แบงก์-นอนแบงก์
KBANKรุกธุรกิจไพรเวทแบงก์ ปรับกลยุทธ์ขยายช่องทางดิจิทัล หนุนรายได้โต8%


กสิกรไพรเวทแบงก์ระบุ ผลดำเนินงานปี 61 โต 8% หลังออกผลิตภัณฑ์ตอบโจทย์ลูกค้า พร้อมปรับกลยุทธ์การลงทุนให้สอดคล้องกับเศรษฐกิจปีหน้าที่ชะลอตัว  

          
นายจิรวัฒน์  สุภรณ์ไพบูลย์ ไพรเวท แบงกิ้ง กรุ๊ป เฮด ธนาคารกสิกรไทยเปิดเผยว่าในปี 62 เตรียมออกผลิตภัณฑ์ใหม่ด้านการลงทุนรองรับความต้องการลูกค้าช่วงก้าวเข้าสู่ปีที่ภาวะเศรษฐกิจกำลังเข้าสู่ระยะท้ายของวัฏจักรเศรษฐกิจ (Late cycle) พร้อมเตรียมพัฒนาGlobal Investment Platformเพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ส่วนการบริหารทรัพย์สินด้านอื่นๆ ธนาคารฯ เตรียมโซลูชั่นเพื่อรองรับกฎหมายใหม่ที่กำลังจะออก เพื่อช่วยลูกค้าเตรียมพร้อมและมีแผนการบริหารจัดการและรับมือได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็น ภาษีที่ดินที่จะบังคับใช้ในปี 63 และกฎหมายทรัสต์ เป็นต้น
          
 
นอกจากนี้ธนาคารฯจะขยายขอบเขตการให้บริการด้านการให้คำปรึกษาการบริหารทรัพย์สินครอบครัวสู่ลูกค้าในต่างจังหวัดมากขึ้น เพื่อให้ลูกค้าสามารถใช้บริการต่างๆ ที่ธนาคารฯ พัฒนาขึ้นมาได้อย่างสะดวก ธนาคารฯ มีแผนการพัฒนาช่องทางดิจิทัล ซึ่งต่อยอดจากระบบCore Bankingระดับโลกที่ธนาคารได้เริ่มใช้งานแล้วในปีที่ผ่านมา
          
 
โดยได้แบ่งลูกค้าเป็น 2กลุ่ม คือ กลุ่มแรก ลูกค้าที่ค่อนข้างอ่อนไหวต่อภาวะตลาดระยะสั้น  ธนาคารฯ จะแนะนำให้สำรองสภาพคล่อง ปรับลดความเสี่ยงการลงทุนให้น้อยลง การกระจายความเสี่ยงในหลายๆ สินทรัพย์ โดยจะนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ยังไม่มีในตลาด เพราะที่ผ่านมาตลาดดีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปีหน้าถือเป็นปีที่ควรเตรียมความพร้อมสำหรับช่วงที่เศรษฐกิจจะขยายตัวช้าลง ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมคือพันธบัตรระยะยาวทั่วโลกและหุ้นกู้แปลงสภาพ
          
นอกจากนี้ตลาดหุ้นในบางภูมิภาคยังน่าลงทุน อยู่กลยุทธ์ที่เหมาะสมไม่ใช่การลงทุนตรงๆ ตามทิศทางตลาดเช่นในอดีต กลยุทธ์ใหม่ที่จะตอบโจทย์ ได้แก่ การใช้ข้อมูล เทคโนโลยี และความสามารถของทีมจัดการกองทุนในกลยุทธ์Long/Short (ซื้อและขายสินทรัพย์พร้อมกัน โดยซื้อกลุ่มสินทรัพย์ที่คาดว่าผลตอบแทนจะดีกว่าอีกกลุ่มสินทรัพย์หนึ่งทั้งในตลาดขาขึ้นและลง) หรือสร้างกลไกลงทุนในสินทรัพย์ที่มีการควบคุมความเสี่ยง (Managed Volatility)
   
 
   
สำหรับลูกค้ากลุ่มที่สอง ที่ยอมรับความเปลี่ยนแปลงของตลาดระยะสั้นได้ ธนาคารฯแนะนำให้ลงทุนระยะยาว ซึ่งเป็นสิ่งที่ธนาคารแนะนำมาโดยตลอด อย่างGlobal Multi Assetที่จะหาผลิตภัณฑ์มาเพิ่มเติม การจัดตั้งกองทุนที่ลงทุนในกลุ่มหุ้นกู้ที่มีระยะเวลาครบกำหนดใกล้เคียงกันและพอคาดการณ์ผลตอบแทนได้ กองทุนPrivate Equityที่ลงทุนในบริษัทที่มีศักยภาพสูงนอกตลาดหลักทรัพย์ทั่วโลก และการลงทุนที่สอดคล้องไปกับธีมการเปลี่ยนแปลงของโลกในระยะยาว เช่นAI, Next Gen Tech,และSmartCity
          
“ส่วนการบริหารทรัพย์สินด้านอื่นๆ ธนาคารฯ เตรียมโซลูชั่นเพื่อรองรับกฎหมายใหม่ที่กำลังจะออก เพื่อช่วยลูกค้าเตรียมพร้อมและมีแผนการบริหารจัดการและรับมือได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ธนาคารฯ จะขยายขอบเขตการให้บริการด้านการให้คำปรึกษาการบริหารทรัพย์สินครอบครัวสู่ลูกค้าในต่างจังหวัดมากขึ้น ธนาคารฯมีแผนการพัฒนาช่องทางดิจิทัล ซึ่งต่อยอดจากระบบ Core Banking ระดับโลกที่ธนาคารได้เริ่มใช้งานแล้วในปีที่ผ่านมา คาดปี 2562 สร้างรายได้เติบโต 8%” นายจิรวัฒน์ กล่าว      

อย่างไรก็ตามในปี 61จำนวนลูกค้าและสินทรัพย์ภายใต้การจัดการ (AUM) โดยมีจำนวนลูกค้า 11,000ราย สินทรัพย์ภายใต้การจัดการทั้งหมดประมาณ7.5แสนล้านบาท  ซึ่งจำนวนลูกค้าเติบโตขึ้น8% และAUMเติบโต0.2%เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ส่วนในปีหน้าคาดว่าการเติบโตคงทรงตัวใกล้เคียงปีนี้ เนื่องจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัว 
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 20 ธ.ค. 2561 เวลา : 17:17:15
25-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 25, 2024, 8:49 pm