ็มอีต้องการให้รัฐบาลช่วยเหลือเกี่ยวกับเทคโนโลยีเช่น เช่น จัดทำช่องทางการจำหน่ายสินค้า ให้ความรู้ อบรม ข้อมูลด้านเทคโนโลยีเพื่อนำไปใช้ในธุรกิจ ช่วยส่งเสริมกลยุทธ์ในการแข่งขันทางด้านการตลาดทั้งในและต่างประเทศ และส่งเสริมประสิทธิภาพในการผลิตและนวัตกรรมใหม่ๆ โดยต้องการให้รัฐช่วยด้านเงินลงทุนมากที่สุด 38.25% รองลงมาด้านเทคโนโลยี นวัตกรรม 27.04% ด้านภาษี 18.94% ด้านการอบรมความรู้ 10.60% ด้านวิจัยและพัฒนา 3.06%
ขณะนี้ยอดขายเอสเอ็มอียังทรงตัวรอการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ โดยในปีหน้าเศรษฐกิจโต 4-4.5% คาดว่าทำให้เอสเอ็มอีฟื้นตัว สิ่งที่เขาต้องการคือสินเชื่อมีเงื่อนไขแบบผ่อนปรน เพื่อนำมาขยายกิจการรองรับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ รวมถึงนำมาปรับปรุงเทคโนโลยีเพื่อให้หลุดพ้นยุค 1.0 และ 2.0 แบงก์รัฐต้องมีการเตรียมสินเชื่อสอดคล้องกับการฟื้นตัวของเอสเอ็มอี
ด้านนายมงคล ลีลาธรรม กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย(ธพว.หรือเอสเอ็มอีแบงก์) กล่าวว่า ผลสำรวจดังกล่าวแสดงให้เห็นอย่างเด่นชัดว่า เอสเอ็มอีไทย กลุ่มอุตสาหกรรมเกษตรและอาหารแปรรูป ทั้งขนาดเล็ก ขนาดกลาง ให้ความสำคัญและสนใจที่จะนำเทคโนโลยีสมัยใหม่ ทั้งเครื่องจักร นวัตกรรม ตลอดจน เทคโนโลยีสารสนเทศ มาช่วยยกระดับธุรกิจ เพราะเชื่อมั่นว่าจะสร้างประโยชน์ให้ธุรกิจได้อย่างสูงในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นด้านลดต้นทุน ควบคุมการผลิตได้มาตรฐาน ช่วยขยายตลาดไปสู่สากล เป็นต้น ธพว.เองจะสนับสนุนให้กลุ่มเอสเอ็มอีดังกล่าวเต็มที่ ทั้งในเรื่องเงินทุน ความรู้ เพื่อให้เอสเอ็มอีพัฒนาตนเองให้มากขึ้น
.jpg)
.jpg)
ข่าวเด่น